สิวหิน บนใบหน้า รักษาไม่ยากอย่างที่คิด

สิวหิน ปัญหากวนใจทุกเพศทุกวัย

ใบหน้าขาว กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ไร้สิวเสี้ยน เป็นใบหน้าในอุดมคติของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง ดังนั้นการมีริ้วรอย สิวเสี้ยน มันไม่ได้มีผลเเค่กับใบหน้า เเต่ยังมีผลต่อความมั่นใจของบุคคลนั้นๆ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ต้องใช้ใบหน้า ใช้ภาพลักษณ์ ในการหากิน ยิ่งสร้างความลำบากใจเข้าไปใหญ่

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับสิวเสี้ยน ทั่วๆไป แต่ตุ่มขาว ที่ขึ้นตามใต้ตา หรือบริเวณอื่นๆ หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคย ว่ามันคืออะไร และคงกังวลว่าจะรักษามันอย่างไรดี ตุ่มขาวๆ นั้นเรียกว่า สิวหิน ในบทความนี้จะช่วยขยายความ ให้เรารู้ว่า สิวหิน รักษาได้ โดยต้องดูว่ามันคืออะไรก่อน จากนั้นค่อยทำความเข้าใจถึงวิธีการรักษา และป้องกันไม่ให้เกิดสิวหิน


สิวหิน คืออะไร ?

สิวหิน (Syringoma) เป็นสิวที่รักษายากกว่าสิวเสี้ยนธรรมดาทั่วไป ถ้าพูดตามภาษาแพทย์ สิวหินก็คือ เนื้องอกของท่อเหงื่อหรือต่อมเหงื่อ โดยสิวหินมีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กสีขาวขุ่นหรือสีเหลือง ถึงจะเป็นเนื้องอก เเต่ก็ไม่ได้มีอันตรายจนต้องกังวล เพราะมันจะไม่กลายเป็นเนื้อร้าย เพียงเเต่เป็นสิวบนใบหน้าที่รักษยาก ซึ่งสร้างความรำคาญ และลดทอนความมั่นใจของคนที่มีความรักสวยรักงาม


บริเวณที่มักเกิดสิวหิน

บริเวณที่สิวหินมักจะเกิด คือ บริเวณรอบดวงตา อาจจะเป็น สิวหินใต้ตา หนังตาบน หนังตาล่าง หรือสิวหินเปลือกตา แต่สิวหินอาจเกิดได้บนส่วนต่างๆของร่างกายได้เช่นกัน เช่น รักเเร้ สะดือ หน้าอก บริเวณข้อพับ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมเหงื่อ

โดยส่วนใหญ่เเล้วบริเวณที่เกิดสิวหิน จะไม่มีอาการเจ็บ หรือคันอะไร เเต่สำหรับบางรายก็อาจมีอาการได้ ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคล จำนวนของสิวหินจะมีมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น และสิวหินมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย


สิวหินเกิดจากสาเหตุใด

พื้นฐานเเล้ว สิวหินเกิดจากเนื้องอกบริเวณต่อมเหงื่อ ซึ่งไม่เป็นอันตรายตามที่กล่าวไว้เบื้องต้น เเต่สิวหินก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ สาเหตุของสิวหินก็จะมีความเเตกต่างกันไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของสิวหิน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหิน มีดังนี้

สิวหินประเภทต่างๆ และสาเหตุการเกิด

สิวหินปฐมภูมิ

สิวหินปฐมภูมิ เกิดจากเส้นใยเคราตินที่ติดอยู่ใต้ผิวหนังสะสมรวมตัวกับไขมันในต่อมใต้ผิวหนัง เมื่อเกิดการทับถมต่อไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นสิวหัวปิด หรือสิวหินปฐมภูมิในที่สุด โดยส่วนใหญ่มักจะปรากฏที่บริเวณเปลือกตา หน้าผาก หรืออวัยวะเพศ และบริเวณรอยพับจมูกในเด็กเล็ก เป็นไปได้ที่จะหายเองได้ในไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจอยู่นานเป็นเดือน

สิวหินในวัยหนุ่มสาว

สิวหินชนิดนี้ อาจเกิดขึ้นจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ ความผิดปกติทางพันธุกรรมอื่นๆ หรือร้ายเเรงสุดอาจเป็นมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเคสนี้เกิดขึ้นได้น้อยมาก

สิวหินชนิดแบนราบ

สิวหินชนิดเเบนราบ เป็นสิวหินที่เจริญเติบโต มาจากการติดเชื้อ จนปรากฏให้เห็นบนผิวหนัง ซึ่งอาจกว้างได้หลายเซนติเมตร หรือสิวหินชนิดนี้อาจมความเกี่ยวข้องกับโรคผิวหนังบางชนิด อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถระบุสาเหตุที่เกิดได้อย่างชัดเจน บริเวณที่สิวหินชนิดเเบนราบ มักจะเกิด คือ บริเวณหลังหู เปลือกตา แก้ม และกราม เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่มักจะเกิดได้มากกับผู้หญิงวัยกลางคน

สิวหินชนิดบาดแผล

สิวหินชนิดบาดเเผล ชื่อตรงตามตัว สาเหตุเกิดของสิวหินชนิดนี้เกิดจาก การบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่น ผิวหนังพุพอง เเผลไฟไหม้ หรือเเผลที่เกิดจากการเสียดสีบริเวณเดิมๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปรบกวนรูขุมขน และต่อมไขมันจนทำให้เกิดสิวหิน แต่ส่วนมากสิวหินชนิดนี้ จะเกิดบริเวณหลังมือ หรือนิ้วมือ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีการทำกิจกรรมมากกว่าอวัยวะส่วนอื่น


สิวหิน สิวข้าวสาร แตกต่างกันอย่างไร

สิวหิน และสิวข้าวสาร เป็นสิวที่มีความใกล้เคียงกัน ในเเง่ของลักษณะ และบริเวณที่เกิดสิว โดยความเเตกต่างของสิวหิน และสิวข้าวสาร ที่สามารถดูได้อย่างชัดเจน คือ สาเหตุของการเกิดสิวหิน

สิวหิน (SYRINGOMA)

สิวหิน (Syringoma) เกิดจากเนื้องอกบริเวณท่อเหงื่อ เป็นเนื้องอกของต่อมเหงื่อ ซึ่งมักเกิดบริเวณใต้ตา และอยู่ค่อนข้างลึกใต้ผิว 

สิวหัวข้าวสาร (MILIA)

สิวหัวข้าวสาร (Milia) เกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อ ซึ่งต่างจากสิวหิน ซึ่งเป็นเนื้องอก โดยมากสิวข้าวสารมักเกิดจากปัจจัยภายนอกที่มารบกวนผิว เช่น เกิดเป็นสิวข้าวสารหลังแผลหาย หรือมีการขัดถูผิว ซึ่งพบบ่อยบริเวณรอบดวงตา โหนกแก้มและจมูก 


สิวหินรักษาอย่างไร

สิวหินรักษาได้ไม่ยากอย่างที่คิด โดยการรักษาสิวหินนั้นจะตั้งเป้าไปที่การหาวิธีลดขนาดของสิวหินให้เล็กลง จนยุบลงในที่สุด เพราะการมีสิวหินบนใบหน้าส่งผลต่อความสวยงามบนใบหน้า นอกจากนี้การรักษาสิวหินควรทำให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเเผลเป็นซ้ำ โดยวิธีการเอาสิวหินออกจากใบหน้า มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

การรักษาสิวหิน

การกดสิว

การกดสิว เป็นวิธีกำจัดสวหินที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยการใช้ด้านเข็มกดลงไปที่สิวหิน เพื่อให้เกิดช่องที่สิวจะสามารถออกมาได้ จากนั้นค่อยๆดันเพื่อให้หัวสิวโผล่ออกมาจากรูที่เราเจาะไว้ เเต่การทำด้วนตนเองอาจเป็นแผลได้ ดังนั้นหากเลือกที่จะกดสิวกับเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าที่จะเกิดเเผลเป็น

รักษาด้วยเลเซอร์

วิธีรักษาสิวหินด้วยการยิงเลเซอร์นั้นต้องทำโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เป็นวิธีรักษาสิวหินที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธืที่ดี เพราะโอกาสเกิดแผลเป็นจากการักษาจะน้อยกว่าวิธีอื่นๆ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะยิงคาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (CO2 Laser) เพื่อทำลายและตัดสิวหินออก แต่โอกาสกลับมาเป็นใหม่ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นควรที่จะปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทำจะดีกว่า

รักษาด้วยความเย็น (Liquid Nitrogen)

อีกวิธีรักษาสิวหิน ที่ต้องรักษากับเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยการรักษาด้วยความเย็น จะเป็นความเย็นจากไนโตรเจนเหลว นำมาจี้เพื่อทำลายตัวเนื้องอกสิวหินให้หลุดออกจากผิวหนังได้อย่างง่ายดาย

รักษาด้วยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า (Electrocautery)

วิธีรักษาสิวหินด้วยใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า จะใช้ไฟฟ้าในการทำลายและตัดสิวหินออก ซึ่งเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้อุปกรณ์รักษาเฉพาะทาง วิธีเอาสิวหินออกด้วยการใช้ไฟฟ้าจี้ให้ผลการรักษาที่ดี โดยผลข้างเคียง และหลักการในการรักษาค่อนข้างใกล้เคียงกับการรักษาด้วยเลเซอร์


สิวหิน ป้องกันอย่างไร

วิธีการป้องกันสิวหินที่ดีที่สุด เราต้องเข้าใจก่อนว่า สิวหินนั้นเกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายเเล้ว เกิดเป็นเนื้องอกบริเวณต่อมเหงื่อ ดังนั้นวิธีการป้องกันสิวหินเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายๆเลย ก็คือ การรักษาความสะอาดบนใบหน้า เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ลดการอุดตัน บำรุงรักษาผิวเพื่อปรับสมดุลผิวหน้า ลดการเกิดสิวหิน โดยวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดสิวหิน มีรายละเอียด ดังนี้

ลดการใช้เครื่องสำอาง

เครื่องสำอางอาจช่วยเเต่งเเต้มใบหน้าให้ดูสวยงาม แต่เครื่องสำอางจะไปอุดตันรูขุมขน ไปรบกวนผิวหนังทำให้เกิดสิวหินได้ ดังน้นควรใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็น และไม่เเต่งหน้าหนาจนเกินไป เพราะเราอาจล้างได้ไม่สะอาด ทำให้มีเครื่องสำอางตกค้างได้ นอกจากนี้ควรตรวจสอบ สารประกอบในเครื่องสำอางว่า มีส่วนประกอบอะไรที่จะไปกระตุ้นให้เกิดสิวหินหรือไม่

 ป้องกันสิวหิน โดยการลดใช้เครื่องสำอาง

ทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งเสมอ

เครื่องสำอาง หากล้างไม่สะอาด อาจไปอุดตันรูขุมขนได้ การทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้เเค่ล้างเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว เเต่สามารถใช้ล้างทำความสะอาดทั่วไปได้ โดยหลังจากล้างหน้าเเล้ว อาจใช้คลีนซิ่งเสริม เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดรูขุมขนได้เกลี้ยงมากขึ้น ซิ่งคลีนซิ่งแนะนำ คือ Bioderma Sebium H2O คลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ ที่สามารถทำความสะอาด

สิ่งสกปรกต่างๆ ทั้งฝุ่น PM2.5 เครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึก ช่วยจัดการปัญหาสิวให้หมดจด พร้อมมี Copper Zinc Complex ที่สามารถควบคุมความมัน กำจัดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว จากนั้นเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง เหมาะกับผู้มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวได้ง่าย

ทำความสะอาดใบหน้า ลดสิวหินด้วย Bioderma Sebium H2O

ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

คลีนซิ่งเป็นการเช็ดทำความสะอาดใบหน้า เเต่ในการล้างหน้าท่ต้องทำทุกวัน คือ การใช้โฟมล้างหน้า ช่วยชะล้างสิ่งสกปรก ช่วยให้รู้สึกสดชื่น โดยผลิตภัณฑ์สำหรับล้างทำความสะอาดใบหน้า จริงอยู่อาจเลือกสูตรไหนก็ได้ เเต่สำหรับคนที่มีผิวเเพ้ง่าย ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการเเพ้

โดยเจลล้างหน้าที่เหมาะสมในการทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย เราขอเเนะนำ BiodermaSebium Gel Moussant ซึ่งมีส่วนประกอบของ Copper Zinc Complex ที่ช่วยควบคุมความมันและกำจัดแบคทีเรียได้นานถึง 4 ชั่วโมง ทำให้ผิวแข็งแรง ต้านมลภาวะ และลดการระคายเคืองของผิวด้วยสารสกัด Ginkgo Biloba Leaf Extract

 ล้างหน้าสำหรับผู้มีผิวเเพ้ง่าย ลดสิวหินด้วย Bioderma Sebium Gel Moussant

ใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยปรับสมดุลผิวหน้า

นอกจากการทำความสะอาดให้หมดจดเเล้ว การบำรุงรักษา ปรับสมดุลผิวหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้อง กันไม่ให้เกิดสิวหิน โดยการใช้เซรั่ม หรือครีมบำรุงต่างๆ หลังจากทำความสะอาดใบหน้าเเล้ว

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำให้ใช้คือ Bioderma Sebium Lotion เป็นน้ำตบที่มีส่วนประกอบของ Zinc , Vitamain B6 , BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดออก เพื่อลดสาเหตุการเกิดสิวหิน 

ในขณะเดียวกันก็ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง กระชับรูขุมขน และเก็บความชุ่มชื้นได้นาน 8 ชั่วโมง ด้วย Bioderma Sebium Pore Refiner ที่เหมาะจะบำรุงผิวสำหรับคนผิวมัน รูขุมขนกว้าง

ป้องกันสิวหินด้วย Bioderma Sebium Lotion

ลดสิวหินด้วย Bioderma Sebium Pore Refiner

ข้อสรุป

สิวหิน เป็นสิวต่างจากสิวทั่วไป ทั้งลักษณะของมัน และด้วยความที่มันรักษาได้ยาก เเต่เมื่อเรารู้สาเหตุการเกิดของมันเเล้ว เราก็สามารถหาวิธีป้องกันมันได้ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาด บำรุงผิวหน้า ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ต่อให้ป้องกันเเล้ว สิวหินก็ยังอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเมื่อมันเกิดขึ้นเเล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ การปรึกษาเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะที่สุด เพื่อช่วยให้สิวหินบนใบหน้าเราหายเร็วที่สุด


 

Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]