ในปัจจุบันการเสริมความงามเป็นที่นิยมมากขึ้น สามารถทำได้ทุกส่วนบริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก ตา จมูก แก้ม ปาก คาง คอ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละบริเวณก็จะมีวิธีเสริมความงามที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราจะมากล่าวถึงการเสริมซิลิโคนจมูก ว่าเสริมซิลิโคนจมูกแบบไหนดี ซึ่งซิลิโคนเสริมจมูกนั้น เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีความยืดหยุ่นและความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
ซิลิโคนจมูก คืออะไร
ซิลิโคนจมูก คือ จมูกที่มีการเสริมซิลิโคน โดยซิลิโคนเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานทางการแพทย์และเครื่องสำอาง เป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นและทนทานสามารถขึ้นรูปเป็นรูปร่างและขนาดต่าง ๆ
ซึ่งการทำซิลิโคนจมูกนั้น จะใช้เสริมหรือปรับแต่งดั้งจมูก ปลาย หรือทั้งสองที่ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะชอบเพราะความยืดหยุ่นและความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ระหว่างทำจมูกซิลิโคน ศัลยแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กและใส่แท่งซิลิโคนจมูกในตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นจึงจัดตำแหน่งและยึดรากฟันเทียมอย่างระมัดระวัง
โดยการทำซิลิโคนจมูก เป็นหนึ่งในการผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งเป็นขั้นตอนการผ่าตัดที่ซับซ้อน ควรทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อสามารถให้คำแนะนำและตอบสนองตามความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของแต่ละคนได้
ซิลิโคนจมูกมีกี่แบบ แบบไหนเป็นที่นิยม
ซิลิโคนจมูกมีหลายแบบ ซึ่งในแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยซิลิโคนจมูกที่เป็นที่นิยม มีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่
1. ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป
โดยซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป จะเป็นซิลิโคนที่มีการขึ้นรูปไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะสะดวกต่อการใช้งาน สามารถแบ่งออกได้อีกหลายประเภท ในแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะความกว้างและความยาวที่แตกต่างกัน มีข้อดีตรงที่สามารถพบเจอปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงได้น้อย โดยรูปทรงซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป เช่น
- ซิลิโคนบาร์บี้ (Barbie Silicone) มีลักษณะของสันที่กว้าง มีสโลปและไม่โด่งมาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความโด่งของจมูกขึ้นเล็กน้อย
- ซิลิโคนแมนทิส (Mantis Silicone) เป็นซิลิโคนที่มีสีขาว นิ่มละเอียด และมีความยืดหยุ่นมากกว่าซิลิโคนทั่วไป มีปีกสองข้างสำหรับครอบสันจมูก
- ซิลิโคนซินเดอเรลล่า (Cinderella Silicone) จะมีรูปทรงที่คล้ายซิลิโคนบาร์บี้ แต่เนื้อที่สันจมูกหนากว่า เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกแบนราบ
- ซิลิโคนบราว (Brown Silicone) จะมีรูปทรงที่คล้ายซิลิโคนบาร์บี้กับแมนทิสผสมกัน เป็นซิลิโคนจมูกสีน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยหรือผิวบาง
2. ซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง หรือ แบบแท่ง
โดยซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง หรือแบบแท่ง เป็นซิลิโคนที่มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม เมื่อต้องการนำมาใช้จะทำการเหลาให้รูปทรงเข้ากับจมูกและใบหน้าของแต่ละคน แบ่งออกได้ 4 แบบย่อย ๆ คือ Hard (แข็ง) Medium (แข็งปานกลาง) Soft (นุ่ม) และ Utra Soft (นุ่มมาก)
เทคนิคเลือกซิลิโคนจมูกให้รับกับใบหน้า
โดยการเลือกซิลิโคนจมูกหรือวัสดุเสริมจมูกที่เข้ากับใบหน้า ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและควรปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณภาพ เทคนิคที่พิจารณากันโดยทั่วไปในการเลือกเสริมจมูกซิลิโคน เช่น
- วิเคราะห์ใบหน้าอย่างครอบคลุมเพื่อประเมินลักษณะใบหน้า สัดส่วน และความสมมาตรของใบหน้า ศัลยแพทย์จะพิจารณาโครงสร้างใบหน้าโดยรวม รวมถึงรูปร่างของหน้าผาก แก้ม และคาง เพื่อกำหนดทางเลือกที่กลมกลืนที่สุดสำหรับซิลิโคนเสริมจมูก
- โดยต้องมีการหารือเกี่ยวกับเป้าหมายและความชอบของผู้ป่วย ให้ได้ขนาดและรูปร่างตามที่ต้องการ
- ใช้ซอฟต์แวร์สร้างภาพคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ให้เห็นภาพก่อนที่จะเริ่มทำซิลิโคนจมูกจริง
ซิลิโคนจมูก หรือ กระดูกอ่อน หรือ เนื้อเยื่อของตัวเอง แตกต่างกันอย่างไร ?
การเสริมจมูกสามารถทำได้โดยใช้วัสดุที่แตกต่างกัน รวมถึงซิลิโคนจมูก กระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อของตัวเอง โดยมีข้อแตกต่างหลักระหว่างตัวเลือกเหล่านี้ ได้แก่
- ซิลิโคนจมูก มักทำจากวัสดุซิลิโคนแข็งหรือกึ่งแข็ง มีรูปทรงและขนาดต่าง ๆ กัน และออกแบบมาเพื่อเสริมหรือปรับรูปร่างโครงสร้างจมูก การปลูกถ่ายซิลิโคนมีการขึ้นรูปล่วงหน้าและให้ผลลัพธ์แน่นอนและคาดการณ์ได้ มักถูกเลือกเพราะมีความทนทาน ติดทนนาน และความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
- กระดูกอ่อน มักใช้ในการสร้างจมูกใหม่ เพราะกระดูกอ่อนสามารถเก็บเกี่ยวได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น กะบัง (ผนังกั้นกลางจมูก) ใบหู หรือซี่โครง การปลูกถ่ายกระดูกอ่อนมีข้อได้เปรียบในการใช้เนื้อเยื่อของผู้ป่วยเอง ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน การปลูกถ่ายกระดูกอ่อนให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสามารถปั้นแต่งรูปร่างในระหว่างการผ่าตัดเพื่อให้ได้รูปร่างที่ต้องการ มักใช้ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการสร้างจมูกใหม่ที่ต้องใช้ความซับซ้อน
- เนื้อเยื่อของตัวเอง ซึ่งโดยทั่วไปจะนำมาจากบริเวณต่างๆ เช่น หน้าผาก หนังศีรษะ หรือแขนด้านใน เทคนิคนี้รู้จักกันในชื่อ autologous reconstruction ช่วยให้สามารถสร้างจมูกใหม่โดยใช้ผิวหนัง และกระดูกของคนไข้เอง ข้อดีของการใช้เนื้อเยื่อธรรมชาติ เพราะร่างกายยอมรับได้ดี มักจะพิจารณาในกรณีที่มีการสูญเสียเนื้อเยื่อจมูกอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หลังจากการบาดเจ็บหรือการกำจัดมะเร็ง
ดูแลตัวเองอย่างไรหลังใส่ซิลิโคนจมูก
หลังจากเสริมใส่ซิลิโคนจมูกแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลหลังการผ่าตัดของศัลยแพทย์เพื่อการรักษาและการพักฟื้นที่เหมาะสม ต่อไปนี้เป็นวิธีดูแลตัวเองได้แก่
- ปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลบาดแผลจากศัลยแพทย์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับวิธีการดูแลแผลให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกโดยไม่จำเป็น
- ควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือยาแก้ปวดเพื่อจัดการกับความรู้สึกไม่สบายในช่วงพักฟื้น โดยต้องแจ้งศัลยแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณจมูกที่กำลังรักษา
- หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ จามหรือไอแรง ๆ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่กระทบกระเทือนจมูก และเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีทำความสะอาดจมูกหรือใช้น้ำเกลือพ่นจมูกเพื่อให้โพรงจมูกชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดที่อาจกระทบกับกระบวนการรักษา โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารของศัลยแพทย์
- เข้าพบศัลยแพทย์ตามกำหนดเวลาเป็นประจำ เพื่อประเมินความคืบหน้าในการรักษา
คำถามที่พบบ่อย
โดยคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมซิลิโคนจมูก เช่น
1. ซิลิโคนจมูกอันตรายไหม
โดยปกติแล้วการเสริมซิลิโคนจมูก หากอยู่ภายใต้คำแนะนำของศัลยแพทย์ที่มีคุณวุฒิและประสบการณ์จะมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตามก็สามารถมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการเสริมซิลิโคนจมูก เช่น
- การติดเชื้อหลังจากการใส่ซิลิโคนจมูก ต้องมีการดูแลและใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
- การเลื่อนของซิลิโคนจมูก ที่อาจเกิดขึ้นโดยเคลื่อนจากตำแหน่งที่ต้องการเมื่อเวลาผ่านไป ต้องเข้าพบศัลยแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขในทันที
- อาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกทางจมูกหรือการเปลี่ยนแปลงของลักษณะหรือพื้นผิวของผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา
- ซิลิโคนเสริมจมูกอาจส่งผลต่อการหายใจทางจมูกหรือทำให้เกิดปัญหาด้านการทำงาน ทำให้ต้องปรับตำแหน่งและขนาดของซิลิโคนเสริมที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้
2. ซิลิโคนจมูก อยู่ได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของซิลิโคนจมูกอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น การเคลื่อนตัวของซิลิโคน การเปลี่ยนแปลงของใบหน้า รวมถึงประเภทของซิลิโคนที่ใช้ ลักษณะเฉพาะของแต่ละคน และวิธีการดูแลรักษาที่ดี แม้ว่าซิลิโคนจมูกจะได้รับการออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขที่ถาวร ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ซิลิโคนจมูกจะอยู่ได้ตั้งแต่หลายปีจนถึงหลายสิบปี และต้องมีการพบศัลยแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องอายุการใช้งานของซิลิโคนอยู่เสมอ
3. ซิลิโคนจมูก เปลี่ยนได้ไหม
ซิลิโคนจมูกสามารถเปลี่ยนได้หากจำเป็น อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สวยงามขึ้น เกิดการเคลื่อนหรือย้ายของซิลิโคน ภาวะแทรกซ้อน และที่สำคัญต้องปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนทุกครั้ง
สรุป
การเสริมซิลิโคนจมูก เป็นการเสริมความงามหรือศัลยกรรมตกแต่งเพื่อเสริมหรือปรับรูปร่างลักษณะของจมูกที่เป็นที่นิยม มีวัสดุที่ใช้ทำที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะเสริมซิลิโคน ต้องมีการปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทำงาน เพื่อความปลอดภัยและทำให้ได้การเสริมซิลิโคนจมูกที่ดีที่สุด