เสริมจมูกเป็นหนึ่งในศัลยกรรมยอดนิยมที่หลายคนเลือกทำศัลยกรรมเป็นอันดับแรก ด้วยความที่จมูกเป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า จึงสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวม บางคนทำออกมาแล้วใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น จมูกสวยขึ้น
ในบทความนี้หมอจึงอยากมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเสริมจมูกครับว่า การผ่าตัดเสริมจมูกมีแบบใดบ้าง ผู้ที่มีปัญหาจมูกต่าง ๆ เช่น จมูกเบี้ยว เสริมจมูกเนื้อน้อย จมูกโต ฯลฯ สามารถเสริมจมูกได้หรือไม่ รวมถึงตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเสริมจมูก มาติดตามอ่านไปพร้อมกันเลยครับ
เสริมจมูก คืออะไร ?
เสริมจมูก (Rhinoplasty) คือการผ่าตัดศัลยกรรมรูปแบบหนึ่ง เพื่อปรับแต่งรูปทรงจมูกสวยตรงตามความต้องการของแต่ละคนครับ เช่น ปรับจมูกให้โด่งขึ้น ปลายจมูกเชิดขึ้น ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เป็นต้น โดยใช้วัสดุต่าง ๆ นำมาเสริมจมูก เช่น กระดูกหลังหู ซิลิโคนจมูก เนื้อเยื่อเทียม นอกจากนี้การเสริมจมูกยังช่วยแก้ไขปัญหารูปจมูกที่ผิดรูปร่าง จมูกเบี้ยว หรือได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุอย่างรุนแรง หรือช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
ผ่าตัดเสริมจมูกมีกี่แบบ
1. เสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกที่แผลผ่าตัดจะอยู่ภายในจมูกของคนไข้ทั้งสองข้าง โดยแพทย์จะสามารถเปิดจมูกเข้าไปปรับโครงสร้างจมูกได้โดยตรง รวมถึงแก้ปัญหาโครงสร้างภายในได้เกือบทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างจมูกเบี้ยว จมูกเอียงผิดรูป มีฮัมพ์จมูกใหญ่มาก เป็นต้น
2. เสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty)
การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Endonasal Rhinoplasty) เป็นเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกที่มีความซับซ้อนน้อย มีรอยแผลผ่าตัดขนาดเล็กอยู่ข้างในจมูก มองไม่เห็นจากภายนอก การเสริมจมูกแบบปิดนี้สามารถเสริมจมูกให้โด่งขึ้นได้ด้วยการเสริมซิลิโคนจมูก ซึ่งสามารถเหลาและปรับแต่งรูปซิลิโคนได้ตามความต้องการ
ทั้งนี้การศัลจมูกแบบปิดเหมาะกับผู้ที่มีทรงจมูกเดิมดีอยู่แล้ว หรือมีเนื้อหุ้มหนาพอสมควร ผู้ที่ต้องการจะเสริมจมูกควรปรึกษากับแพทย์ก่อนนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจตามมาได้
เสริมจมูก เนื้อน้อย เนื้อโต แก้ไขอย่างไร
ปัญหาการเสริมจมูกในผู้ที่มีเนื้อน้อย หรือเนื้อโต สามารถแก้ไขได้ดังนี้
เสริมจมูกเนื้อน้อย
สำหรับคนที่มีเนื้อจมูกน้อยอาจมีข้อจำกัดในเรื่องการเสริมจมูก เนื่องจากเนื้อจมูกน้อยก็จะยิ่งใส่ซิลิโคนได้น้อย ทำให้สามารถเพิ่มความโด่ง หรือทำปลายพุ่งได้ไม่มากนัก หากใส่ซิลิโคนที่ไม่พอดีกับจมูกอาจทำให้เกิดปัญหาจมูกบาง จมูกทะลุได้ครับ ดังนั้นหมอจะแนะนำให้เสริมจมูกแบบโอเพ่น ไม่ใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูกเพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือจะใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมกับการใช้ซิลิโคนแทน
เสริมจมูกเนื้อโต จมูกใหญ่
ในเคสที่มีปัญหาจมูกเนื้อโต เนื้อเยอะ จมูกใหญ่ และต้องการปรับลดขนาดจมูกให้เรียวเล็ก ได้รูปสวย หมออาจแนะนำเทคนิคการเสริมจมูกแบบโอเพ่นแทนแบบปิดครับ เพราะหมอจะสามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้โดยตรง ทำให้ผ่าตัดแก้ไขรูปทรงจมูกเดิมได้ รวมถึงสามารถตกแต่งปลายจมูกชมพู่ จมูกใหญ่ให้มีขนาดเล็กลงได้ นอกจากนี้หากใครกังวลเรื่องปีกจมูกใหญ่ สามารถตัดปีกจมูกไปพร้อมกันกับการเสริมจมูกได้
เสริมจมูกดีไหม? เสริมจมูกเหมาะกับใคร
ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้แพทย์ได้ประเมินความเหมาะสม รวมถึงช่วยออกแบบรูปทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้าของเราครับ
1. ผู้เข้ารับการเสริมจมูกควรมีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป
2. ผู้ที่ต้องการแก้ไขรูปทรงจมูกเดิมให้สวยได้รูป เหมาะกับใบหน้า
3. ผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาทางด้านการหายใจ
4. ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น
5. ผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
เสริมจมูก มีวัสดุอะไรบ้าง
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกที่นิยมกันในปัจจุบัน ได้แก่ ซิลิโคน และกระดูกอ่อน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ซิลิโคนสำเร็จรูป
ซิลิโคนสำเร็จรูป หรือซิลิโคนจมูกทรงต่าง ๆ จะเป็นซิลิโคนที่ขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว ทำให้เกิดการเบี้ยวหรือเอียงน้อย แต่การใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปอาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยเพราะอาจเสี่ยงต่อซิลิโคนทะลุได้ ซึ่งซิลิโคนสำเร็จรูปนี้มีชื่อเรียกตามทรงจมูกแต่ละแบบ เช่น ซิลิโคนทรงบาร์บี้ ซิลิโคนทรงไอดอล ทรงจมูกเกาหลี เป็นต้น
2. ซิลิโคนเหลา
ซิลิโคนเหลา หรือซิลิโคนแบบเหลาเองจะเป็นซิลิโคนที่มาเป็นแท่งหรือบล็อกสี่เหลี่ยม โดยแพทย์จะเป็นผู้ออกแบบและดีไซน์เองให้เข้ากับรูปจมูกของแต่ละเคส เช่น จมูกทรงหยดน้ำ ทรงจมูกธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งซิลิโคนแบบเหลาเองจะต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญจากแพทย์สูงครับ
3. กระดูกอ่อน
การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนจะช่วยลดความเสี่ยงจากปลายจมูกทะลุ เนื่องจากกระดูกอ่อนจะช่วยรองรับ และเพิ่มความหนาของผิวหนังบริเวณปลายจมูก ลดการเสียดสี ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนโดนกับปลายจมูกโดยตรง ซึ่งจุดที่นิยมนำกระดูกอ่อนมาเสริมจมูก ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก กระดูกอ่อนซี่โครง
เลือกทรงจมูกอย่างไรให้เหมาะกับรูปหน้า
การเลือกทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า จะต้องอาศัยแพทย์ให้ช่วยประเมินเค้าโครงใบหน้าของเราร่วมด้วยครับ เพราะการเสริมจมูกทรงที่สวยที่สุดคือทรงที่เหมาะสมกับรูปหน้าของเรา โดยรูปทรงจมูกจะต้องมีความเป็นธรรมชาติ เช่น จมูกควรรับกับหน้าผาก จมูกควรรับกับความยาวของใบหน้า เป็นต้น
เสริมจมูกที่ไหนดี? ทางเอ็มวีต้าคลินิกมีจุดเด่นในเรื่องประสบการณ์ของแพทย์ วัดสัดส่วนอย่างละเอียด จมูกออกมาสวยตามที่คนไข้ตั้งใจไว้ ทำด้วยเทคนิคพิเศษ ช้ำน้อย บวมน้อยมาก และยังรับประกันดูแลผลการรักษาให้ 1 ปีเต็มครับ
ข้อดี – ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแต่ละรูปแบบ
เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด-ปิดนั้นมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบเปิด
การเสริมจมูกแบบโอเพ่นมีข้อดีคือ แพทย์สามารถเปิดจมูกเข้าไปแก้ไขโครงสร้างจมูกได้โดยตรง เนื่องจากแพทย์จะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนทั้งหมด และเห็นแนวสันจมูกชัดเจน ทำให้แก้ไขและปรับแต่งปัญหาจมูกต่าง ๆ ได้เยอะมากครับ เช่น ตอกฐานจมูก ยืดผนังกั้นจมูก เป็นต้น
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบเปิด
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบเปิดคือ จะต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญและชำนาญในด้านศัลยกรรมจมูกเป็นอย่างมาก รวมถึงหลังเสริมจมูกจะเห็นแผลหลังผ่าตัดเล็ก ๆ บริเวณกลางจมูกด้านล่าง อีกทั้งการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนี้ยังมีราคาแพงครับ
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
การเสริมจมูกแบบปิดมีข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบครับ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่มีการรบกวนเนื้อเยื่อน้อย หลังทำสามารถเห็นทรงจมูกได้ทันที ไม่เห็นรอยแผลหลังผ่าตัด รักษาไม่ยาก เหมาะกับผู้เสริมจมูกเป็นครั้งแรกครับ
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบปิด
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบปิดคือ แพทย์จะไม่สามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้เลยครับ ทำให้ไม่สามารถเสริมจมูกให้โด่งหรือพุงมาก ๆ ได้ ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจมูกซับซ้อน แถมยังมีโอกาสเสี่ยงจมูกทะลุ จมูกเบี้ยวได้ครับ
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกที่ถูกวิธี จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลแทรกซ้อนในระหว่างการตัด โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกมีดังนี้
1. หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา หรือยาที่รับประทานเป็นประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการเสริมจมูกทุกครั้ง
2. งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม ยาสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. งดรับประทานยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
4. เตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้ดูแลแผลหลังผ่าตัด
- น้ำเกลือ
- สำลีก้านและสำลีแผ่น
- แอลกอฮอล์ล้างแผล หรือเบตาดีน
- หมอนรองคอ หรือหมอนล็อกคอ
- ทิชชู่แบบเปียก ไว้สำหรับเช็ดทำความสะอาดใบหน้า
- เจลเย็นแข็งไว้ประคบจมูก
5. งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
6. ในวันผ่าตัดงดแต่งหน้า ทาเล็บ และงดใส่เครื่องประดับทุกชิ้น
7. งดน้ำและอาหารตามที่แพทย์สั่งเพื่อป้องกันการสำลัก
ขั้นตอนการเสริมจมูก
ขั้นตอนที่ 1: ปรึกษาเรื่องเสริมจมูก และรับคำแนะนำจากแพทย์
ในขั้นตอนแรกหมอจะประเมินตรวจทรงจมูก และวิเคราะห์เค้าโครงใบหน้า เพื่อออกแบบให้ทรงจมูกเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคลมากที่สุด จากนั้นหมอจะให้คนไข้พักผ่อน พร้อมสำหรับการผ่าตัดครับ
ขั้นตอนที่ 2: เลือกวิธีการผ่าตัด
หมอจะประเมินให้ยาชาหรือยานอนหลับครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด หากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบโอเพ่นก็จะต้องใช้วิสัญญีแพทย์เพื่อวางยาสลบ แต่ถ้าหากใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบปิดก็จะเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มผ่าตัดเสริมจมูก
ในขั้นตอนถัดมาจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดเสริมจมูก โดยหมอจะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปตามแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา ตั้งแต่เหลาซิลิโคน เปิดแผล ปรับแต่งโครงสร้างต่าง ๆ เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 4: เย็บปิดแผลผ่าตัด
ในขั้นตอนสุดท้ายหมอจะทำการเย็บปิดแผลผ่าตัด แต่ในบางกรณีหมอจะให้เข้าเฝือกที่จมูกด้วยครับ หลังจากทำการเย็บปิดแผลเรียบร้อยแล้ว หมอจะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังเสริมจมูก และนัดวันมาติดตามผลและตัดไหมครับ
แนวทางการดูแลตนเองหลังเสริมจมูก
ข้อปฏิบัติตน รวมถึงวิธีการดูแลตนเองหลังเสริมจมูกสามารถปฏิบัติตามง่าย ๆ ดังนี้ครับ
1. ประคบเย็นหลังการผ่าตัด 48 ชั่วโมง ควรประคบเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยประคบบริเวณบนจมูก หน้าผาก และบริเวณโดยรอบ หลังจาก 48 ชั่วโมงเป็นต้นไปให้ประคบอุ่นแทนเพื่อลดความช้ำ
2. นอนหัวสูง โดยใช้หมอนล็อกคอเพื่อไม่ให้คอเอียง
3. ไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วง 3 วันแรกหลังเสริมจมูก สามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นทำความสะอาดใบหน้าได้
4. ทานยาให้ตรงเวลา ตามที่แพทย์สั่ง
5. หากมีน้ำเหลืองหรือเลือดซึม สามารถใช้สำลีก้านชุบน้ำเกลือหมาด ๆ ซับเบา ๆ และแต้มด้วยเบตาดีนเบา ๆ บริเวณที่มีเลือดไหลซึมออกมา
6. ควรมาพบแพทย์ให้ตรงตามเวลานัด เพื่อตรวจดูแผลหลังเสริมจมูก
7. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 เดือนหลังเสริมจมูก เนื่องจากมีผลต่อการสมานแผล
คำถามที่พบบ่อย
เสริมจมูก อันตรายไหม?
หากเสริมจมูกกับคลินิก หรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านผ่าตัดศัลยกรรม ก็สบายใจได้ครับ เพราะจะช่วยลดโอกาสที่จะเจอผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายครับ
เสริมจมูก เจ็บไหม?
การเสริมจมูกถือเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมประเภทหนึ่ง จึงอาจรู้สึกเจ็บในช่วงที่หมอทำการฉีดยาชาให้เท่านั้นครับ แต่เมื่อยาชาหมดฤทธิ์อาจรู้สึกปวดระบมเล็กน้อย ประมาณ 2-3 วัน แล้วจึงค่อย ๆ ดีขึ้น
เสริมจมูก บวมนานไหม?
ปกติแล้วหลังเสริมจมูกจะมีอาการบวมได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยจะมีอาการบวมมากสุดในช่วง 2-3 วันแรก หลังจากนั้นอาการบวมก็จะค่อย ๆ ลดลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองด้วยครับ
เสริมจมูก ใช้เวลาทำนานไหม?
ในระหว่างการเสริมจมูกจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมงครับ ยกเว้นในเคสเสริมจมูก หรือเคสแก้จมูกที่มีความซับซ้อนมาก ซึ่งอาจจะใช้เวลานานกว่านั้นครับ
เสริมจมูก พักฟื้นกี่วัน?
หมอจะแนะนำให้คนไข้พักฟื้นประมาณ 2-3 วันหลังทำเสริมจมูกครับ เพราะในช่วง 2-3 แรกคนไข้จะยังมีอาการปวด บวมอยู่ คนไข้บางรายอาจทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันลำบากครับ
จัดฟัน เสริมจมูกได้ไหม?
จัดฟันสามารถเสริมจมูกได้ครับ แต่ต้องรอให้ฟันเข้าที่ก่อนอย่างน้อย 2-3 เดือนครับ จึงจะเสริมจมูกได้ หรือเสริมจมูกก่อนจัดฟันอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดเสริมจมูกหายสนิทก่อนครับ จึงจะจัดฟันได้
ข้อสรุป
การเสริมจมูกถือเป็นการศัลยกรรม แน่นอนครับว่าต้องมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นก่อนเลือกทำจมูกที่ไหนดีควรเลือกคลินิก และแพทย์ให้ดีครับ เพื่อลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคต
ที่เอ็มวีต้า คลินิก เรามีแพทย์ประจำคลินิกที่มีประสบการณ์สูง นำโดย นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิก ทำด้วยเทคนิคพิเศษ ช้ำน้อย บวมน้อย เลือกใช้ซิลิโคนเกรดที่ดีที่สุด เป็นชนิด Implant grade ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. สามารถใส่ไว้ได้นานตลอดชีวิต