รีวิวฉีดเมโสแฟต
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตกันอยู่ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กด้วยเมโสแฟต ที่เป็นตัวช่วยลดแก้ม ลดไขมันสะสมบนใบหน้าให้รูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้นค่ะ
จากเดิมเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ เคยได้มาร้อยไหม กับฉีดโบท็อกลดกรามที่คลินิก V Square แต่ช่วงนี้ปาร์ตี้บ่อยไปหน่อย แก้มเริ่มออก เลยอยากจะมาฉีดเมโสแฟตลดไขมันสะสมตรงแก้ม ให้แก้มยุบหน้าเรียวสวยขึ้น ยังดีที่ช่วงกรามของเรายังไม่ใหญ่ขึ้นมาจากที่เคยฉีดโบท็อกซ์รอบที่แล้วค่ะ รอบนี้เลยจะมาย้ำ botox อีกสักนิดนึงด้วย ผลลัพธ์เป็นที่ประทับใจเรามากจนต้องมาเล่าถึง รีวิวฉีดเมโสแฟต ในวันนี้ค่ะ
ผลลัพธ์จากคราวก่อนที่ได้จากการฉีดโบท็อก และร้อยไหมที่คลินิก ประมาณสามเดือนที่แล้วค่ะ
คราวที่แล้ว (3 เดือนก่อนหน้า) จากที่ได้มาร้อยไหมและฉีดโบลดกรามที่คลินิก ตามรูปจะเห็นเลยว่าหน้าเรียวขึ้นมาก แก้มก็ดูเล็กลงเยอะ
รีวิว ตอนก่อนฉีดเมโสแฟตแก้ม (ภาพ Before)
รีวิว การฉีดเมโสแฟต (ในครั้งแรก)
รีวิว ฉีดเมโสแฟตครั้งที่ 1. ปรึกษาเรื่องฉีดแฟต ลดไขมันส่วนเกินที่แก้ม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กับคุณหมอเพลิน
เล่าเรื่องการฉีดเมโสแฟตครั้งแรกกันเลยนะคะ เราเข้าไปพบกับคุณหมอเพลิน ชื่อจริงคุณหมอคือ คุณหมอวรรณศิลป์ สุขสมานพันธ์ จากที่ได้ประเมินใบหน้าเราแล้ว คุณหมอก็ให้คำแนะนำว่า หากฉีดเมโสแฟตก็จะช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้น ช่วยลดปัญหาแก้ม 2 ข้างของเราที่มันไม่เท่ากัน ในรูปเพื่อน ๆ จะเห็นเลยว่าหน้าเราข้างนึงเล็ก อีกข้างนึงใหญ่ ซึ่งการฉีดแฟตแก้มจะช่วยปรับใบหน้าให้เรียวขึ้นได้ด้วยนะ
สำหรับการฉีดแฟตแก้มของสัปดาห์แรกนี้ ตัวยาที่คุณหมอเพลินใช้ในการฉีด คือ เมโสแฟต บาบิ ปริมาณ 12 cc คุณหมอนแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อบาบิ เพราะนอกจากจะช่วยสลายไขมันสะสมบริเวณแก้มแล้ว ยังสามารถช่วยให้แก้มไม่ดูห้อยอีกด้วยหลังจากที่ไขมันสลายออกไปแล้ว พอฉีด Meso fat เสร็จแล้ว ก็ต่อด้วยการฉีดโบท็อกลดกราม 50 unit เพื่อช่วยเก็บกรอบหน้าให้คมชัดขึ้นด้วย
รีวิว ระหว่างการฉีดเมโสแฟต (ครั้งที่ 1.) ไม่ได้เจ็บอย่างที่หลายคนคิดเลยนะคะ
ต้องบอกก่อนเลยว่าคุณหมอเพลินฉีดเมโสแฟตให้เรา มือเบามาก ๆ เราว่าแทบจะไม่เจ็บเลยด้วยซ้ำ คล้ายผิวโดนอะไรมาจิ้มแบบเบา ๆ
ตอนตัวยาเมโสแฟตบาบิเข้าไปสลายไขมันบริเวณแก้มจะรู้สึกแสบเล็ก ๆ เพราะ Babi ตัวนี้ไม่ผสมยาชา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแสบมากนะคะ เราเลือกตัวยาแบบเน้น ๆ กันไปเลยเพื่อผลลัพธ์แบบจัดเต็ม คุ้มค่า
ส่วนการเก็บกรอบหน้าด้วยโบท็อกลดกรามเรารู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกลัวนะคะ มันไม่ได้เจ็บมาก ที่รู้สึกเจ็บก็เพราะฉีดตรงช่วยกรอบหน้าพอดี
รีวิว ก่อนฉีดเมโสแฟต เพื่อยืนยันว่าเป็นตัวยาของแท้ 100% คุณหมอจะแกะกล่อง เปิดขวดยาให้เห็นกันชัด ๆ เลยค่ะ
พอเราฉีดเมโสแฟตลดแก้มเรียบร้อยแล้ว สามารถขอนำขวดยาเมโสแฟต บาบิ กลับไปตรวจสอบต่อที่บ้านได้ด้วยค่ะ แบบนี้ไงที่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจที่จะทำหัตถการกับคลินิกที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน อย่าง V Square Clinic ทุกครั้งที่อยากทำสวย
ภาพนี้คือ ผลลัพธ์ หลังฉีดเมโสแฟตแก้มเสร็จทันที
รีวิวหลังทำเสร็จทันที ฉีดเมโสแฟตแล้วจะเห็นว่าใบหน้าเราจะบวม ๆ นิดนึง เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลมากนะคะเพราะเจ้าแก้มตุ่ยก็จะค่อย ๆ ยุบหายไปเองภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
สำหรับเรื่องของผลลัพธ์ คุณหมอบอกเราว่า ฉีดแฟตแก้มสามารถช่วยสลายไขมันได้ประมาณ 10% /การฉีด 1 ครั้ง หลังจากนั้น คุณหมอก็ทำนัดให้เรากลับมาฉีดแฟตลดแก้มซ้ำ ในอีก 1 อาทิตย์ถัดไป
รีวิว การฉีดเมโสแฟต (ครั้งที่ 2.)
เมื่อผ่านไปจนครบ 1 สัปดาห์หลังจากฉีดเมโสแฟต บาบิ ครั้งแรกไปแล้ว เรามาดูความเปลี่ยนแปลงก่อนจะเริ่มฉีดครั้งที่ 2 กันก่อนเลย
ก่อนจะเริ่มฉีดเมโสแฟตครั้งที่ 2 มาดูรีวิว ผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตครั้งแรกกันก่อนค่ะ
จากรูปภาพด้านบน มาดูรีวิวการฉีดแฟตแก้มครั้งแรก หลังจากผ่านมาครบอาทิตย์นึงพอดี เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่ารูปหน้าดูชัดขึ้นกว่าเมื่อตอนก่อนฉีดแฟต น่าจะเป็นเพราะการฉีดเมโสแฟตแก้ม ควบคู่ไปกับการเก็บกรอบหน้าด้วยโบท็อกลดกราม ผลลัพธ์เลยค่อนข้างชัดเจน
ในการฉีดเมโสแฟตสัปดาห์ที่ 2. ตัวยาที่คุณหมอเพลินเลือกฉีดให้จะเป็น เมโสแฟตบาบิ ปริมาณ 12 cc ซึ่งเป็นตัวยาเดียวกับที่เคยฉีดไปในสัปดาห์แรกค่ะ เป็นแบบไม่ผสมยาชา เราเองก็ไม่กลัวเจ็บด้วย จากการที่ฉีดเมโสครั้งแรกในคราวที่แล้วไม่เจ็บ ประกอบกับมีประคบเย็นช่วย รอบนี้เลยมาแบบสบายใจมาก ๆ
ตอนฉีดครั้งนี้ คุณหมอเพลินเล่าให้เราฟังว่า ฉีดเมโสครั้งที่ 2 นี้จะฉีดง่ายขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว เพราะไขมันสะสมตรงแก้มจะเริ่มนิ่มลงกว่าเดิม และรอบนี้หมอจะช่วยเน้นปริมาณยาในแก้มข้างที่ใหญ่กว่าให้มากกว่าแก้มอีกข้างหนึ่งด้วย
เพื่อนคนไหนไม่อยากโชว์หน้าบวมกลับบ้านเหมือนเรา สามารถใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าหลังฉีดเมโสแฟตได้เลยค่ะ แต่จะบอกก่อนว่าไม่ต้องกลัวเพราะบวมไม่มาก และอีกไม่กี่ช.ม.หน้าก็จะยุบ หายบวมเป็นปกติแล้ว
รีวิว การฉีดเมโสแฟต (ครั้งที่ 3.)
วันนี้เรามาดูผลลัพธ์ รีวิว เมโสแฟต บาบิ จากครั้งที่ 2 ที่ได้ฉีดมา จนถึงตอนนี้ครบไปอีก 1 อาทิตย์แล้วค่ะ
ก่อนจะเริ่มฉีดแฟตแก้มครั้งที่ 3 ขอโชว์ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดเมโสแฟตครั้งก่อนให้ดูนะคะ จะเห็นได้ว่าใบหน้า 2 ข้างเริ่มสมดุลกันแล้ว ปัญหาหน้า 2 ข้างที่เคยไม่เท่ากันเริ่มลดน้อยลง หน้าดูเรียวขึ้นจริงแม้ว่าน้ำหนักตัวยังคงเท่าเดิมอยู่ก็ตาม ไม่ได้ผอมลงนะบอกเลย
สำหรับการฉีด meso fat รีวิวครั้งที่ 3 ในวันนี้ คุณหมอเพลินแนะนำให้ฉีดตัวยาเป็นอีกยี่ห้อนึงคือ เมโสแฟต FNC-30 ในปริมาณ 12 cc (เท่ากับ 2 ครั้งก่อนหน้านี้) เนื่องจากคุณหมอแจ้งเราว่า ตัวยานี้ฉีดไปแล้วแก้มจะลงรวดเร็วกว่า ถึงแม้ว่าจะแสบกว่ายี่ห้อ Babi แต่เราก็ไม่หวั่น เชื่อมั่นในตัวคุณหมอเพลินมาก ๆ เราจึงขอเลือกแบบไม่ผสมยาชาเหมือนทุกครั้ง
หลังจากฉีดเมโสแฟต FNC-30 เข้าไปแล้วรู้สึกว่าจะแสบกว่าครั้งก่อน ๆ แต่เป็นความแสบที่ทนไหว แสบแค่แป๊บเดียวแล้วหลังจากนั้นก็จะคลายความแสบจนหายไปเอง อยากจะบอกว่า ถ้าทนแสบสักนิด แต่ฉีดแล้วหน้าเรียวสวย แก้มลงไว อันนี้ต้องยอมเค้าค่ะ
รีวิว สรุปผลลัพธ์ที่ได้หลังจากฉีดเมโสแฟต ครบทั้ง 3 ครั้ง
เจ้าตัวยาเมโสแฟต FNC-30 ที่เราฉีดในรอบนี้ หลังจากฉีดเสร็นทันทีจะเห็นได้ว่า ไม่บวมเยอะเท่ากับครั้งแรก ๆ เพราะไขมันเหลวแล้วจากที่เคยฉีดสลายไขมันบนใบหน้ารอบที่ผ่านมา พอมาครั้งนี้หมอเพลินบอกว่าฉีดง่ายเชียว และหลังจากฉีดแฟตรอบที่ 3 นี้ ร่างกายของเราก็จะค่อย ๆ ขับไขมันที่เหลวแล้วออกมาเอง ผลลัพธ์ที่ได้คือแก้มจะยุบจนเห็นได้ชัดเจนขึ้นอีกค่ะ
รีวิว ผลลัพธ์หลังจากฉีดเมโสแฟต ครบ 3 ครั้ง (ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4)
ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 กันแล้วนะคะทุกคน วันนี้เรามาดูรีวิว ฉีดเมโสแฟตแก้ม หลังจากทำครบทั้ง 3 ครั้งกันไปแล้ว จากภาพที่เปรียบเทียบผลลัพธ์ในแต่ละช่วงเวลา เราจะเห็นได้ว่าหลังฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อ FNC-30 ใบหน้าเข้ารูปมากขึ้นเยอะ หน้าเรียวขึ้นแบบชัดเจนเลยค่ะ แนะนำเลยตัวนี้โดยเฉพาะคนที่ไม่กลัวแสบ ผลลัพธ์คุ้มค่ามากเลย
เมโสแฟต รีวิว แบบจัดเต็ม (สรุปผลรวมทั้ง 3 สัปดาห์)
เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เราขอสรุปความแตกต่างของตัวยาเมโสแฟตทั้ง 2 ยี่ห้อ คือระหว่างเมโสแฟต Babi กับ เมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 จากประสบการณ์จริง ตามนี้เลยนะคะ
• การฉีดเมโสแฟตยี่ห้อ บาบิ ในครั้งที่ 1 & 2 รู้สึกว่าไม่ค่อยแสบ ฉีดได้แบบสบายใจเลย เท่าที่เราทราบก็คือ Babi จะมีข้อดีตรงที่ว่า ช่วยให้แก้มไม่ห้อย ไม่ย้อย หลังจากที่ไขมันบริเวณแก้มได้สลายออกไปจากหน้าเราแล้ว
• ส่วนการฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อ FNC-30 ในครั้งที่ 3 สังเกตได้ว่าแก้มจะลงไวกว่า 2 ครั้งแรก เมโสยี่ห้อ FNC-30 นี้ตอนฉีดแม้ว่าจะรู้สึกแสบกว่ายี่ห้อบาบิ แต่ผลลัพธ์คุ้มค่า เห็นผลไว ไม่ผิดหวังที่เลือกฉีดตัวนี้ด้วยค่ะ
• เราเลือกฉีดตัวยาเมโสแบบเน้น ๆ ไม่ผสมยาชาเหมือนกันทั้ง 3 ครั้งเลยค่ะ เพราะเป็นความแสบที่ไม่มาก พอทนไหว เพื่อหน้าเรียวสวยแบบไม่ต้องรอนานเราว่าแบบนี้คุ้มดีค่ะ
รีวิว เมโสแฟต รีวิว เปรียบเทียบทั้ง 3 สัปดาห์ :
- รีวิว ฉีดเมโสแฟต บาบิ : ฉีดครั้งที่ 1.)
- ตัวยาที่ใช้ฉีดลดแก้ม คือ เมโสแฟต บาบิ (ปริมาณ 12 cc)
- ฉีดแฟต ควบคู่กับการฉีดโบท็อกกราม (ปริมาณ 50 ยูนิต) ช่วยเรื่องเก็บกรอบหน้า ลดกรามให้ดูเล็กลง หน้าจะได้เรียวขึ้นแบบชัดเจน
- รีวิว ฉีดเมโสแฟต บาบิ : ฉีดครั้งที่ 2.)
- ตัวยาที่ใช้ฉีดลดแก้ม คือ เมโสแฟต บาบิ (ปริมาณ 12 cc)
- ในการฉีดสัปดาห์ที่สองนี้ คุณหมอเพลินช่วยเน้นตัวยาในปริมาณที่มากกว่า ในใบหน้าข้างที่แก้มเราใหญ่กว่า เป็นการปรับใบหน้า 2 ข้างให้ได้สมดุลกันยิ่งขึ้นค่ะ
- รีวิว ฉีดเมโสแฟต FNC-30 : สัปดาห์ที่ 3.)
- ตัวยาที่ใช้ฉีดลดแก้ม คือ เมโสแฟตยี่ห้อ FNC-30 (ปริมาณ 12 cc) แบบไม่ผสมยาชา เพื่อให้แก้มลงไว แต่แบรนด์นี้จะแสบกว่าแบรนด์ Babi นะคะ
สรุป
สุดท้ายนี้ เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสนใจอยากฉีดแฟตลดแก้ม เมื่อได้อ่าน รีวิวเมโสแฟต ของเราในวันนี้แล้ว น่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ สำหรับเราแล้วเรียกได้ว่าประทับใจมาก ๆ กับการฉีดแฟตทั้ง 3 ครั้ง เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาแก้มใหญ่ หน้า 2 ข้างที่เคยไม่เท่ากัน หน้าเล็กข้างใหญ่ข้าง แต่พอฉีด meso fat ครอบ 3 รอบแล้วหน้าดูสมดุลกัน หน้าดูเรียวเล็กลงได้จริง เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ค่ะ ขอบคุณหมอเพลิน แห่ง V Square Clinic ที่ช่วยปรับรูปหน้าของเราให้สวยและช่วยให้เรากลับมามั่นใจกล้าถ่ายรูปได้ในทุกมุมมองอีกครั้งค่ะ
อยากรู้เรื่อง มากกว่านี้ คลิกเลย : https://www.vsquareclinic.com/review/รีวิวฉีดเมโสแฟตลดไขมัน/