เลสิค ตัวช่วยในการรักษาปัญหาทางสายตาอย่างถาวรและปลอดภัย

เลสิค

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาทางสายตา ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นอย่างมาก เราจึงขอเสนอวิธีการรักษาที่ถาวรอย่างเลสิค การทำเลสิคเป็นการรักษาที่หลาย ๆ คนนิยมเลือกใช้ แต่สำหรับบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เลสิคคืออะไร มีแบบไหนบ้าง แล้วเราเหมาะกับแบบไหน วันนี้ เราจะมารู้กัน


เลสิค

LASIK (Laser In-Situ Keratomileusis) หรือ เลสิค คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติของสายตาแบบถาวร โดยใช้เทคโนโลยีอย่างแสงเลเซอร์ในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด หรือสายตาเอียง โดยใช้วิธีการแยกชั้นกระจกตาผิวบนก่อนทำการยิงเลเซอร์

ซึ่งเลสิคนั้น เป็นการใช้เลเซอร์ปรับเปลี่ยนรูปร่างความโค้งของกระจกตาตามที่ได้คำนวณค่าสายตาไว้อย่างแม่นยำ เพื่อให้แสงวัตถุที่สะท้อนเข้าสู่ดวงตาของเรา มีการหักเห ทำให้จุดรวมแสงตกกระทบลงบริเวณเรตินาพอดี ส่งผลให้กลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้ง

ถือว่า เลสิคเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก แม่นยำ ปลอดภัยและรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีต่อการรักษา 2 ข้างและให้ผลอย่างถาวร ทำให้สายตาคมชัดอย่างรวดเร็วหลังผ่าตัดและมีอาการเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ได้รับการรักษาไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป 

เรียกได้ว่า การทำเลสิคเป็นการปรับค่าสายตาด้วยการยิงเลเซอร์ที่กระจกตาให้ได้ความโค้งที่ต้องการ เพื่อปรับให้ภาพคมชัด สามารถแก้ไขสายตาผิดปกติ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขที่กระจกตาเป็นหลัก ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ เลสิค


ทำเลสิคช่วยอะไรได้บ้าง

เลสิค ช่วยแก้ปัญหาความผิดปกติของสายตา เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและเปราะบางมาก ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติขึ้น ก็ย่อมทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างลำบาก อาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ หากมองเห็นไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ หากคุณจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์หรือทำตามความฝันในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะกับการสวมแว่นหรือใส่คอนแทคเลนส์ การทำเลสิคจึงถือว่าเป็นทางออกของปัญหาเหล่านั้น เพราะการทำเลสิคนี้ ช่วยรักษาปัญหาสายตาในหลาย ๆ แบบ

‘เลสิคมีกี่แบบ’ เป็นคำถามที่หลายคนกำลังสงสัย ซึ่งเลสิคนั้น ช่วยแก้ปัญหาทั้งสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง โดยมีรายละเอียดดังนี้

เลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้น

สายตาสั้น (Myopia) คือ การที่คนไข้ที่มองเห็นวัตถุที่อยู่ระยะไกลไม่ชัด แต่จะมองเห็นวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ได้ชัดเจน โดยมีสาเหตุมาจากกระจกตาที่โค้งมากเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป ทำให้เกิดกำลังในการหักเหแสงมาก จนจุดรวมแสง ตกกระทบก่อนถึงจอประสาทตา

การทำเลสิคแก้ปัญหาสายตาสั้น จะเป็นการใช้เลเซอร์ปรับรูปร่างของกระจกตาให้มีความเหมาะสม ตามค่าสายตาที่มีการคำนวณไว้อย่างแม่นยำ ทำให้หลังจากทำเลสิคแล้ว บุคคลนั้น สามารถมองเห็นวัตถุในระยะไกลได้ชัดเจน

เลสิคแก้ปัญหาสายตายาวโดยกำเนิด

ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวโดยกำเนิด จะมีลักษณะความโค้งของกระจกที่ไม่พอดี ส่งผลให้เมื่อมีแสงสะท้อนเข้าสู่ตาเรา จะเกิดการหักเหแสงน้อย ทำให้จุดรวมแสงตกกระทบเลยจุดรับภาพไป ซึ่งความจริงแล้ว จะพบปัญหานี้ ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อลูกตามีกำลังลดน้อยลง ส่งผลให้ปัญหาสายตายาวโดยกำเนิดแสดงออกมา

การทำเลสิคแก้ปัญหาสายตายาวโดยกำเนิด เป็นการใช้เลเซอร์ปรับบริเวณด้านข้างของกระจกตาที่มีลักษณะแบน ให้มีความโค้งเทียบเท่าค่าสายตาที่ปกติ ทำให้การหักเหแสงดีขึ้น ส่งผลให้หลังจากทำเลสิคสามารถมองเห็นได้ทุกระยะอย่างชัดเจน

เลสิคแก้ปัญหาสายตาเอียง

สายตาเอียง (Astigmatism) คือ การที่คนไข้มองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจน เพราะมีการหักเหของแสงที่ตกกระทบโฟกัสที่จอประสาทตาไม่สม่ำเสมอในระนาบเดียวกัน โดยมีสาเหตุมาจากลักษณะรูปร่างกระจกตา หรือความโค้งของกระจกตาที่ผิดปกติ เมื่อแสงสะท้อนเข้าสู่ดวงตา จุดรวมแสงตกกระทบไม่ถึงจอประสาทตา อีกทั้งกลับมีจุดโฟกัสภาพ 2 จุด

การทำเลสิคแก้ปัญหาสายตาเอียง คือ การใช้เลเซอร์ในการปรับความโค้งของกระจกตาให้เท่ากัน และให้มีความใกล้เคียงกับรูปร่างกระจกตาที่ปกติให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้หลังจากการเลสิคแล้ว บุคคลนั้นมองเห็นวัตถุในระยะไกลได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่เกิดภาพซ้อนหรือเงา ทำให้การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การแยกตัวเลขที่มีความคล้ายกัน หรือการเห็นแสงฟุ้งในตอนกลางคืนดีขึ้น


เลสิคมีกี่ประเภท

ประเภทเลสิค

เมื่อเราตัดสินใจที่จะทำเลสิค เพื่อแก้ปัญหาทางสายตาแล้ว เราก็ต้องมารู้ก่อนว่า เลสิคมีกี่แบบ แล้วแบบไหนจึงจะเหมาะกับเรา เรามาหาคำตอบกัน

ReLEx SMILE เลสิคแบบไร้ใบมีด

การทำเลสิคแบบ ReLEx SMILE (Refractive Lenticule Extraction กับ Small Incision Lenticule Extraction) เป็นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผ่าตัดแก้ไขสายตา เพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติทางสายตา ไม่ว่าจะเป็นภาวะสายตาสั้น หรือสายตาเอียง

โดยการนำเลเซอร์ที่มีชื่อว่า Femtosecond Laser เข้ามาใช้ตัดเนื้อกระจกตาเป็นชิ้นเลนส์ แล้วดึงออกผ่านแผลซึ่งมีขนาดเล็กเพียงประมาณ 2 – 4 มม. จึงเป็นเทคนิคที่รบกวนกระจกตาน้อยมาก และมีระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 15-20 นาที

จุดเด่นของการทำเลสิคแบบ ReLEx SMILE คือ 

  • ไม่มีการแยกชั้นกระจกตา ทำให้ไม่เกิดบาดแผล
  • เกิดอาการระคายเคืองหรือปวดตาน้อยมาก (หรือแทบไม่มีเลย)
  • รักษาโครงสร้างทางกายภาพและความแข็งแรงของเนื้อกระจกตาได้ดี
  • ลดภาวะแสงฟุ้งกระจายตอนกลางคืน
  • โอกาสเกิดภาวะตาแห้งน้อยมาก
  • ใช้เวลาผ่าตัดสั้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน 1,000 (-10.00 ไดออปเตอร์) และสายตาเอียงไม่เกิน 500 (-5.00 ไดออปเตอร์) หรือผู้ที่มีทั้งภาวะสายตาสั้นร่วมกับสายตาเอียง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงกระทบกระแทกบริเวณตาหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ หรือผู้ที่ตาแห้ง

Bladeless FemtoLASIK

เป็นการผ่าตัดเลสิคแบบไร้ใบมีด โดยการใช้เลเซอร์ (Femtosecond Laser) ในขั้นตอนการเปิดฝากระจกตา จากนั้น จะปรับแต่งความโค้งของกระจกด้วยเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) ด้วยความเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ต โดยที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายโดยรอบ ระยะเวลาในการผ่าตัด 30 นาที

สำหรับการทำเลสิคแบบ Bladeless FemtoLASIK มีจุดเด่น คือ

  • มีผลข้างเคียงและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ
  • มีความอ่อนโยน และก่อความระคายเคืองน้อย
  • ไม่ต้องฉีดยาชา ใช้เพียงแค่ยาชาแบบหยอดตา
  • สามารถฟื้นตัวได้เร็ว เพราะไม่ต้องผ่าตัด
  • สามารถกลับมามองเห็นได้เต็มประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว
  • มีความแม่นยำในการแยกชั้นกระจกตาสูง

เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นอยู่ระหว่าง 100 – 1,000 ( -1.00 ถึง -10.00 ไดออปเตอร์) หรือสายตาเอียงได้ถึง 600 (-6.00 ไดออปเตอร์) หรือผู้ที่มีภาวะกระจกตาบาง หรือตาเล็กเปิดตาได้ไม่มาก

MicrokeratomeLASIK ผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีด

การผ่าตัดเลสิคแบบใช้ใบมีด (Microkeratome LASIK, Blade LASIK, หรือ LASIK)  คือ การผ่าตัดโดยใช้ใบมีดอัตโนมัติที่มีขนาดเล็กตัดแยกชั้นกระจกตา แล้วจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) เพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติของสายตา โดยปรับแต่งความโค้งของกระจกตาให้ได้ค่าสายตาที่ต้องการ แล้วปิดกระจกตากลับเข้าที่เดิม ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 15-20 นาที ถือว่าเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก

ซึ่งจุดเด่นของการผ่าตัดเลสิคแบบนี้ คือ

  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย 
  • สามารถกลับมามองเห็นได้เต็มประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว 
  • อ่อนโยนต่อสภาพตา เกิดการระคายเคืองน้อย 
  • ราคาไม่สูงมาก
  • มีความแม่นยำสูง

เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นและเอียงไม่มาก มีสายตาสั้นและเอียงไม่เกิน 600

PRK (Photorefractive Keratectomy)

​การทำเลสิค PRK (Photorefractive Keratectomy) คือ วิธีการผ่าตัดแก้ไขปัญหาความผิดปกติสายตารุ่นแรกสุด แต่ยังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ขั้นตอนการรักษาจะไม่แยกชั้นกระจกตา เพียงแต่จะลอกผิวกระจกตาชั้นนอกสุด (Epithelium) ออกก่อน จากนั้น ใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) ปรับความโค้งของกระจกตาอีกที ก่อนจะปิดกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์นาน 5 – 7 วัน ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 15-20 นาที

โดย​การทำเลสิค PRK มีจุดเด่น คือ

  • ไม่ต้องฉีดยาชา ใช้แค่ยาชาแบบหยอดตา
  • ไม่ต้องมีการเย็บแผล
  • ใช้รักษาในผู้ป่วยที่มีกระจกตาบาง ซึ่งไม่สามารถใช้การรักษาแบบแยกชั้นกระจกตาได้

เหมาะสำหรับบุคคลหลายประเภท ดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีสายตาสั้นและเอียงไม่มาก
  • ผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรัง
  • ผู้ที่ต้องเตรียมตัวเข้าสอบบางอาชีพที่มีความเสี่ยง เช่น สอบนักบิน สอบเตรียมทหาร ต้องทำกิจกรรมและกีฬาบางประเภทที่มีความเสี่ยง เช่น นักมวย
  • ผู้ที่มีข้อจำกัดในการรักษาด้วยเทคนิคการแยกชั้นกระจกตา
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของกระจกตา ได้แก่ กระจกตาบางหรือผิดรูป มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย กระจกตาดำมีการลอกหลุด เป็นแผลที่กระจกตา

ICL (Implantable Collamer Lens)

การทำเลสิคแบบ ICL (Implantable Collamer Lens) คือ การนำเลนส์เสริมชนิดถาวรมาใส่ในดวงตา โดยการที่จักษุแพทย์เปิดแผลกระจกตา และนำเลนส์ที่มีลักษณะบางพับได้ เข้าไปวางหน้าเลนส์แก้วตา ซึ่งไม่มีการเย็บแผล เพราะบริเวณนั้น สามารถสมานตัวได้เอง

จุดเด่นของการทำเลสิคแบบ ICL คือ 

  • สามารถแก้ไขปัญหาความผิดปกติสายตาที่มาก ๆ ได้ 
  • มีภาวะแทรกซ้อนน้อย 
  • การใช้สายตาในเวลากลางคืนไม่ก่อให้เกิดแสงกระจาย 
  • สามารถนำเลนส์เสริมออกได้ หากไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้

เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นไม่เกิน 1,800 และผู้ที่มีสายตาเอียงไม่เกิน 600 และผู้ที่ไม่สามารถทำเลสิคได้ในบางกรณี รวมไปจนถึงผู้ที่มีอาการตาแห้งมาก กระจกตาบาง


ข้อดี – ข้อจำกัดของการทำเลสิค

เราลองมาดูข้อดีและข้อจำกัดของการทำเลสิคกันบ้าง เพราะในการช่วยแก้ไขปัญหาสายตาตามที่กล่าวมาแล้วนั้น บางคนก็ว่า เลสิคผลเสียมากมาย เลสิคตาแห้งบ้าง เราลองมาดูกันว่า เป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่

ข้อดีของการทำเลสิค

การทำเลสิคนั้น มีข้อดีมากมาย โดยสามารถสรุปได้ ดังนี้

  • สามารถแก้ไขปัญหาความผิดปกติของสายตาให้กลับมามองเห็นชัดเจนได้อย่างถาวร
  • ใช้เวลาในการผ่าตัด รวมไปจนถึงการพักฟื้นน้อย แผลสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว
  • ไม่ต้องฉีดยาชา มีเพียงแค่การหยอดยาชาที่ตา 
  • ไม่มีการเย็บแผล จึงไม่รู้สึกเจ็บในการผ่าตัด
  • หลังจากผ่าตัด สามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล
  • การมองเห็นชัดเจนขึ้น ไม่ต้องพึ่งแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป
  • เสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจ 
  • สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะกีฬาทางน้ำและกีฬากลางแจ้ง
  • เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพต่าง ๆ 

ข้อจำกัดของการทำเลสิค

แต่การทำเลสิคนั้น ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ทำให้ทุกคนที่มีปัญหาทางสายตาไม่สามารถทำได้ คือ

  • มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
  • บางคนไม่สามารถทำเลสิคได้ เช่น บุคคลที่เป็นโรคเกี่ยวข้องกับตา หรือคนที่อยู่ในระยะตั้งครรภ์ ให้นมบุตร เป็นต้น
  • หลังจากทำเลสิคแล้ว บางคนอาจจะตาแห้งได้ จึงจำเป็นต้องดูแลตนเองตามที่แพทย์ให้คำแนะนำ

ใครบ้างที่ควรทำเลสิค

ซึ่งคนที่ควรจะทำเลสิค ควรจะเข้าข่ายเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  • มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • มีสายตาคงที่หรือค่าสายตาไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างน้อย 1 ปี
  • มีปัญหาในการสวมแว่นหรือคอนแทคเลนส์ อันเนื่องมาจากอาชีพ กิจวัตรประจำวัน รวมไปถึงงานอดิเรก
  • ได้รับการประเมินจากจักษุแพทย์แล้วว่า สุขภาพตาโดยรวมดี
  • มีกระจกตาหนาและแข็งแรงเพียงพอ
  • ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ไม่มีโรคของกระจกตาและโรคตาอย่างอื่นที่รุนแรง เช่น โรคอักเสบเรื้อรังในลูกตา จอประสาทตาเสื่อม ภาวะตาแห้งอย่างรุนแรง หรือโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคเบาหวาน กลุ่มโรครูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี (SLE) สะเก็ดเงิน ฯลฯ
  • รับทราบและเข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการทำเลสิคเป็นอย่างดี

ใครที่ไม่ควรทำเลสิค

ทีนี้ เราลองมาดูกลุ่มคนที่ไม่ควรทำเลสิคกันบ้าง เพราะการทำเลสิคนั้น มีข้อจำกัดและข้อที่ควรระวังหลายอย่าง ดังนั้น ใครที่ต้องการจะทำ ควรศึกษาและสังเกตตนเองว่าเข้าข่ายดังต่อไปนี้หรือไม่

  • อายุน้อยกว่า 18 ปี ยกเว้น อายุน้อยกว่า 18 ปี ที่ต้องการไปสอบเตรียมทหาร/ตำรวจ จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน HIV และSLE หรือโรคทางจักษุ ได้แก่ ต้อหิน ต้อกระจก กระจกตาถลอก เป็นต้น หรือ มีประวัติการติดเชื้อที่ตา
  • ผู้ที่เป็นโรคจิตเวช หรือ ผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยทางจิตที่ยังรักษาอยู่ในความดูแลของแพทย์ (หมายเหตุ : หากผู้ป่วยยืนยันที่จะทำเลสิค ต้องได้รับการยินยอม/มีใบรับรองจากแพทย์ที่รักษาโรคจิตเวชของผู้ป่วย)
  • บุคคลที่ค่าสายตาไม่เสถียร หรือยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่
  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียงมาก
  • ผู้ที่มีอาการตาแห้งอย่างรุนแรง
  • ผู้ที่กระจกตาบาง หรือได้รับการประเมินแล้วว่าไม่แข็งแรง
  • ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร

การเตรียมตัวก่อนทำเลสิค

เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่า จะทำเลสิค สิ่งต่อมาที่คุณจะต้องทำก็คือ การเตรียมตัว แล้วเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้เราสามารถเข้ารับการทำเลสิคได้อย่างปลอดภัยและประสบผลสำเร็จมากที่สุด เรามาดูกัน

  1. เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานและเชื่อถือได้ เพื่อตรวจประเมินอย่างละเอียด รวมไปจนถึงการเลือกรูปแบบการทำเลสิคที่เหมาะสม และวางแผนการรักษา
  2. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการตรวจ ควรมีการเตรียมตัวเบื้องต้น ดังนี้
  • ผู้ที่มีการใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ หากใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ควรมีการถอดออกก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 3 วัน และหากใส่คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง ควรมีการถอดออกก่อนอย่างน้อย 7 วัน
  • หากมีการใช้ยาใด ๆ อยู่เป็นประจำ ควรแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบ
  • วันที่มีการตรวจประเมินสายตา ควรมีการเตรียมแว่นกันแดด และพาผู้ดูแลมาด้วย เนื่องจากในวันนั้น จะมีการใช้ยาหยอดขยายม่านตา ซึ่งทำให้ตาพร่ามัว สู้แสงไม่ได้ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง

ขั้นตอนการตรวจประเมิน คือ เริ่มจากจักษุแพทย์จะทำการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมองเห็น ความดันของลูกตา การตรวจจอประสาทตา การตรวจวัดความโค้งและความหนาของกระจกตา รวมไปจนถึงความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นภายในดวงตา

จากนั้น เมื่อจักษุแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว จะนำข้อมูลการตรวจที่ได้ ประกอบกับการซักประวัติ เพื่อนำมาประกอบการวางแผนการทำเลสิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และนำมาสรุปแนวทางกับคนไข้เป็นลำดับถัดไป

  1. การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเลสิค โดยเราต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้
  • หากใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ควรงดก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 3 สัปดาห์
  • ควรสระผมให้สะอาด ไม่แต่งหน้า และไม่ใช้เครื่องหอมก่อนมาโรงพยาบาล
  • ควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่-ถอดได้สะดวก เช่น เสื้อติดกระดุมผ่าหน้าตลอด
  • ควรรับประทานอาหารพออิ่ม หลังจากนั้นถ้าหิวให้ดื่มน้ำ หรือรับประทานของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ
  • งดการใช้น้ำหอม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงต่าง ๆ ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาก่อนวันผ่าตัด
  • งดการทำผม ไม่ว่าจะเป็นการใส่น้ำมันบำรุงผม เจลใส่ผม หรือใช้เครื่องประดับใด ๆ
  • งดทานยารักษาสิว ก่อนทำการตรวจหรือผ่าตัด 1 เดือน เนื่องจากทำให้ตาแห้ง วัดค่าสายตาไม่แม่นยำ
  • งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1-2 วัน
  • งดการดื่มชา หรือ กาแฟ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • ควรพาผู้ดูแลมาด้วย 1 คน เพราะหลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น ยังไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในทันที
  • จัดเตรียมค่ารักษาและค่าผ่าตัดให้เพียงพอ
  • ดูแลและสังเกตร่างกายตนเอง หากพบความผิดปกติใด ๆ เช่น ตาบวมแดง มีขี้ตา เป็นหวัด ไอ จาม มีไข้สูง เกิดการเจ็บป่วย ฯลฯ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อทำการปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัด
  • พกแว่นตากันแดด เพื่อป้องกันดวงตาจากแสงหลังการผ่าตัด

ขั้นตอนการทำเลสิค

ขั้นตอนการทำเลสิค

ต่อมา เรามาดูกันต่อว่า การทำเลสิคนั้น มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจได้อย่างเข้าใจและถูกต้อง โดยการทำเลสิคมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. แพทย์จะใช้เครื่องมือในการยึดไม่ให้เกิดการปิดเปลือกตาขณะผ่าตัด และหยอดยาชาลงบนดวงตาเพื่อให้คนไข้ไม่มีความเจ็บปวด พร้อมกับอธิบายขั้นตอนการรักษา
  2. เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะใช้เครื่องมือ Microkeratome ในการแยกชั้นกระจกตา เริ่มทำการผ่าตัดแยกชั้นกระจกตา ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือการผ่าตัดแบบใช้ใบมีด (Microkeratome Lasik) หรือผ่าตัดแบบใช้เลเซอร์ (Femtosecond Laser) โดยจะแยกชั้นของกระจกตาออกประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตา 
  3. เมื่อแยกชั้นกระจกตาได้แล้ว แพทย์จะใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า Excimer Laser มาใช้ในการปรับความโค้งของกระจกตาตามที่ได้คำนวณไว้ โดยยิงขัดผิวกระจกตาบางส่วนออก ซึ่งขั้นตอนนี้ จะใช้เวลาแตกต่างกัน ตามความมากน้อยของความผิดปกติของสายตา
  4. แพทย์จึงทำการปิดชั้นกระจกตาด้านบนกลับเข้าที่เดิมโดยไม่มีการเย็บ ใช้เวลาเพียง 3 – 5 นาที เป็นอันเสร็จสิ้น กระจกตาก็จะสมานกลับเข้าที่เดิมโดยธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือกระจกตามีความโค้งพอดีที่จะทำให้แสงจากวัตถุตกกระทบลงบนจอประสาทตาเหมือนกับคนที่มีสายตาปกติ ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 10 – 15 นาที

การปฏิบัติตัวหลังจากทำเลสิค

แม้ว่า การทำเลสิคจะผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย แต่เราก็ยังต้องดูแลตัวเอง ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังต่อไปนี้

  • หลังทำเลสิค ควรเข้าพบจักษุแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามผลลัพธ์และอาการที่เกิดขึ้น
  • หากมีอาการปวดตา หรือตาแห้ง ให้ใช้ยาบรรเทาอาการปวด 
  • หากมีอาการตาแห้ง ระคายเคืองตาสามารถใช้น้ำตาเทียมได้
  • ควรหยอดยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ต้องสวมที่ครอบตาไว้ โดยเฉพาะตอนเข้านอน เพื่อป้องกันการเผลอขยี้ตาหรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
  • ควรพักผ่อนสายตาให้ได้มากที่สุด ไม่ควรใช้สายตาหนักจนเกินไป เพื่อการฟื้นฟูของดวงตาเร็วขึ้น
  • พยายามงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังประมาณ 1 เดือน
  • ระมัดระวังเรื่องของน้ำหรือฝุ่นละอองเข้าสู่ดวงตา โดยสวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกแดดอย่างน้อย 1 เดือน 
  • งดการใช้เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงต่าง ๆ บริเวณรอบดวงตา
  • งดว่ายน้ำเป็นเวลา 1 เดือน งดดำน้ำลึกเป็นเวลา 3 เดือน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 7 วัน รับประทานอาหารได้ตามปกติ
  • หากจำเป็นต้องไปในพื้นที่แสงสว่างจ้า ควรใส่แว่นตากันแดด
  • ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละอองหรือควันบุหรี่ และควรระวังไม่ให้ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ และน้ำเข้าตาประมาณ 7 วัน
  • หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและตรวจดูอาการโดยเร็ว

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำเลสิค

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำเลสิค

หลังจากที่คุณทำเลสิคแล้ว ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ เพราะการทำเลสิคเองก็เป็นการผ่าตัดประเภทหนึ่งที่สร้างบาดแผลให้ร่างกาย แม้ว่า จะมีขนาดที่เล็กมาก รวมถึงมีความปลอดภัยที่สูง แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงขึ้นได้เช่นกัน เช่น

  • มีอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา
  • ดวงตามีความไวต่อแสง
  • เกิดรอยขนาดเล็กที่บริเวณดวงตา
  • มีอาการตาพร่าหรือการมองเห็นยังไม่คงที่
  • การติดเชื้อ (Infection)
  • การแก้สายตาขาดหรือเกิน (Under and Over corrections)
  • การเห็นแสงกระจาย (Glare) หรือ มีรัศมีรอบดวงไฟ (Halo) โดยเฉพาะตอนกลางคืน ในระยะแรก ๆ หลังการรักษาแล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น
  • ความคมชัดไม่คงที่ (Fluctuation of Vision)
  • ภาวะตาแห้ง (Dry Eyes)

ทำเลสิคราคาเท่าไหร่

การทำเลสิคนั้นมีหลากหลายประเภทตามที่เราได้อธิบายไปแล้ว โดยในแต่ละแบบก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการรักษาและสถานพยาบาล ซึ่งเราจะประมาณราคาในแต่ละแบบ ดังนี้

  • ReLEx SMILE ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 86,000 – 100,000 บาท
  • Bladeless FemtoLASIK ราคาประมาณ 60,000 – 120,000 บาท
  • Microkeratome Lasik ราคาอยู่ที่ 38,000 – 50,000 บาท
  • PRK (Photorefractive Keratectomy) ราคาโดยประมาณ 33,000 – 50,000 บาท
  • ICL (Implantable Collamer Lens) ราคาอยู่ที่ประมาณ 150,000 – 200,000 บาท

จากข้อมูลข้างต้น ก็พอจะทำให้คุณเห็นว่า เลสิคราคาอยู่ที่ประมาณเท่าใด เพื่อที่คุณจะสามารถวางแผนงบประมาณ เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างเหมาะสม


ข้อสรุป

ทำเลสิก

การทำเลสิคเป็นการแก้ปัญหาทางสายตา ไม่ว่าจะเป็นสาตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงอย่างถาวร ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลาย ๆ คน ที่จะทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในประจำวันได้อย่างราบรื่น แต่เราเองก็ต้องศึกษาข้อมูลของแพทย์และสถานพยาบาลที่เราเลือกจะทำเลสิคให้ดี เพราะดวงตาถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญและเปราะบางเป็นอย่างมาก หากเกิดความเสียหายขึ้นมา อาจจะส่งผลให้ชีวิตของเราแย่กว่าเดิมก็เป็นได้


 

Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]