
เคยไหมที่มีอาการผมร่วงจนพื้นห้องเต็มไปด้วยเส้นผม ต้องกวาดพื้นทุกวัน และเกิดความไม่มั่นใจเมื่อมีคนเห็นว่าผมร่วง ผมบางมากกว่าคนอื่น ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เป็นปัญหากวนใจ ที่ทำให้รู้สึกได้ว่าร่างกายมีความผิดปกติบางอย่าง หลายคนจึงหันไปพึ่งการ ฉีด PRP ผม เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
การฉีด PRP ผมจะช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมเส้นใหม่อีกครั้ง ทำให้ผมที่เกิดใหม่มีความหนาและแข็งแรงขึ้น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยไร้สารเคมี โดยใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นของผู้ป่วยเอง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ให้คุณกลับมามีความมั่นใจในการใช้ชีวิตอีกครั้ง
ทั้งนี้การฉีด PRP ผมไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะที่ไม่มีรากผม ผู้ทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือผู้มีโรคความดัน โรคโลหิตจาง เพราะเลือดอาจไม่สมบูรณ์พอที่จะนำมาใช้ในการทํา PRP ผม การฉีด PRP ผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เราได้รวบรวมข้อมูล PRP ผม รีวิวไว้ให้คุณแล้วไปดูกันเลย
ฉีด PRP ผม ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด

การฉีด PRP ผม (Platelet Rich Plasma) คือ นวัตกรรมการปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เจ็บปวด และไม่ใช้สารเคมีใด ๆ โดยการนำพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นสูง มาฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะในบริเวณที่มีผมร่วง ผมบาง เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม หลังฉีด PRP ผม เซลล์รากผมจะสร้างผมเส้นใหม่อีกครั้ง ทำให้ผมดูหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น เป็นวิธีทางธรรมชาติที่มีความปลอดภัย
ต้องฉีด PRP ผมกี่ครั้ง ผลลัพธ์ถึงจะดี
การฉีด PRP ผมที่ทำให้ผมแข็งแรงอย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำ 3 – 10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและความรุนแรงของอาการของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินอาการเป็นระยะ ๆ ทุกเดือน ผู้ป่วยจึงต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
PRP ผม เจ็บไหม
การรักษาขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละบุคคล หลังจากฉีด PRP ผม ผู้ป่วยจะรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณผิวหนัง และอาการจะหายไปภายใน 10 – 15 นาที บางรายอาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อย ซึ่งอาการบวมจะหายไปภายใน 2 – 3 วัน หากเกิดอาการฟกช้ำ จะหายไปใน 2 สัปดาห์
ประโยชน์ของการรักษาด้วยวิธีฉีด PRP ผม
การฉีด PRP ผมด้วยการนำเกล็ดเลือดและสารต่าง ๆ ที่เรียกว่า โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) มาทำการรักษา เป็นวิธีการที่มีความปลอดภัยใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับผู้มีเวลาไม่มากในการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง เป็นวิธีทางธรรมชาติที่มีความปลอดภัย ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้เซลล์รากผมแข็งแรง ชะลอการเกิดผมร่าง ผมบาง และมีประโยชน์มากมายดังนี้
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไร้รอยแผลเป็น
- ปลอดภัยไร้สารเคมี
- ใช้เวลาไม่นาน
- มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
- ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพ
ก่อนฉีด PRP ผมต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
การฉีด PRP ผมเหมาะผับผู้มีอาการผมร่วง ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หรือผู้มีเส้นผมเล็กมากแต่ยังมีรากผมอยู่ การใช้เกล็ดเลือดของตนเองมาทำการรักษาด้วยวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมี โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น ซึ่งก่อนทำ PRP ผม ผู้ป่วยจะต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อไม่ให้เลือดมีความข้นหนืด
- งดอาหารที่มีไขมันสูง
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์
- งดการใช้ยาแก้อักเสบ
- ควรสระผมก่อนเข้ารับการรักษา และไม่ควรใส่เจล สเปรย์ จัดแต่งทรงผม
การฉีด PRP ผม มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
การปลูกผมด้วยการใช้พลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นในการทํา PRP ผม ไม่ใช่ว่าจะได้ผลกับทุกคน การฉีด PRP ผมเป็นเพียงอาหารเสริมที่ใช้ในการรักษาผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางในระยะเริ่มต้นถึงปานกลางเท่านั้น จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาศีรษะล้าน โดยมีวิธีการรักษาดังนี้
- เจาะเลือดผู้ป่วยบริเวณแขน ประมาณ 20 – 30 CC
- นำเลือดมาเติมสารการแข็งของเลือด
- ปั่นเลือดเพื่อแยกเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่เรียกว่า PRP ผม ที่จะนำมาใช้ในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม
- คัดเฉพาะเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นในการฉีดให้ผู้ป่วย
- ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อบริเวณหนังศีรษะ
- ทายาชาให้ทั่วบริเวณที่ต้องการรักษา
- แพทย์ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นที่ได้เตรียมไว้บริเวณหนังศีรษะที่ต้องการรักษา
หลังฉีด PRP ผมต้องดูแลตัวเองอย่างไร
หลังฉีด PRP ผมจะแข็งแรงมากขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารมากขึ้นจากพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นสูง ทำให้เส้นผมที่ลีบเล็กกลับมาหนาขึ้น มีความแข็งแรงสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องใช้ระยะเวลา 6 – 12 เดือนถึงจะเห็นผล ทั้งนี้ควรดูแลตัวเองหลังปลูกผม PRP ให้ดีโดยมีวิธีการดังนี้
- ห้ามโดนน้ำ 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การนวดหน้า หรือนวดศีรษะ
- งดสระผม ใส่เจล สเปรย์ หรือน้ำมันจัดแต่งทรงผม 4 – 6 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือการสระผมรุนแรง เมื่อสระผมให้ใช้ผ้าเช็ดผมอย่างระมัดระวัง
- สระผมด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนประมาณ 1 อาทิตย์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาประเภทแอสไพริน (Aspirin) และไอบูโพรเฟ่น (Ibuprofen) ประมาณ 2 – 3 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 วัน
- ละเว้นการออกกำลังกาย
สรุป
การรักษาอาการผมร่วง ผมบางด้วยวิธีฉีด PRP ผม โดยการใช้พลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นสูงมาใช้ในการรักษา สามารถช่วยชะลออาการผมร่วง บำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม ทั้งนี้ผลของ PRP จะอยู่ได้ 1 – 3 ปี ตามอายุขัยของเส้นผม แพทย์จึงแนะนำให้ฉีดทุก ๆ 2 – 3 เดือน เพื่อคงสภาพความสมบูรณ์ของรากผมอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เส้นผมกลับไปบางอีก