การดูแลบำรุงรักษาสายตาเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้าม ปัจจุบัน คนไทยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับ จอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ ทำให้สายตาของใครหลาย ๆ คนเริ่มที่จะเสื่อมลง ส่งผลต่อการใช้ชีวิต เพื่อให้บรรเทาการเสื่อมของสายตา หลาย ๆ คนจึงแสวงหาทางเลือกด้านการกิน อย่างวิตามินบำรุงสายตาหรืออาหารบำรุงสายตา ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักวิธีบำรุงสายตาที่ถูกต้องว่าต้องทำอย่างไร
ค่าสายตาปกติเป็นแบบไหน
ค่าสายตาเป็นตัวบ่งชี้ว่าสายตาของแต่ละคนนั้นปกติหรือไม่ มีการมองเห็นได้ชัดเพียงใด มีอาการสายตาสั้น ยาว หรือเอียงหรือไม่ หากทุกคนได้ไปตรวจวัดค่าสายตามาแล้ว ก็จะได้ใบที่เป็นตัวเลขออกมาหลายเลขด้วยกัน แต่คงจะไม่มีประโยชน์อะไรหากเราไม่สามารถอ่านตัวเลขเหล่านั้นได้ ก่อนที่เราจะรู้ว่าค่าสายตาปกติเป็นแบบไหน เราต้องรู้จักเลขบนกระดาษพวกนี้ให้ได้ก่อน
อักษรย่อที่ควรทราบ
- ตัวอักษร O.D. และ O.S ย่อมาจาก ตาขวา และ ตาซ้าย ตามลำดับ
- Sphere (SPH) คือตัวย่อที่แสดงปริมาณกำลังสายตา มีหน่วยเป็นไดออปเตอร์ diopters (D) ซึ่งเป็นหน่วยวัดสายตาทางการแพทย์ หากตัวเลขใน SPH ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายลบ (-) หมายถึงคุณมี ค่าสายตาสั้นในทางตรงกันข้ามหากเป็นบวก (+) หมายถึงคุณมี ค่าสายตายาว ยกตัวอย่าง -1.00 D แสดงว่าคุณสายตาสั้นสองจุดศูนย์หรือเรียกว่า สั้นสองร้อย หาก +300 ก็คือ สายตายาวสามร้อย
- CYL (cylinder) ค่าสายตาเอียง หากเกิดปัญหาสายตาเอียงเราต้องใส่เลนส์เพื่อปรับองศาการมองของเรา โดยหากค่าสายตาเอียง CYL มีเครื่องหมายบวก แสดงว่า สายตาเอียงโดยมีสายตายาวร่วมด้วย แต่ถ้าหาก CYL เป็นลบ แสดงว่า สายตาเอียงโดยมีสายตาสั้นร่วมด้วย
- Add (Addition) เป็นกำลังขยายเพิ่มเติมที่ครึ่งล่างของเลนส์ โดยเป็นการเพิ่มเลนส์บวก เพื่อให้คนที่สายตายาวสามารถมองสิ่งใกล้ ๆ ได้ เช่นการอ่านหนังสือ โดยส่วนมากแล้ว ค่า Add จะเพิ่มตามอายุ
- Axis เป็นค่าสายตาที่บ่งบอกว่า สายตาเอียงไปในทิศทางใด หรือแกนองศาสายตาเอียง โดยมีมุมตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 180 องศา
ยิ่งอายุมาก ยิ่งต้องบำรุงสายตา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น สายตาของเราย่อมเสื่อมถอยเป็นธรรมดา นอกจากความเสื่อมถอยแล้วยังมีโรคต่าง ๆ ที่มักเกิดกับดวงตาของผู้สูงอายุอีกด้วย ส่งผลให้การใช้ชีวิตของพวกเขามีความยากลำบาก ซึ่งหากเราดูแลรักษาตาของเราไม่ดีแล้ว โรคเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นกับคุณเมื่ออายุเยอะขึ้น
โรคเกี่ยวกับตาที่มักเกิดเมื่ออายุมากขึ้น
- โรคต้อกระจก – โรคที่ทำให้ลูกตามีความขุ่นมัว โดยโรคต้อกระจกนี้หากผู้ป่วยมีอายุที่มากขึ้นจะทำให้ต้อมีความขุ่นมากขึ้น และนำไปสู่การตาบอด 4
- โรคเบาหวานขึ้นตา – อาการที่ตามีความเสื่อมถอย เนื่องจากโรคเบาหวาน ซึ่งหากเราพบแพทย์ทัน จะทำให้แพทย์สามารถควบคุมความเสื่อมสายตา และป้องกันการตาบอดได้
- โรคตาแห้ง – เป็นอาการที่คนเรามีน้ำตาเพียงพอ ส่งผลให้ตาของเรามีความแห้ง ทำให้ไม่สบายตาจนมีปัญหาเรื่องการมองเห็น
- โรคต้อหิน – เป็นโรคทางตา ที่เกี่ยวกับปัญหาทางประสาทตา โดยสาเหตุมาจากความดันลูกตาที่สูงขึ้น
- โรคจอประสาทตาเสื่อม – เป็นภาวะที่เกิดจากปัญหาทางจอประสาทตา ทำให้เกิดภาวะการสูญเสียการมองเห็น ส่วนใหญ่พบในอายุ 60 ปีขึ้นไป
วิธีบำรุงสายตา มีอะไรบ้าง
การที่ทำให้สายตาเรามีความแข็งแรง ย่อมต้องอาศัยการดูแลตัวเอง แต่หลายคนมักไม่รู้ว่าการบำรุงสายตาที่ถูกต้องนั้นมีอะไรบ้าง ในส่วนนี้เราจะมานำเสนอวิธีบำรุงสายตา เพื่อให้ทุก ๆ ท่านได้นำไปใช้และทำให้สายตาของเราแข็งแรงไปด้วยกัน
1. บริหารกล้ามเนื้อสายตา
วิธีนี้ช่วยให้สุขภาพกล้ามเนื้อตาของเราดีขึ้น สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการ กระพริบตาข้างละ 5 วินาที จากนั้นมองซ้ายและขวา ขึ้นและลง จากนั้นกรอกตาเป็นวงกลม การทำอย่างงี้จะทำให้กล้ามเนื้อสายตาได้รับการใช้งาน ทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
2. ปรับความสว่างและความละเอียดของหน้าจอคอม
การใช้จอคอมที่มีความสว่างและความละเอียดพอดี ทำให้ลดความเร็วในการเสื่อมสายตา เพราะถ้าเราปรับแสงสว่างบนจอมากเกินไป จะส่งผลให้สายตาของเราสั้น และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
3. จิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มของดวงตา
หนึ่งในวิธีธรรมชาติ ที่สามารถทำได้ทุกคน คือการจิบน้ำ เพื่อทำให้ดวงตาของเรามีความชุ่มชื้น แต่ทั้งนี้ไม่ควรดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ เพราะจะส่งผลให้ร่างกายขับน้ำออกมาไม่ทัน
4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
การที่เราดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียทางสายตา ทำให้เกิดโรคทางสายตาหลายอย่างเช่น จอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก และนอกจากนี้ยังทำลายเส้นประสาทตาได้อีกด้วย
5. ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตาเรานั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะอยู่ใน ผัก ผลไม้ หรือวิตามินบำรุงสายตาในผลิตภัณฑ์เสริมต่าง ๆ โดยหากเราทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตาอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราได้รับวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยในการทำงานของระบบประสาทตา
แนะนำสารอาหารช่วยบำรุงสายตา
ในโลกนี้ มีสารอาหารและแร่ธาตุมากมาย สารอาหารแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์และสรรพคุณที่แตกต่างกัน หนึ่งในนั้นคือสรรพคุณในการบำรุงสายตา ผู้คนส่วนใหญ่จะยังไม่รู้ว่าสารอาหารบรุงสายตามีอะไรอะบ้าง ในวันนี้ เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักเหล่าสารอาหารเหล่านี้ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในการเลือกทานอาหารเพื่อบำรุงสายตาของท่าน
1. วิตามินกลุ่มต่างๆ
- วิตามินเอ (Vitamin A) หนึ่งในวิตามินที่ที่มีส่วนช่วยเรื่องกล้ามเนื้อประสาทตา รักษาสายตาของเราไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว ส่วนมากพบได้ใน ผักโขม แครอท ฟักทอง มะละกอ เป็นต้น
- วิตามินซี (Vitamin C) นอกจากบำรุงสายตาแล้ว ช่วยในการป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ฟื้นฟูแผลให้หายเร็ว พบได้ใน บร็อคโคลี่ พริกหวาน ผักโขม มันฝรั่ง ส้ม
- วิตามินอี (Vitamin E) วิตามินชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์มะเร็ง พบมากใน ถั่วต่าง ๆ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด
2. แร่ธาตุสังกะสี (Zinc)
แร่ธาตุสังกะสีเป็นแร่ธาตุที่สามารถพบได้ ในแหล่งอาหารธรรมชาติ เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา เหมือนกับสารแอนตี้ออกซิแดนท์ สังกะสีมีช่วยในการชะลอการเสื่อมวัยของจอประสาทตาได้ดีอีกด้วย
3. กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acid)
กรดโอเมก้า 3 DHA สารอาหารสำคัญในการบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง
4. สารแคโรทีนอยด์
- ลูทีน (Lutein) หนึ่งในสารอาหารที่มีความเด่นเรื่องการบำรุงสายตา โดยเฉพาะดวงตาและจอประสาทตา เป็นเหมือนอีกทางเลือกในการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะต้น โดยลูทีนสามารถพบได้ใน ผักคะน้า ปวยเล้ง กีวี่ องุ่น
- ซีแซนทิน (Zeaxanthin) หนึ่งในรงควัตถุ เป็นส่วนประกอบสำคัญในจอประสาทตา นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาตา สามารถพบได้ใน ผักโขม ข้าวโพด ไข่แดง ส้ม ฟักทอง
10 อันดับ อาหารบำรุงสายตา มีอะไรบ้าง
การบำรุงสายตา ต้องควบคู่กับการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยในส่วนนี้เราจะมาแนะนำ 10 อันดับ อาหารบำรุงสายตา เพื่อให้คุณได้ไปเลือกทานกัน จะได้มีสายตาที่แข็งแรงใช้งานได้นาน ๆ เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจนะคะ ควรรักษาให้ดีๆ
1. ผักใบเขียว
ผักใบเขียว มีสารอาหารสำคัญอย่างลูทีนและซีแซนทีน โดยประกอบไปด้วย ผักโขม ผักคะหน้า ซึ่งผักเหล่านี้ถูกนำไปทำเป็นหลากหลายเมนู นอกจากมีความอร่อยแล้วยังช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
2. ไก่งวง
แหล่งโปรตีนชั้นดี ที่มาพ่วงกับสังกะสี โดยไก่งวง 1 จานมีสังกะสีเพียงพอในการบริโภคต่อวัน เรียกได้ว่าอัดแน่นด้วยประโยชน์จริง ๆ
3. ปลาแซลมอน ทูน่า ปลาซาดีน
เชื่อว่า อาหารชนิดนี้ ทุกคนต้องชอบเป็นแน่แท้ เพราะปัจจุบันหลายคนชอบทานเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสำคัญของ DHA และน้ำมันตับปลา ช่วยบำรุงประสาทตาและสมองได้ดีอีกด้วย
4.ไข่
อาหารที่ทุกคนต้องเคยกิน มากไปด้วยประโยชน์ เป็นแหล่งสารแคโรทีนอยด์ และยังอุดมไปด้วยสังกะสี และสารอาหารอื่นๆ เรียกได้ว่า ฟองเดียวเอาอยู่ !
5. เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท
แหล่ง โอเมก้า 3 และ DHA ชั้นดีเหมาะสำหรับเหล่ามังสวิรัติ คนที่ท่านพวกปลาแซลมอน หรือทูน่าไม่ได้่
6. ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม
ผักผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่บำรุงสายตา ไม่ว่าจะเป็น ลูทีน ซีแซนทิน และยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะวิตามิน C และ E
7. ถั่วอัลมอนด์และเนยถั่ว
หนึ่งในขนมที่มีประโยชน์ เชื่อว่าหลาย ๆ คนชอบ เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไขมันดี และวิตามิน E นอกจากนี้เนยถั่วยังเป็นแหล่งของสังกะสีอีกด้วย เรียกได้ว่าอร่อยแถมยังบำรุงสายตาอีกด้วย
8.พริกแดง
ผักที่ยกระดับความอร่อยของสลัดสำหรับใครหลาย ๆ คน พริกแดง อุดมไปด้วยวิตามิน A และ E ทานแล้วบำรุงสายตาได้ดีอย่างแน่นอน
9. เมล็ดทานตะวัน
แม้จะเป็นอาหารที่ชอบของใครหลาย ๆ คน และเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน E แต่ใครหลาย ๆ คนก็ยังไม่ชอบทานมันอยู่ดี
10.บร็อคโคลี่
หนึ่งในผักที่ดีที่สุด ในการทานเพื่อบำรุงสายตา เพราะมีสารอาหารในการบำรุงสายตาครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ลูทีน ซีแซนทิน วิตามิน C และ E หากอยู่ในเมนูอาหารแล้วควรรีบตักทานเป็นอันดับแรกเลย
ตรวจสายตาเป็นประจำ เพื่อดวงตาที่ยั่งยืน
ในเมื่อเรารู้จักวิธีบำรุงรักษาสายตา แล้วเราควรจะหมั่นเช็กสุขภาพของสายตาเราเช่นกัน เพราะเราใช้ดวงตามากที่สุดในการใช้ชีวิตแต่ละวัน การเช็คสายตาปีละครั้ง จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้เราสามารถรู้ถึงความผิดปกติของสายตาเราได้ทัน ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้
วิธีการป้องกันถนอมบำรุงสายตา
สายตาของเราเป็นสิ่งเราควรดูแลรักษาให้ดี โดยเฉพาะคนที่ใช้สายตาบ่อย ๆ คนที่จ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การบำรุงสายตาควรเป็นสิ่งที่ทุกคนควร ดีกว่ารอให้สายตาของเราเกิดปัญหาแล้วค่อยไปรักษากันทีหลัง อีกทั้งยังช่วยชะลอการแก่ตัวของสายตาได้อีกด้วย โดยวิธีการป้องกันถนอมบำรุงสายตาไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิด มีวิธีการดูแล ดังนี้
- การถนอมสายตาจากรังสี UV โดยการใส่แว่นกันแดด จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ และเวลาที่ขับรถเจอแดดจ้า ๆ เราควรสวมแว่นกันแดดไว้ทุกครั้งเพื่อถนอมสายตา
- เลี่ยงการสูบบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยงต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม เนื่องจากการสูบบุหรี่นั้นเป็นส่วนเร่งโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
- ไม่จ้องจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป หรือควรเปิดไฟขณะใช้งานคอมพิวเตอร์หรือเล่นโทรศัพท์ เพื่อลดเลี่ยงสายตาสั้น
- หากมีอาการตาแห้งควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันตาแห้ง หรือใช้น้ำตาเทียมช่วยลดอาการตาแห้ง
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยในการคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิต และระดับคอเลสตอรอล
ข้อสรุป
สายตาเป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ใน 1 วัน เราใช้สายตาไปแล้วส่วนใหญ่แทบจะเกินครึ่งหนึ่งของวัน เรียกได้ว่า มากกว่าเวลาที่ใช้นอน ซึ่งการที่เราจะทำให้สายตาของเราใช้งานได้เต็มที่และยืนยาว ควรหมั่นดูแล บำรุงสายตาของเราอย่างสม่ำเสมอ โดยทางผู้เขียนหวังว่า ใครหลาย ๆ คนจะนำความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ และทำให้สายตาของท่านใช้งานได้อย่างเต็มที่ไปนาน ๆ ค่ะ