สิวอุดตัน เกิดจากอะไร เกิดบริเวณไหน วิธีรักษาสิวอุดตัน ใช้อะไรดี

สิวอุดตัน

สิว คือ โรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยมากสิวที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิวชนิดที่รุนแรงแต่มักทำให้ขาดความมั่นใจ ซึ่งสิวนั้นเป็นการอักเสบเรื้อรังของผิวหนัง โดยจะแสดงออกมาทั้งในรูปสิวหัวเปิด (Open comedones) หรือสิวหัวปิด (Closed comedones) ในบทความนี้จะกล่าวถึงสิวอุดตัน ว่ามันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร มีสาเหตุมาจากอะไร เกิดบริเวณไหนบ้าง มีวิธีรักษาและวิธีป้องกันสิวอุดตันได้อย่างไร เป็นต้น


ทำความรู้จัก สิวอุดตัน คืออะไร

สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นสิวชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวมีลักษณะเป็นตุ่มนูน ถ้าไปจับจะรู้สึกถึงความไม่เรียบ และรู้สึกระคายเคืองได้ โดยจะมีไขมัน (Sebum) และเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ภายใน 

ซึ่งสิวอุดตันนั้น มักพบได้มากบริเวณหน้าผาก จมูกและคาง มักจะใช้เวลานานในการรักษา และหากรักษาจนหายแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก


ลักษณะของสิวอุดตัน

ลักษณะของสิวอุดตัน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เพราะฉะนั้นจะเป็นลักษณะมีตุ่มนูน เมื่อใช้มือลูบจะรู้สึกถึงความไม่เรียบ และรู้สึกระคายเคือง สามารถแบ่งได้ 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ได้แก่ สิวอุดตันที่มีขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นตุ่มนูนแข็งได้ชัด และสิวอุดตันที่มีขนาดเล็ก จะมีลักษณะคล้ายสิวเสี้ยนเม็ดเล็ก ๆ 


สิวอุดตันเกิดจากสาเหตุอะไร

โดยการเกิดสิวอุดตันนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งในบทความนี้จะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้น ทั้งปัจจัยที่เกิดจากภายในร่างกาย และปัจจัยที่เกิดจากภายนอกร่างกาย ได้แก่

สิวอุดตัน เกิดจากอะไร

สิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว และไขมันที่มีการผลิตออกมามากเกินไปจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง รวมถึงสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ภายใน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อมีมากเกินไปแล้วระบายออกไม่ทันจึงทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้อีก เช่น

ปัจจัยกระตุ้นสิวอุดตัน

  • การรับประทานอาหารที่มี ไขมัน น้ำตาล และแป้งมาก ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันได้
  • การขัดผิว บีบสิว ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด หรือผลัดเซลล์ผิวด้วยการทำเลเซอร์หน้า อาจทำให้ระคายเคืองและเกิดสิวอุดตันได้
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายในช่วงวัยรุ่น หรือผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง หรือแชมพูบางชนิด แล้วแพ้สารเคมี
  • การใช้ยา เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาลิเทียม ยาคุมกำเนิด
  • การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้มากขึ้น
  • ฝุ่นละออง และฝุ่นควันในอากาศที่มากเกินไป
  • ความเครียด ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ

ชนิดของสิวอุดตันใต้ผิวหนัง

ประเภทของสิวอุดตัน

โดยในบทความนี้จะมาหาคำตอบกัน ว่าสิวอุดตันมีกี่แบบ ในแต่ละแบบเกิดจากอะไร ต่างกันอย่างไร ได้แก่

1. สิวหัวขาว (Whiteheads)

สิวหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่ม มองเห็นได้ยาก มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ มีจุดขาว ครีม หรือเป็นสีเดียวกับผิวหนังเป็นหัวสิวซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันรูขุมขน เป็นการอุดตันที่ปิดผิว ไม่มีการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน รักษาได้ยากกว่าสิวหัวเปิด แต่ก็รักษาได้ง่ายกว่าสิวอักเสบ โดยหากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นสิวอักเสบ จะรักษาได้ยากขึ้นอีก

2. สิวหัวดำ (Blackheads)

สิวหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด เป็นสิวอุดตันที่สามารถมองเห็นก้อนเคราติน ไขมัน และแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในสิวได้จากภายนอก มีลักษณะเป็นจุดสีดำ หัวแบนเรียบ หรือโผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาเล็กน้อย เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากขนเส้นเล็ก ๆ  บนผิวหรือเนื้อเยื่อที่หลุดลอกและเข้าไปอุดตัน ที่เรียกว่าสิวหัวดำ เพราะเกิดจากไขมันชั้นนอกทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและเกิดเป็นสีดำ

3. สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone)

สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone) มักจะเป็นสิวหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด มักพบเป็นสิวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดปานกลาง ไม่สามารถกดสิวได้เนื่องจากเป็นไม่มีหัวสิวที่เปิดแบบที่กดได้ สิวอุดตันไม่มีหัวมีอยู่หลายประเภท สามารถเป็นสิวอักเสบหรือไม่อักเสบก็ได้ หากยิ่งบีบเข้นสิวอุดตันไม่มีหัวมากเท่าไหร่ ก็อาจจะทำให้ยิ่งอักเสบได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น และหากทิ้งเอาไว้นานก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหลุมสิวตามมาได้


บริเวณที่พบสิวอุดตัน

นอกจากคำถามที่ว่าสิวอุดตันมีกี่แบบแล้ว เรื่องบริเวณที่เกิดสิวอุดตันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้ เพื่อระมัดระวังแล้วรักษาความสะอาดบริเวณนั้น ๆ ให้ดี หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน เช่น เรื่องการทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การสูบบุหรี่ เป็นต้น โดยบริเวณที่มักเกิดสิวอุดตันจะอยู่บริเวณใบหน้า เช่น

สิวอุดตันที่แก้ม

สิวอุดตันที่แก้ม เกิดจากสิ่งสกปรก และการล้างหน้าที่ไม่สะอาด โดยแก้มเป็นส่วนที่สัมผัสกับสิ่งของหลายอย่าง เช่น ปลอกหมอน เส้นผม เครื่องสำอาง และโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งสิวอุดตันที่แก้มสามารถเกิดจากน้ำมันที่ผิวอุดตัน หรือการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติโดยผลัดเซลล์ผิวช้าเกินไปได้เช่นกัน

สิวอุดตันที่คาง

สิวอุดตันที่คาง มักจะเกิดมากกว่าที่อื่น ๆ เพราะอยู่ในบริเวณเส้นกึ่งกลางใบหน้าและผลิตน้ำมันออกมามากกว่าผิวส่วนอื่น ๆ ในผู้ที่มีผิวผสม จะทำให้เมื่อต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ สิวอุดตันจึงมักจะเกิดขึ้นที่คางก่อน โดยจะมาจากสิวบริเวณรอบปาก ที่เกิดจากฮอร์โมน รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีนม หรือผลิตภัณฑ์จากนม น้ำตาล และไขมันสูง

สิวอุดตันที่จมูก

สิวอุดตันที่จมูก มักจะเกิดมากกว่าที่อื่น ๆ เพราะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยู่เส้นกึ่งกลาง ทำให้สิวอุดตันที่จมูก สามารถเกิดขึ้นได้มากกว่าส่วนอื่น ๆ เช่นเดียวกับคาง

สิวอุดตันที่หน้าผาก

สิวอุดตันที่หน้าผาก เป็นบริเวณที่มักเกิดสิวก่อนส่วนอื่น ๆ เพราะอยู่ในบริเวณเส้นกึ่งกลางใบหน้าและผลิตน้ำมันออกมามากกว่าผิวส่วนอื่น ๆ เช่นเดียวกับคางและจมูก เป็นจุดที่เกิดสิวอุดตันได้มากจากเหงื่อ และการอดนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ

สิวอุดตันที่หลัง

สิวอุดตันที่หลัง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ บริเวณหลังก็เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่อยู่ในแนวเส้นกึ่งกลาง สามารถเกิดสิวได้มาจากหลายสาเหตุ ทั้งการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ ทั้งความมัน การอักเสบของผิวหนัง และเชื้อแบคทีเรีย


สิวอุดตันแบบไหน..ควรพบแพทย์

เมื่อเป็นสิวอักเสบ หากเป็นในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาเองได้จากการดูปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน แล้วหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา จะเสี่ยงกลายเป็นสิวอักเสบได้ หากเกิดเป็นสิวอักเสบแล้วควรพบแพทย์ในทันที เพื่อเริ่มการรักษาให้เร็วที่สุด อธิบายให้แพทย์ฟังได้ว่าสิวอุดตันมีกี่แบบ แล้วก่อนที่จะอักเสบเป็นสิวอุดตันแบบไหนมาก่อน เป็นต้น


การวินิจฉัยอาการสิวอุดตัน

การวินิจฉัยอาการสิวอุดตัน สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะทำการตรวจดูผิวหนังบริเวณที่เกิดสิวอุดตันในจุดต่าง ๆ และสอบถามเกี่ยวกับโรคประจำตัว รวมถึงประวัติการรักษาสิวของผู้ป่วย ช่วงเวลาในการมีประจำเดือนของเพศหญิง เพื่อหาสาเหตุของการเป็นสิวอุดตัน เพราะอาจเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายได้

นอกจากนี้ แพทย์จะทำการตรวจวัดระดับความรุนแรงของสิวอุดตัน เพื่อประกอบการวินิจฉัยและวางแผนรักษา โดยแบ่งเป็นระดับความรุนแรง ดังนี้

  • สิวอุดตันระดับรุนแรง มีสิวอุดตันมากกว่า 100 จุด
  • สิวอุดตันระดับปานกลาง มีสิวอุดตัน 20-100 จุด
  • สิวอุดตันระดับไม่รุนแรง มีสิวอุดตันน้อยกว่า 20 จุด

วิธีรักษาสิวอุดตัน

เลเซอร์สิวอุดตัน

วิธีรักษาสิวอุดตันมีหลายวิธี ทั้งสามารถทำด้วยตนเองและรักษาทางการแพทย์ได้ ถ้าสิวอุดตันอยู่ในระดับเบื้องต้นอาจสามารถรักษาสิวได้ด้วยตนเอง แต่หากรักษาไม่หายเป็นเวลานาน ควรเข้าพบแพทย์ทันที โดยวิธีรักษาสิวอุดตัน มีดังนี้

1. กินยารักษาสิวอุดตัน

การกินยารักษาสิวอุดตัน สิ่งที่สำคัญต้องใช้ยาที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำเท่านั้น และควรมีการปรึกษาก่อนซื้อเพื่อสอบถามหาตัวยาที่เข้ากับสภาพผิวของเราและชนิดของสิวอุดตันที่เกิดขึ้น โดยยาที่ใช้รักษาจะมีสารประกอบ เช่น

  • กรดอะซีลาอิค (Azelaic Acid)
  • เบนซิลเพอรอกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
  • กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid)
  • กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid)
  • เรตินอยด์ (Retinoids)

2. ทายารักษาสิวอุดตัน

การทายารักษาสิวอุดตัน เป็นวิธีที่ใช้กับสิวที่ยังไม่มีความรุนแรงเป็นสิวอักเสบ โดยยาทาแก้สิวอุดตันที่นิยมใช้กัน จะมีส่วนประกอบของเรตินอยด์ (Retinoids) หรืออนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งเป็นยาทารักษาเฉพาะจุดที่เกิดสิวเพื่อละลายสิวอุดตัน เช่น Isotretinoin, Adapalene ซึ่งมีฤทธิ์ที่ช่วยสลายการอุดตันในต่อมไขมัน และชะลอการหลั่งน้ำมันส่วนเกิน รวมถึงสามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก

3. กดสิวอุดตัน

การกดสิวอุดตันให้หัวสิวหรือหนองออกมาให้หมด เป็นการรักษาที่เร็วแต่รักษาที่ปลายเหตุ ซึ่งต้องทำความสะอาดรูขุมขนและป้องกันการเกิดสิวอุดตันซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่มักกดสิวผิววิธี ทำให้เกิดความระคายเคือง และอักเสบได้ ควรใช้ยารักษาสิวอุดตันควบคู่ไปกับการกดสิวด้วย และจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่แนะนำให้ทำด้วยตนเอง

4. เลเซอร์สิวอุดตัน

การเลเซอร์สิวอุดตัน เป็นการจัดการสิวที่ตรงจุด ให้ผลการรักษาที่ดีมาก สิวยุบเร็ว รอยแดงจางลงเร็ว และ ลดโอกาสการเกิดรอยดำ และแผลเป็นสิว แต่จะทำให้ผิวบาง แพ้แสง เกิดความระคายเคืองได้ง่ายกว่าเดิม จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันการใช้เลเซอร์ที่อาจทำร้ายผิวได้

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นสิวอุดตัน

ล้างหน้าให้สะอาด รักษาสิวอุดตัน

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิวอุดตันเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อทำให้ใบหน้าเรามีความสะอาดและป้องกันการอักเสบจากสิวอุดตัน ทำได้ดังนี

  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่มีน้ำมัน ป้องกันการอุดตันเพิ่มเติม
  • ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิวกับน้ำสะอาด และห้ามขัดถูแรง ๆ
  • ทำจิตใจให้แจ่มใส ลดความเครียด
  • ห้ามบีบสิวเองหากไม่จำเป็น
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้า

แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตัน

พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันสิวอุดตัน

การป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตันก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพื่อลดปัญหาก่อนที่จะเกิดสิว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาให้การรักษา สามารถทำได้ด้วยตนเองได้ ได้แก่

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ล้างหน้าด้วยขั้นตอนล้างหน้าที่ถูกวิธีวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ
  • ก่อนนอนต้องล้างเครื่องสำอางให้หมด
  • ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ

รักษาสิวอุดตันที่ไหนดี 

โดยหลังจากเกิดสิวอุดตันนั้น การเลือกว่าจะรักษาสิวอุดตันที่ไหนดีเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการให้คำปรึกษาที่ดี ระยะในการเดินทางที่สะดวก มีการดูแลทำความสะอาดสถานที่รักษาอยู่เสมอ อ่านรีวิวของทางสถานพยาบาลนั้น ๆ เป็นต้น


คำถามที่พบบ่อย

โดยคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวอุดตัน เช่น

สิวอุดตันหายเองได้ไหม

สิวอุดตันนั้นสามารถหายได้เองมีการดูแลตัวเองให้ดี ลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน แต่หากสิวอุดตันมีการเกิดซ้ำในระยะเวลานาน และเกิดอาการอักเสบ โดยหากอักเสบรุนแรงก็ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

สิวอุดตันบีบได้ไหม

โดยการบีบสิวอุดตันก็เป็นวิธีการรักษาอีกแบบหนึ่ง แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องใช้เครื่องมือที่สะอาด และวิธีการบีบที่ได้มาตรฐาน ไม่เช่นนั้นอาจจะได้ผลลัพธ์ที่แย่กว่าเดิม

รักษาสิวอุดตันด้วยตัวเองได้ไหม

สิวอุดตันสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง โดยการล้างหน้า และใช้ยาทาที่ได้มาตรฐาน ลดการทำปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน เช่น งดการสูบบุหรี่ ลดการทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง และควรปรึกษาแพทย์หากสิวอุดตันมีการอักเสบและรุนแรงขึ้น


ข้อสรุป

การเกิดสิวอุดตันนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ที่สำคัญคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำการรักษาให้ถูกวิธี ประเมินประดับความรุนแรง และบอกได้ว่าเป็นสิวอุดตันประเภทไหน หากมีการอักเสบรุนแรงควรพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งหาวิธีป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นสิวอุดตันอีกในอนาคต

ขอขอบคุณบทความจาก https://www.mvitaclinic.com/ 

Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]