ปัจจุบันนี้การทำศัลยกรรมเป็นสิ่งที่แพร่หลายทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ เนื่องด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้คนไว้วางใจว่าการศัลยกรรมนั้นปลอดภัย, มีมาตรฐาน และพักฟื้นได้ไว
การศัลยกรรมหน้าอกหรือการทำนมนั้น ก็นับเป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่คนสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะทำให้มีความมั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้น หรือบางคนอาจจะใช้รูปลักษณ์ในการทำอาชีพหลักของคนเอง เช่น นางแบบ หรือนักแสดง การศัลยกรรมหน้าอกน่าสนใจอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับการทำหน้าอกไปพร้อมๆ กันเลย
ปัญหาเรื่องหน้าอก
ผู้หญิงหลายคนอาจจะประสบปัญหาเกี่ยวกับหน้าอกของตนเอง บางคนอาจจะหน้าอกหย่อน ขนาดของหน้าอกไม่เท่ากัน หรือรวมไม่ถึงขนาดของเนินหน้าอกไม่เต็ม ทั้งนี้ อาจจะทำให้เราเกิดความกังวลใจเรื่องหน้าอก ซึ่งแต่ละคนก็จะมีปัจจัยส่วนตัวแตกต่างกันออกไป
หน้าอกห่าง
หน้าอกห่าง หมายถึง ฐานหน้าอกของทั้ง 2 ข้างอยู่ห่างกัน ทำให้บริเวณตรงกลางเกิดเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ซึ่งลักษณะหน้าอกห่างแบบนี้สามารถเกิดได้กับทั้งสุภาพสตรีที่มีหน้าอกใหญ่ และสุภาพสตรีที่มีหน้าอกเล็ก โดยมี 2 สาเหตุหลักๆ คือ สาเหตุจากโครงสร้างของหน้าอกเดิม และสาเหตุจากภาวะหน้าอกห่างที่เป็นผลหลังจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
- โครงสร้างหน้าอกเดิม เกิดจากการที่คุณสุภาพสตรีมีกระดูกบริเวณตรงกลางหน้าอกนูนขนาดใหญ่ ทำให้หน้าอกทั้ง 2 ข้างออกห่างจากกัน หรือคุณสุภาพสตรีที่มีหน้าอกขนาดใหญ่เกินไป ทำให้หน้าอกนั้นรับน้ำหนักมากเกิน หน้าอกจึงหย่อนคล้อยจนออกห่างกันได้ หรือคุณสุภาพสตรีอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับฐานหน้าอกอยู่แล้ว
- ภาวะหน้าอกห่างที่เป็นผลหลังจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน อาจเกิดจากสุภาพสตรีเป็นคนฐานหน้าอกน้อยแล้วเลือกใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ไม่พอดีตัว ทำให้ไม่สามารถเสริมให้หน้าอกชิดกันได้ เป็นสิ่งที่พบบ่อยมากสำหรับสุภาพสตรีที่เลือกซิลิโคนไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกายตนเอง
หน้าอกไม่เท่ากัน
ภาวะหน้าอกไม่เท่ากัน หรือ Breast Asymmetry เป็นภาวะที่เจอได้ทั้งในสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี เป็นภาวะปกติของร่างกายที่หน้าอกไม่ได้เท่ากัน หน้าอกใหญ่ข้างนึง อีกข้างนึงอาจจะเล็ก เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และวัยเจริญพันธุ์ เราจะสังเกตุเห็นภาวะนี้ได้อย่างชัดเจน และหน้าอกของสุภาพสตรีจะโตเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 20 ปี
หน้าอกไม่เท่ากันสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เพราะสภาพร่างกายของแต่ละคน, พันธุกรรม, การกินอาหาร หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเติบโตช้าหรือเร็วก็แตกต่างกันไปตามพัฒนาการของร่างกายด้วย
และอาจจะมีบางสาเหตุที่ทำให้หน้าอกไม่เท่ากัน เช่น คุณแม่ที่ให้นมบุตรด้วยตนเอง ช่วงระยะเวลาตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น แต่หลังจากที่ให้นมบุตรแล้ว การที่บุตรดูดนมจากเต้าใดเต้าหนึ่งมากๆ ก็มีสิทธิ์ทำให้หน้าอกไม่เท่ากันได้เช่นกัน
หน้าอกไม่เท่ากัน ไม่ได้ส่งผลเสีย หรือเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิต เป็นแค่ความไม่สมมาตรของร่างกายเท่านั้น แต่ถ้าใครมีอาการผิดปกติบริเวณหน้าอก หรือรู้สึกเจ็บ ให้ลองคลำบริเวณรอบรักแร้ หากพบก้อนเนื้อให้รีบปรึกษาแพทย์ให้ไวที่สุด เพราะอาจจะเป็นมะเร็งเต้านมได้
ประเภทของการทำนม
รูปแบบของการเสริมหน้าอกมีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
1. การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน การเสริมหน้าอกประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มขนาดหน้าอกให้ไซซ์ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนหลังทำ หน้าอกจะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามที่เราต้องการ สามารถเลือกทรงของซิลิโคนได้ว่าต้องการทรงแบบไหน ทรงกลม หรือทรงหยดน้ำ โดยถุงซิลิโคนจะมีให้เลือกหลายหลายตามที่เราต้องการ แต่มีข้อเสียคือจะมีรอยแผลเป็น และอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ
2. การเติมไขมันหน้าอก การเสริมหน้าอกประเภทนี้จะเป็นการดูดไขมันส่วนเกินของร่างกายเรามาเติมเต็มบริเวรหน้าอกให้อิ่มขึ้น ทำให้หน้าอกดูมีความเป็นธรรมชาติ และมีแผลเล็กกว่าการทำหน้าอกแบบเสริมซิลิโคน ข้อเสียของการเติมไขมันหน้าอกคือไม่สามารถกำหนดปริมาณขนาดหน้าอกของตัวเองตามความต้องการได้ เพราะขึ้นอยู่กับฐานหน้าอก
3. เสริมหน้าอกไฮบริด เป็นการนำเทคนิคการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และเทคนิคการเติมไขมันหน้าอกมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น, มีความเป็นธรรมชาติ และมีสัมผัสที่เนียนนุ่ม แต่วิธีการนี้จะมีราคาสูงกว่าวิธีอื่นๆ
พื้นผิวของซิลิโคนทำนม
ก่อนหน้านี้เราได้เข้าใจประเภทของการทำหน้าอกแล้ว ต่อมาเราจะมาทำความรู้จักเรื่องพื้นผิวของซิลิโคนว่ามีกี่ชนิด มาดูกัน
ซิลิโคนเสริมหน้าอกผิวเรียบ
เป็นซิลิโคนที่ต้องอาศัยการนวดหน้าอกบ่อยๆ เพื่อทำให้หน้าอกมีความเป็นธรรมชาติ ถ้าไม่นวดหน้าอกจะมีโอกาสเกิดพังผืดได้มากกว่าซิลิโคนผิวอื่นๆ
ซิลิโคนเสริมหน้าอกผิวทราย
ซิลิโคนชนิดนี้ผิวนิ่มมากกว่าผิวเรียบ ไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอกบ่อย เคลื่อนที่ได้น้อยกว่าซิลิโคนผิวเรียบ และสามารถลดการเกิดอาการพังผืดได้ด้วย
ซิลิโคนเสริมหน้าอดกผิวกำมะหยี่
สำหรับซิลิโคนตัวนี้จะเป็นซิลิโคนกึ่งผิวเรียบ และกึ่งผิวทราย มีโอกาสเกิดพังผิดได้น้อย ไม่จำเป็นต้องนวดหน้าอกบ่อยๆ และยังมีความนิ่มเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ทรงซิลิโคนเสริมหน้าอก
ทรงหยดน้ำ
ซิลิโคนทรงหยดน้ำ หรือ Teardrop Breast Implant จะมีลักษณะทรงเหมือนกับหยดน้ำ บริเวณด้านบนจะแบน ส่วนด้านล่างจะพองออก ซิลิโคนทรงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการมีทรงหน้าอกดูเป็นธรรมชาติ ไซส์ไม่ใหญ่จนเกินไป หลังทำหน้าอกด้วยซิลิโคนทรงนี้ หน้าอกจะมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อย และมีความเป็นธรรมชาติเหมือนรูปทรงหยดน้ำ
ทรงกลม
ซิลิโคนทรงกลม หรือ Round Breast Implant เป็นซิลิโคนที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ หรือคุณแม่หลังคลอดที่ให้นมบุตรจนเนินหน้าอกหาย ตัวซิลิโคนชนิดนี้จะมีลักษณะกลม สามารถอัพไซส์ใหญ่ได้หลายไซส์ แต่มีข้อเสีย คือถ้าเลือกซิลิโคนไซส์ใหญ่เกินไป อาจจะทำให้เห็นขอบ และดูไม่เป็นธรรมชาติได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเลือกทำหน้าอกโดยใช้ซิลิโคนทรงกลม ก็ควรเลือกขนาดที่พอดีกับตัวเอง
เสริมหน้าออกมีเทคนิคแบบไหนบ้าง
จะทำนม ทำหน้าอก ก็ต้องใส่ซิลิโคนเข้าไป เพื่อให้หน้าอกเข้ารูป และการเสริมหน้าอกก็มี 3 วิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะส่งผลแตกต่างกัน
- ทำนมเหนือกล้ามเนื้อ
เรียกว่า Sub Grandular เป็นการวางซิลิโคนระหว่างชั้นเนื้อนมและกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่มีหน้าอกพอสมควร หากหน้าอกเล็กอาจมีปัญหาซิลิโคนลอยได้
ข้อดีของการทำนมเหนือกล้ามเนื้อคือไม่ซับซ้อนและใช้เวลาการผ่าตัดรวดเร็วกว่า แผลไม่ใหญ่และฟื้นตัวไว และทำให้หน้าอกได้รูป เพราะทรงซิลิโคนจะเห็นได้ชัด
ส่วนข้อเสียของการทำนมเหนือกล้ามเนื้อก็คือจะดูไม่เป็นธรรมชาติเพราะเห็นซิลิโคนชัด และสัมผัสโดนซิลิโคนได้ง่าย และในระยะยาวอาจะทำให้ซิลิโคนเคลื่อนและผิดรูปได้ง่าย
- ทำนมใต้กล้ามเนื้อ
เรียกว่า Sub Muscular หมายถึงการวางซิลิโคนใต้บริเวณกล้ามเนื้อหน้าอก เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อหน้าอกน้อยหรือหน้าอกเล็ก ทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นซิลิโคน และคลำไม่ถูกซิลิโคนด้วย ลดปัญหาซิลิโคนพลิกไปมาซึ่งทำให้ซิลิโคนผิดรูป
อย่างไรก็ตามการทำนมใต้กล้ามเนื้อดูจะมีปัญหาหลังการทำน้อย แต่ก็มีวิธีการผ่าตัดค่อนข้างยากและซับซ้อน จึงต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลรักษา และใช้เวลารักษานาน
- เสริมนม Dual Plane
คือการเสริมอกระหว่างกล้ามเนื้อหรืออยู่กึ่งเหนือกึ่งใต้กล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคที่รวมข้อดีของการทำนมเหนือกล้ามเนื้อและการทำนมใต้กล้ามเนื้อ ทำให้มองไม่เห็นขอบซิลิโคน และด้านล่างดูมน คล้อย เป้นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ทำนมเจ็บไหม
การทำหน้าอกต้องมีการผ่าตัดซึ่งแน่นอนว่าเจ็บ และอาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น บวม ช้ำ แน่นหน้าอก ซึ่งอาการเหล่านี้อยู่ในการดูแลของแพทย์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลใดๆ เพื่อเพิ่มความสวย ความมั่นใจ รับรองว่าเจ็บนิดเดียวแต่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอน
ก่อนเสริมหน้าอกเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนจะเริ่มทำหน้าอกก็ต้องเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมก่อน โดยเริ่มจากปรึกษาแพทย์ เพื่อดูสภาพร่างกายว่าเหมาะที่จะทำหน้าอกแบบใด และกลับไปเตรียมตัวก่อนเริ่มผ่าตัด ได้แก่
- เตรียมค่าใช้จ่าย
- เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม
- งดยา วิตามินบางชนิด และแอลกอฮอล์ก่อนทำนม 1 สัปดาห์
- ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
- สวมเสื้อผ้าสบายๆเพื่อไม่ให้รัดหน้าอก
- ไม่แต่งหน้า ทาครีม รวมไปถึงใส่ฟันปลอม
- ตัดเล็บและล้างเล็บ 1 นิ้วเพื่อให้วิสัญญีแพทย์สังเกตอาการระหว่างเสริมหน้าอก
เสริมหน้าอกมีแผลไหม
แผลที่เกิดขึ้นหลังทำนมจะมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน คือ ใต้ราวนม รักแร้ และรอบปานนม ตำแหน่งที่นิยมทำหน้าอกกันมากที่สุดคือใต้ราวนมเพราะเจ็บน้อยและพักฟื้นไม่นาน แผลมีขนาดเล็กจนแทบมองไม่เห็น และส่วนที่นิยมน้อยสุดคือใต้ปานนม เพราะมีข้อจำกัดเรื่องขนาดของซิลิโคน วิธีใต้ปานนมจึงเหมาะกับคนที่มีหน้าอกเล็ก
การดูแลตัวเองหลังทำนม
หลังจากทำนมแล้ว ควรปฏิบัติดังนี้
- ไม่ควรขยับตัวเยอะ เพราะหลังทำนมจะเจ็บมาก และอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อหน้าอก
- ควรนอนหงายเพื่อไม่ให้หน้าอกถูกกดทับระหว่างนอนหลับ
- ทำความสะอาดแผล งดอาบน้ำจนกว่าแผลจะแห้ง ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
- พันผ้าพันแผลที่หน้าอกเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- สวมใส่ซัพพอร์ตบราเพื่อคงรูปของหน้าอกไว้ ไม่ควรใส่บราที่มีโครงหรือสปอร์ตบรา
- นวดหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์
เสริมหน้าอก สรุป
การทำนม เสริมนมสามารถทำได้ 3 วิธีคือ การฉีดไขมันเข้าใต้ราวนมและการใส่ซิลิโคนและการทำนมแบบไฮบริด(ซิลิโคน+ไขมัน) ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล และอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
การเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดกล้ามเนื้อซึ่งมีความเสี่ยง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทำนม เพราะแพทย์จะคอยดูและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำนม เพื่อให้หน้าอกของเราดูสวย เพิ่มความมั่นใจ และที่สำคัญคือปลอดภัยต่อร่างกายของเราด้วย