ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
อันตราย! ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญ ทำให้หลายคนที่กำลังคิดฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือฉีดฟิลเลอร์บริเวณที่ใกล้ดวงตารู้สึกกลัว หรือเป็นกังวลว่าจะปลอดภัยหรือไม่
ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจกันในบทความนี้ครับว่า ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดเกิดจากอะไร มีจุดไหนที่ต้องระวัง แล้วเราจะสามารถป้องกันความเสี่ยงหรืออันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้อย่างไรบ้าง
ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เกิดจากอะไร
การฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด หลัก ๆ เกิดจากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป อุดตัน บีบ หรือกดหลอดเลือดแดง (supratrochlear and supraorbital artery) ซึ่งมีแขนงต่อไปที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา (ophthalmic artery) มีผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ครับ
- เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วผิดพลาด โดยฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดแดง หรือหลอดเลือดดำเส้นใหญ่ ทำให้เกิดการอุดต้น
- เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน หมอกระเป๋าที่ไม่รู้เทคนิคการฉีด
- เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังฉีดฟิลเลอร์เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ผิวหนังแพ้เป็นผื่นแดง คัน อุดตันในเส้นเลือด
- เกิดจาการเติมไขมัน (Transplanted fat) มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์
ดูสถิติฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด
ด้านบนเป็นตารางเปรียบเทียบเคสที่เกิดเนื้อตายและตาบอดจากการฉีดสารเติมเต็มชนิดต่าง ๆ จะเห็นว่าเคสส่วนใหญ่ สาเหตุเกิดจากการเติมไขมันมากที่สุด
ในบทความของต่างประเทศจะมีการพูดถึงอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ต่าง ๆ มากมาย คำว่าฟิลเลอร์ของต่างประเทศจะรวมสารเติมเต็มอื่น ๆ ไว้ด้วยทั้งหมด โดยแยกเป็น 5 ประเภทคือ
- การเติมไขมัน ถูกจัดรวมไว้กับฟิลเลอร์ด้วย
- Collagen เป็นฟิลเลอร์รุ่นโบราณ บวมแดงง่าย ไม่เป็นที่นิยมในปัจุบัน
- ฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ เช่น ซิลิโคนเหลว Paraffin PMMA CaHA PAH
- ฟิลเลอร์ Hyarulonic Acid ที่สามารถย่อยสลายได้ ปลอดภัย
- ฟิลเลอร์ Hyarulonic Acid ปลอมที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่มาตรฐาน อาจจะสลายไม่หมดหรือสลายหมดไวมาก
ข้อมูลจากงานวิจัยต่างประเทศจึงพบว่าฟิลเลอร์มีผลข้างเคียงเยอะ เพราะรวมการเติมไขมัน การฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ รวมถึงฟิลเลอร์ปลอมไว้ในคำว่าฟิลเลอร์ด้วยครับ แต่ในไทยคำว่าฟิลเลอร์ที่หมอพูดถึงว่าไม่อันตราย จะหมายถึงฟิลเลอร์ Hyarulonic Acid (HA) ของแท้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด แก้ไขอย่างไร
ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม และการเติมไขมัน หากฉีดเข้าหลอดเลือด จะไม่มีเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายได้ในทันที
แต่ถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ด้วย ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) จะมีเอนไซม์ที่ชื่อ Hyaluronidase ที่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ทั้งหมดได้ 100% เพราะฉะนั้นหากเกิดความผิดพลาด แพทย์ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันทีครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด จุดไหนที่ต้องระวัง
จุดที่ต้องระวังฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด คือบริเวณที่อยู่ใกล้ดวงตาครับ เช่น ใต้ตา หน้าผาก ขมับ และจมูก ซึ่งหมอจะอธิบายแยกแต่ละจุดเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
1.ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นจุดที่ใกล้ดวงตาที่สุด บริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ หากฉีดเข้าไปอุดตันเส้นเลือดแดงที่เลี้ยงจอประสาทตา อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้
2.ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน เสริมโหงวเฮ้ง โดยบริเวณหน้าผากมีเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงต้องทำด้วยเทคนิคพิเศษ คือการเลือกใช้เข็มปลายทู่ (Blunt cannula) ซึ่งจะไม่แทงทะลุเส้นเลือดใต้ผิว ป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือด
ทั้งนี้ในบางรายก็ใช้เข็มแหลมได้ครับ ขึ้นอยู่ความถนัดของแพทย์ ผลที่ได้จึงจะออกมาสวยงามและปลอดภัย
3.ฟิลเลอร์ขมับ แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ เสริมโหงวเฮ้ง เป็นอีกจุดที่อันตราย ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญหรือหมอกระเป๋า เนื่องจากขมับมีเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญ เช่น Middle Temporal Artery, Superficial Temporal Artery, Deep Temporal Artery, Sentinel Vein
นอกจากนี้ยังมีเส้นประสาทบริเวณใบหน้าที่มีการเชื่อมโยงกันไปมา และการฉีดต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ที่ชำนาญ และฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย 100% ครับ
4.ฟิลเลอร์จมูก สำหรับคนที่อยากมีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความคมของสันจมูกหรือปลายจมูกครับ โดยที่ด้านข้างของสันจมูกมีเส้นเลือด Dorsal nasal artery ที่เชื่อมต่อเข้ากับลูกตา แพทย์ที่ขาดความรู้ความชำนาญมักจะ ฉีดฟิลเลอร์จมูก โดนเส้นเลือดเส้นนี้และทำให้ตาบอดได้ครับ
หากกังวลกลัวว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด สามารถเลือกใช้การร้อยไหมจมูกทดแทนการฉีดฟิลเลอร์จมูกได้ครับ ด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุดของการร้อยไหมดีดปลายจมูกก็จะได้ผลสวยงามกว่าและปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์จมูกมากครับ
ป้องกันความเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ได้อย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นจุดไหนบนใบหน้า การป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด คือการหาข้อมูล เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์และปรับรูปหน้า 5-10 ปี ซึ่งผ่านเคสมาหลากหลาย และรู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องครับ ดังนั้นความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้น หรือหากเกิดเหตุสุดวิสัยก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
หากจะเกิดการอุดตันเส้นเลือด ด้วยเทคนิคการแก้ไขที่มีในปัจจุบัน สามารถจะฉีดสลายฟิลเลอร์และแก้ไขให้กลับคืนมาได้ภายใน 7-14 วัน โดยที่ไม่ทำให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอด จึงถือได้ว่าฟิลเลอร์มีความปลอดภัย 100% ครับ
การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย ต้องเลือกก่อนครับว่าฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี แล้วศึกษาข้อมูลของคลินิกเสริมความงามนั้น ๆ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ แพทย์มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน และใช้ฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid หรือ HA ที่ผ่านการรับรองโดยอย. สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ เพื่อความสบายใจ ปลอดภัยและผลลัพธ์หลังฉีดออกมาดีที่สุดครับ