หากใครที่มีปัญหากวนใจหลังจากที่สิวหายอย่างรอยดำ รอยแดงจากสิว หรือหลุมสิว ทำให้ไม่กล้าเผยผิวและหมดความมั่นใจ อีกหนึ่งตัวช่วยรักษาปัญหาครบจบและทำให้ผิวกลับมากระจ่างใสอีกครั้งก็คือ “เลเซอร์รอยสิว” นั่นเอง
ในปัจจุบัน วิธีการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์นั้นเป็นที่นิยมเพราะสามารถช่วยรักษารอยต่างๆ ได้ในระยะเวลาไม่นาน ทั้งยังมีเลเซอร์หลากหลายชนิดในการทำเลเซอร์รอยสิวทำให้สามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ซึ่งในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิวที่ควรรู้เอาไว้แล้ว
เลเซอร์รอยสิว (Acne Mask Laser)
เลเซอร์รอยสิว (Acne Mask Laser) คือเลเซอร์ที่ช่วยในการลดรอยดำ รอยแดงจากสิว รวมถึงฝ้าหรือกระอีกด้วย โดยเป็นการใช้พลังงานเลเซอร์ในการจับกับเม็ดสีใต้ผิวหนังเพื่อกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดรอย ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างใสยิ่งขึ้น
เลเซอร์ลดรอยสิวบางชนิดยังสามารถช่วยรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ร่วมด้วย วิธีการคือช่วยกระตุ้นผิวหนังให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
เลเซอร์รอยสิวรักษาอะไรได้บ้าง
การใช้เลเซอร์ในการรักษาปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอหรือเลเซอร์รอยสิวนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย โดยมีตัวอย่างดังนี้
1. รอยดำจากสิว
เลเซอร์รอยดำ สามารถช่วยขจัดรอยดำที่เกิดขึ้นหลังสิวหาย ซึ่งรอยดำเกิดจากการที่แกะสิวอักเสบ เนื่องจากพอแกะสิวแล้วผิวจะเป็นแผลถลอกและกลายเป็นรอยสีเข้มขึ้น หรืออาจเกิดจากการที่เป็นรอยแดงจากการอักเสบของสิวแต่ปล่อยไว้จนกลายเป็นรอยสีน้ำตาล
2. รอยแดงจากสิว
เลเซอร์รอยแดง สามารถช่วยรักษารอยแดงบนผิว หรืออาการผิดปกติที่เกิดจากเส้นเลือด เช่น รอยเส้นเลือดฝอย เป็นต้น โดยรอยแดงบนผิวอาจมีสีชมพูจางๆ ไปจนถึงแดงเข้ม
3. หลุมสิว
ในเลเซอร์รอยสิวบางชนิดจะสามารถช่วยรักษาหลุมสิวได้ร่วมด้วย ซึ่งหลุมสิวเกิดหลังจากเป็นสิวอักเสบ เนื่องจากผิวบริเวณนั้นไม่สามารถสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อได้เพียงพอ เกิดเป็นแผลลึกและผิวไม่เรียบเนียน
ประเภทของเลเซอร์รอยสิว
เลเซอร์รอยสิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามหลักการทำงานคือเลเซอร์ชนิดลอกผิวและเลเซอร์ชนิดไม่มีแผล ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันดังนี้
เลเซอร์ชนิดลอกผิว (Ablative Laser)
เลเซอร์ลบรอยสิวชนิดลอกผิวนี้จะใช้พลังงานประเภท CO2 โดยมีคุณสมบัติในการลอกผิวชั้นบนออก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผิวทำการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อมาแทนที่ผิวที่ลอกออก หลังจากสะเก็ดหลุด ผิวส่วนนั้นก็จะเรียบเนียนและรอยสิวดูตื้นยิ่งขึ้น
เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดไม่มีแผล (Non-Ablative Laser)
เลเซอร์รอยสิวชนิดไม่ทำให้เกิดแผลจะสามารถช่วยรักษาทั้งรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิวได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวกระจ่างใสและกระชับมากขึ้น เลเซอร์ประเภทนี้ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้
ชนิดของเครื่องเลเซอร์รอยสิว
จากหลักการทำงานข้างต้นจะทำให้เห็นได้ว่าเลเซอร์รอยสิวแบ่งตามประเภทของปัญหาสิว ซึ่งเลเซอร์ลดรอยสิวนั้นมีหลายแบบด้วยกัน โดยตัวอย่างชนิดของเลเซอร์สิวมีดังนี้
1. V-Beam Laser
จุดเด่นคือช่วยรักษารอยแดงและปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด ซึ่งเลเซอร์รอยแดงชนิดนี้ช่วยแก้ปัญหารอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอย หรือปานแดงได้ผลลัพธ์ดีจนถึงดีมาก รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอีกด้วย แต่ค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูงและไม่ค่อยเห็นผลกับรอยดำเท่าที่ควร
2. Dual Yellow Laser
สามารถช่วยรักษาได้ทั้งรอยดำและรอยแดงจากสิว เลเซอร์รอยสิวชนิดนี้อ่อนโยนต่อผิวกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นๆ ซึ่งมีหลักการทำงานโดยการผสานระหว่างเลเซอร์แสงสีเขียวที่ช่วยในการรักษารอยดำและเลเซอร์แสงสีเหลืองที่ช่วยในการรักษารอยแดง แต่เนื่องจากไม่สามารถใช้พลังงานที่สูงมากในการรักษาแต่ละครั้งจึงต้องใช้เวลานานกว่าเลเซอร์รอยสิวชนิดอื่น
3. Fraxel dual laser/ Fraxel restore laser
เป็นเลเซอร์รอยสิวชนิดไม่ทำให้เกิดแผล ได้รับการยอมรับว่าเป็น Gold Standard จากทั่วโลก ทำให้ผิวโดยรวมดีขึ้นและมีจุดเด่นคือการเลเซอร์รอยดำให้จางลง แต่ค่ารักษาค่อนข้างสูง รวมถึงต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ในการทำ
4. IPL (Intense Pulsed Light)
เครื่องนี้ไม่ใช่เลเซอร์รอยสิวแต่เป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มสูง ปล่อยออกมาในลักษณะเป็น shot ซึ่งในแต่ละ shot จะประกอบด้วยแสงที่มีความยาวหลายช่วงคลื่น ทำให้ IPL รักษารอยสิวและปัญหาผิวได้ค่อนข้างหลากหลายใน Shot เดียว แต่ต้องระวังเรื่องผิวไหม้จากการใช้ค่าพลังงานสูง
ผิวแบบนี้ เลเซอร์รอยสิวดีไหมนะ?
เลเซอร์รอยสิวมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทจะสามารถแก้ปัญหาผิวได้แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ที่เหมาะกับการทำหัตถการเลเซอร์รอยสิวคือผู้ที่มีปัญหาผิวดังนี้
- ปัญหารอยดำจากสิว
- ปัญหารอยแดงจากสิว
- ปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด เช่น รอยเส้นเลือดฝอย เป็นต้น
- ปัญหาจุดด่างดำ ฝ้า กระ
- ปัญหาหลุมสิว
โดยเลเซอร์ลดรอยสิวสามารถทำบริเวณต่างๆ เช่น เลเซอร์หน้า บริเวณลำคอ เลเซอร์รอยสิวที่หลัง เป็นต้น หากสนใจในการทำหัตถการเลเซอร์รอยสิวสามารถปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจทำเพื่อประเมินว่าเหมาะกับการใช้เลเซอร์ชนิดใดมากที่สุด
เลเซอร์รอยสิวมีข้อดีและข้อจำกัดหรือไม่?
ข้อดีของเลเซอร์รอยสิวคือสามารถช่วยในการรักษาปัญหาผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน สามารถรักษาปัญหารอยดำ รอยแดง หรือจุดด่างดำอื่นๆ พร้อมช่วยให้ผิวกระชับและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นอีกด้วย
ส่วนข้อจำกัดของเลเซอร์รอยสิวคือเลเซอร์บางประเภททำให้ผิวเกิดสะเก็ด ต้องพักผิวหลังจากการทำ รวมถึงมีเลเซอร์หลายเครื่องที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับผู้ที่ปัญหาผิวกระจายเป็นวงกว้าง
เลเซอร์รอยสิวกี่ครั้งหาย?
จำนวนครั้งในการรักษาให้เห็นผลด้วยเลเซอร์รอยสิวนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา, สภาพผิวของแต่ละบุคคล และความชำนาญของแพทย์ แต่โดยปกติแล้วจะเริ่มเห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ในแง่ของผลลัพธ์ที่ได้จะจางลงในแต่ละครั้งประมาณ 10-40%
เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่ ที่ไหนดี?
เลเซอร์รอยดําราคาเท่าไหร่? เลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี? หากกำลังสงสัยกับคำถามเหล่านี้สามารถพิจารณาจากข้อมูลดังต่อไปนี้
เลเซอร์จุดด่างดำราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนครั้งและประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ซึ่งอาจมีราคาตั้งแต่ 1,700 บาทจนถึง 17,000 บาท โดยอาจเป็นการเลเซอร์รอยสิวอย่างเดียว หรือมีการรักษาสิวร่วมด้วย
โดยวิธีการเลือกสถานที่เข้ารับบริการอาจเลือกจากราคาเลเซอร์รอยสิวอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรพิจารณาจากข้อต่างๆ เหล่านี้ด้วย
- เป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสะอาดปลอดเชื้อ
- ใช้เครื่องเลเซอร์รอยสิวของแท้ มีคุณภาพ ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญในการทำหัตถการ
- สามารถเดินทางได้ง่ายและสะดวก
- มีช่องทางติดต่อชัดเจน
- มีรีวิวผู้เข้ารับบริการที่น่าเชื่อถือ
ข้อสรุป
เลเซอร์รอยสิวคือการใช้พลังงานเลเซอร์ยิงลงใต้ชั้นผิวเพื่อรักษาปัญหารอยดำ รอยแดง และหลุมสิวอย่างตรงจุด โดยในปัจจุบันมีการใช้พลังงานเลเซอร์หลากหลายชนิด สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและหาวิธีรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด และนอกจากการพิจารณาจากราคาเลเซอร์รอยสิวก็ควรเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำหัตถการเพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายจากอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน