สิวเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลใจให้ใครหลายคน จนทำให้สูญเสียความมั่นใจไปเลย โดยผิวหน้าที่มีริ้วรอยและรูขุมขนกว้างส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่เนียนใส แม้ว่าจะใช้วิธีการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างการใช้ยาทาสิว รับประทานยาแก้สิว หรือการกดสิวอาจช่วยให้สิวหายได้
แต่วิธีเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เวลาในรักษานานกว่าจะหายสนิทได้ และอาจทำให้ผิวหน้ายังคงมีรอยสิวที่มองเห็นได้ แต่ในปัจจุบันได้มีสิ่งที่เรียกว่า “เลเซอร์สิว” ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่เป็นสิวได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้เรื่องเลเซอร์สิวกัน ถ้าอยากรู้ว่าเลเซอร์สิวอุดตันกี่วันหาย ก็ไปดูกันเลย!
เลเซอร์สิว คืออะไร?
เทคนิคการรักษาสิวด้วยเลเซอร์สิว คือการใช้พลังงานจากแสงเพื่อส่งไปยังเซลล์เป้าหมายในผิวหนัง เพื่อทำลายเซลล์เหล่านั้นโดยไม่กระทบกับเซลล์ข้างเคียงในที่สุด เราใช้เลเซอร์รักษาสิวเพื่อกำจัดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์บนผิวหนังหรือปรับสภาพผิวให้เนียนขึ้น เช่น การลบริ้วรอย จุดด่างดำ ลบรอยสัก กำจัดขน และอื่น ๆ นอกจากนี้เรายังใช้เลเซอร์ในการรักษาสิวอีกด้วย
รู้หรือไม่ เลเซอร์สิว มีกี่แบบ?
การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์สิวสามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนและช่วยในการรักษาหลุมสิวอีกด้วย ดังนั้นการใช้เลเซอร์รักษาสิวจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีเลเซอร์สิวที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ดังนี้
CO2 Laser คืออะไร?
เลเซอร์ชนิด CO2 Laser หรือเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์เป็นเลเซอร์สิวอุดตันที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางเพื่อสร้างแสงเลเซอร์ มีคลื่นยาวที่ 10,600 นาโนเมตร และสร้างพลังงานแสงอินฟราเรดที่สามารถทำลายเนื้อเยื่อส่วนเกินได้โดยไม่เกิดเลือดออกหรือทำลายผิวบริเวณรอบข้าง
การใช้เลเซอร์ชนิด CO2 Laser ในการรักษาสิวสามารถช่วยลดการอุดตันในสิวที่ไม่หายได้ด้วยการทายาหรือรับประทานยา โดยเลเซอร์ชนิดนี้สามารถทำลายเนื้อเยื่อและต่อมไขมันได้บางส่วน จึงทำให้สิวลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังป้องกันการเกิดสิวใหม่ อีกทั้งเลเซอร์ชนิด CO2 Laser ยังสามารถใช้รักษาโรคหรือปัญหาอื่น ๆ ได้อย่างตรงจุด เช่น
- ช่วยในการรักษาสิวอุดตันและหลุมสิว
- ช่วยลดเนื้องอกของท่อเหงื่อ (Syringoma) หรือสิวหิน (Milia)
- ใช้ในการรักษาหูด ติ่งเนื้อ ไฝ กระเนื้อ และขี้แมลงวัน
- ใช้ในการรักษารอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัด
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับรูขุมขน
การใช้ CO2 Laser หรือ เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ช่วยเปิดช่องของต่อมไขมัน เพื่อรักษาสิวอุดตันและป้องกันรอยดำ รอยแดงจากสิว รวมถึงแก้ปัญหาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Omnilux คืออะไร?
Omnilux เป็นเทคโนโลยีแสงบำบัด (Light Therapy) ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว โดยสามารถฆ่าเชื้อสิวชนิด P.Acnes ลดการอักเสบแดง และลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้
ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ หรือสิวผดผื่น โดยเลเซอร์ Omnilux จะส่งพลังงานแสงที่เจาะจงไปยังผิวหนังในชั้นลึก โดยจะใช้แสงสีน้ำเงิน (Omnilux blue) และแสงสีแดง (Omnilux revive2) ในแต่ละสีจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
แสงสีน้ำเงิน (Omnilux blue) มีคลื่นยาว 415 นาโนเมตร ซึ่งสามารถรักษาสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว รักษาสิวผด และผิวที่เสียหายจากแสงแดดได้
แสงสีแดง (Omnilux revive 2) มีคลื่นยาว 633 นาโนเมตร โดยสามารถสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมผิวหนัง (Skin Rejuvenation) ช่วยในการรักษาสิว ลดการอักเสบของสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เลเซอร์สิวสีแดงยังสามารถใช้ในการเลเซอร์เพื่อผิวหน้าให้เนียนใสได้อีกด้วย
pico laser คืออะไร?
เลเซอร์ชนิด Picosecond Laser หรือ Pico Laser เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการรักษารอยสิว หลุมสิว จุดด่างดำให้เนียนขึ้นหรือจางลง ลดรอยสิว รวมถึงช่วยลดฝ้า กระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และกระชับรูขุมขน เพื่อให้ผิวเรียบเนียน โดยที่ไม่ทำให้ผิวเกิดรอยไหม้
โดยเครื่อง Pico Laser ที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อและหลายหัวยิงให้เลือกตามการใช้งานและการรักษาปัญหาต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ PicoSure, PicoPlus, PicoWay เป็นต้น ซึ่งเครื่องเหล่านี้ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจาก USFDA
เลเซอร์วีบีม คืออะไร?
V-Beam (เลเซอร์วีบีม) เป็นเลเซอร์สิวสีเหลืองที่อยู่ในกลุ่ม Vascular Laser ซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นเพียง 595 นาโนเมตร และมีระยะเวลาการปล่อยแสงเลเซอร์ที่แม่นยำ ปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวรอบข้าง และไม่เกิดรอยดำหลังการรักษา
โดยเลเซอร์ V-Beam มีข้อดีในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเส้นเลือดหรือรอยแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการรักษาปานแดง เส้นเลือดฝอยเส้นเล็ก ๆ และสิวอักเสบ อีกทั้งเลเซอร์วีบีมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังชั้นตื้นได้อีกด้วย
ข้อดีของเลเซอร์ สิว มีอะไรบ้าง?
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการทำเลเซอร์สิวอุดตันมีข้อดีอะไรบ้าง ซึ่งเราจะพาคุณมาดูข้อดีของการเลเซอร์สิวกัน
- เลเซอร์สิวสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเกิดสิวลดลงอย่างมีประสิทธิผล
- การใช้เลเซอร์สิวช่วยให้สิวหายไปได้เร็วกว่าวิธีอื่น ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและสวยงามอย่างรวดเร็ว
- เลเซอร์รักษาสิวช่วยกระชับรูขุมขนบนผิวหนัง ทำให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- เลเซอร์สิวช่วยลดรอยแดงที่เกิดจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลเซอร์สิวช่วยเพิ่มการซึมซับของครีมบำรุงผิวได้ดีขึ้น
- เลเซอร์สิวช่วยลดความมันบนใบหน้าให้ลดลง
- เลเซอร์สิวเป็นการรักษาที่มีความแม่นยำมาก สามารถเลือกจุดที่ต้องการรักษาได้อย่างเจาะจง และมีความแม่นยำในการดูแลและตรวจสอบผลลัพธ์
- เลเซอร์สิวมีระดับความปลอดภัยสูงและได้รับการยอมรับจากองค์กรต่างๆ
- การใช้เลเซอร์สิวไม่มีความเจ็บปวดหรือเจ็บน้อยกว่าการกดสิว
- การใช้เลเซอร์สิวไม่จำเป็นต้องมีระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังจากการรักษา
- เลเซอร์สิวสามารถใช้รักษาได้บนทุกสภาพผิว
ผลข้างเคียงจากเลเซอร์ สิว มีอะไรบ้าง?
- ผลลัพธ์หลังการทําเลเซอร์สิวนั้นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวและระดับการอักเสบของสิวในแต่ละรายบุคคล โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวและความจำเป็นในการรักษา
- อย่างไรก็ตามการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ สิวจะไม่หายไปได้ทันทีหลังการทำครั้งเดียว ต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลเซอร์สิวอาจมีราคาที่สูง เพราะต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ
สรุป
เมื่อเรามีปัญหาสิว จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษา หากมีความกังวล ไม่สบายใจ หรือมีคำถามเกี่ยวกับการเลเซอร์สิว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่เป็นที่เชื่อถือ (ทั้งในคลินิกหรือโรงพยาบาล) เพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษาในเรื่องที่เรากังวล
อย่าให้คำถามเป็นเพียงคำถามที่ค้างคาในใจ เพราะนอกจากจะทำให้เรากังวลโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจทำให้เราไม่ได้รับการรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้องหรือทันท่วงที ซึ่งอาจทำให้การรักษาต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีกด้วย