อาการปวดท้องประจำเดือนเกิดจากอะไร ปวดแบบไหนถึงควรพบแพทย์?

ปวดท้องประจำเดือน

อาการปวดท้องประจำเดือนอาการปวดที่สาว ๆ ต้องเจอในช่วงวันนั้นของเดือน อาการปวดที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันจนอาจทำให้หลาย ๆ คนต้องหยุดเรียน หยุดงาน หรือหยุดทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่แพลนไว้ในช่วงวันนั้นของเดือนเลยทีเดียว สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรง ที่ไม่ว่าจะทานยาหรือบรรเทาอาการอย่างไรก็ไม่หายสักทีอย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้าย 

บทความนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักอาการปวดท้องเมนส์กับสาเหตุ ระยะของอาการปวด พร้อมวิธีบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ด้วยตนเอง ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าอาการปวดท้องประจำเดือนเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ปวดท้องเมนส์เร่งด่วนได้อย่างไร สามารถติดตามต่อได้ในเนื้อหาด้านล่าง



สาเหตุหลักที่ทำให้ปวดท้องประจำเดือนเกิดจากอะไร?

สำหรับสาว ๆ ที่สงสัยว่าอาการปวดท้องประจําเดือนเกิดจากอะไร เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันในหัวข้อนี้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าประจำเดือนคือเลือดและเนื้อเยื่อที่ถูกขับออกจากโพรงมดลูก ซึ่งการจะขับเลือดและเนื้อเยื่อได้นั้นร่างกายจำเป็นต้องกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณมดลูกมีการบีบตัว ผ่านการผลิตสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ที่เป็นสารกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อขึ้นมา และด้วยความหดเกร็งและบีบตัวอย่างรุนแรงนี้เอง กล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ๆ จึงมีโอกาสที่จะไปกดทับหลอดเลือดในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สาว ๆ เกิดอาการปวดท้องประจำเดือน


ประเภทของการปวดท้องประจำเดือน

ปวดท้องเมนส์

ถึงแม้อาการปวดท้องประจำเดือนจะเป็นอาการปวดปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามอาการปวดประจำเดือนก็ไม่จำเป็นต้องเกิดจากสาเหตุที่เรากล่าวมาเสมอไป เพราะยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์อีกมากมายอย่าง ถุงน้ำในรังไข่ เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และอื่น ๆ ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในหัวข้อนี้

ปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea)

อาการปวดท้องประจำเดือนแบบปฐมภูมิเป็นอาการปวดท้องประจำเดือนแบบทั่วไปจากการบีบตัวของมดลูก โดยอาการปวดท้องแบบนี้จะเป็นอาการปวดบริเวณท้องน้อยแบบไม่รุนแรง โดยที่อาจจะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการปวดหลัง ปวดต้นขา ท้องผูก ท้องเสีย คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และอื่น ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในช่วง 2 วันแรกของการมีประจำเดือน 

ปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea)

อาการปวดท้องประจำเดือนแบบปฐมภูมิเป็นอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดจากโรคแทรกซ้อนอย่างเนื้องอกในมดลูก ถุงน้ำรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และอื่น ๆ ในบางท่านที่มีอาการปวดอาจปวดท้องเมนส์จนนอนไม่ได้ ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ และกินยาแก้ปวดประจำเดือนแล้วไม่หาย ซึ่งอาการปวดแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาในทันที


ลักษณะของอาการปวดท้องประจำเดือนเป็นอย่างไร?

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สงสัยว่าโดยปกติแล้วปวดท้องประจําเดือนอาการเป็นอย่างไร เราจะมาพูดถึงลักษณะอาการในหัวข้อนี้ อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นอาการปวดที่เกิดจากการบีบตัวของมดลูก มักเกิดขึ้นในช่วง 2 วันแรกของการมีประจำเดือน เป็นอาการปวดหน่วงในบริเวณท้องน้อยเป็นพัก ๆ ที่สามารถดีขึ้นได้จากการบรรเทาอาการและการทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ ซึ่งในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ อย่างปวดขา ปวดหลัง ท้องผูก ท้องเสีย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ร่วมด้วยได้


ปวดท้องประจำเดือนอันตรายหรือไม่ แล้วอาการแบบไหนควรรีบไปพบแพทย์?

ปวดท้องเมนส์รุนแรงทําไง

อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วงวันนั้นของเดือน แต่สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงแล้วกำลังสงสัยว่าหากมีอาการปวดท้องเมนส์รุนแรงทําไง เราบอกเลยว่าหากท่านมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเรื้อรัง ปวดร้าวไปถึงขา ที่ไม่ว่าจะทานยาหรือทำตามวิธีแก้ปวดท้องเมนส์ทุกวิธีแล้วไม่ดีขึ้น เราบอกเลยว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เพราะอาการเหล่านี้เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของโรคทางระบบสืบพันธุ์


แนวทางการบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

ไม่ต้องทนอีกต่อไปเพราะอาการปวดท้องประจําเดือนแก้ได้ โดยแนวทางการบรรเทาอาการจะมีดังนี้

  • ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณท้องน้อยเมื่อมีอาการปวดท้องประจำเดือน
  • ออกกำลังกายเบา ๆ สม่ำเสมอ
  • ทานอาการที่มีประโยชน์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดรับประทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ หรืออาหารที่มีรสจัด
  • หากอาการปวกยังไม่ดีขึ้น ท่านสามารถใช้วิธีทำให้หายปวดท้องประจำเดือนด้วยยา โดยยาบรรเทาอาการปวดจะมีดังนี้
  1. Ibuprofen
  2. Naproxen Sodium
  3. Celecoxib

สรุปแล้วอาการปวดท้องประจำเดือนอันตรายหรือไม่?

สำหรับสาว ๆ ที่สงสัยว่าปวดท้องเมนส์ทําไงแล้วแบบไหนถึงเรียกว่าอันตราย เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สาว ๆ เข้าใจอาการ และแนวทางการแก้อาการปวดท้องประจำเดือนได้ดีขึ้น แต่สำหรับท่านที่มีอาการปวดอย่างรุนแรงเรื้อรัง ทานยาแล้วไม่หาย หรือมีอาการปวดยาวนานมากกว่าปกติ เราขอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและหาแนวทางการรักษาอย่างถูกวิธี


Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]