การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยปรับแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม อยากเติมร่องหน้าผากให้กลับมาเรียบเนียนเต่งตึง ปรับรูปทรงหน้าผากให้โหนกนูน เพิ่มมิติให้กับใบหน้าได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่อยากหรือกลัวการผ่าตัดทำศัลยกรรม ไม่ต้องเสียเวลาลางาน ทำเสร็จแล้วสามารถใช้หน้าได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจกับการฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากกันมากขึ้น นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจหัตถการนี้ แต่คุณผู้ชายก็สนใจกันเยอะขึ้นเช่นกัน
ในบทความนี้จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกันการฉีดเติมหน้าผากด้วยสารเติมเต็มกันให้มากขึ้นว่าเหมาะกับใคร ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง ใครบ้างที่เหมาะกับการทำหัตถการนี้ และถ้าหากเปรียบเทียบระหว่างฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากกับการผ่าตัดศัลยกรรม แบบไหนดีกว่ากัน รวมถึงข้อควรรู้ต่าง ๆ เพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับบริการ
ฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร
ฟิลเลอร์หน้าผาก คือ หัตถการฉีดสารเติมเต็มใบหน้าประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อปรับบริเวณหน้าผากให้มีความอิ่มเอิบ โหนกนูนโค้งสวย โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นความนูนสวยชัด เป็นการเพิ่มมิติและความโดดเด่นให้กับใบหน้า ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากยุบ นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่น จึงทำให้ผิวบริเวณหน้าผากเรียบเนียน ปรับสภาพผิวให้กลับมาชุ่มชื้น โดยส่วนมากแล้วแพทย์อาจพิจารณาฉีดหน้าผาก 1 cc ไปจนถึง 5 cc ซึ่งปริมาณของสารเติมเต็มที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละเคส
สำหรับสารเติมเต็มใบหน้าที่ใช้ในการฉีด Fiiler หน้าผาก ถูกผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 – 24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล) และเมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มจะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยหากต้องการคงผลลัพธ์ที่ยาวนานก็สามารถกลับมาฉีดเติมฟิลเลอร์หน้าผากได้อีก
ฟิลเลอร์หน้าผาก ฉีดตรงไหน
หน้าผากเป็นบริเวณที่สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม ปรับทรงหน้าผากให้มีมิติ และยังสามารถแก้ไขปัญหาร่องที่อยู่เหนือคิ้วได้อีกด้วย โดยแพทย์อาจจะพิจารณาตามลักษณะปัญหาหน้าผากของคนไข้แต่ละราย ซึ่งจะใช้การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
- หน้าผาก เน้นการฉีดเติมหน้าผากเพื่อเพิ่มความโหนกนูน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากยุบ ปัญหาหน้าผากไม่เรียบ ไม่เท่ากัน หรือหน้าผากเป็นคลื่น
- ร่องเหนือคิ้ว แก้ไขร่องหน้าผากที่อยู่เหนือคิ้วที่ยุบตัวลง ทำให้มีลักษณะเป็นแอ่ง หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วจะช่วยให้กลับมาเรียบเนียนอิ่มเต็มขึ้น เน้นความเป็นธรรมชาติ มีความโหนกนูนพอดี
ฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ปัญหาเรื่องใดบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากได้หลากหลาย และยังสามารถฉีดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยแพทย์จะพิจารณาฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากปรับรูปทรงตามความต้องการและลักษณะปัญหาของคนไข้ในแต่ละคน
- ฉีดเติมหน้าผากให้มีความโหนกนูน เพื่อแก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม
- แก้ปัญหาร่องหน้าผาก หน้าผากยุบ มีร่องยุบหรือแอ่งบริเวณเหนือคิ้ว
- ปรับแก้ไขหน้าผากที่ไม่เรียบ หน้าผากไม่เท่ากัน หรือในกรณีที่หน้าผากเป็นคลื่น
- แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือรอยพับย่นที่หน้าผาก หลัง
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและเต่งตึง
- ช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาชุ่มชื่น เรียบเนียน และยังช่วยแก้ไขรอยแผลเป็น
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากเหมาะกับใคร
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการความงามที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่มีปัญหารูปทรงหน้าผากที่ยังแลดูไม่สวยงาม ไม่สมดุล ยังดูไม่มีมิติ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาและมีความต้องการ ดังนี้
- คนที่ต้องการให้หน้าผากนูนโค้งสวย อยากปรับรูปหน้าให้มีมิติขึ้น
- คนที่มีปัญหารูปทรงหรือลักษณะหน้าผาก เช่น หน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากบุบ ผิวเป็นคลื่นไม่เรียบ มีรอยแผลเป็น มีริ้วรอยและร่องลึก
- คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากมีแผลเป็นจากการผ่าตัด ไม่ต้องการการดูแลตัวเองที่ยุ่งยาก
- คนที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากด้วยวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้เลย ไม่ต้องรอนาน รีบใช้หน้าออกงานสำคัญ
ฟิลเลอร์หน้าผาก VS การผ่าตัดเสริมหน้าผาก เลือกแบบไหนดี
ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและการผ่าตัดทำศัลยกรรมหน้าผาก แบบไหนดีกว่ากัน? นับว่าเป็นคำถามยอดฮิตของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ โดยถึงแม้ว่าทั้ง 2 เทคนิคนี้จะช่วยเสริมและปรับรูปทรงหน้าผากให้โหนกนูนดูมีมิติยิ่งขึ้น แต่เป็นหัตถการที่มีมีข้อแตกต่างกันอยู่พอสมควรทั้งในแง่ของวิธีการและผลลัพธ์ โดยแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ
- ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มใบหน้าหรือ ฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อปรับรูปทรงให้โค้งนูนสวย ซึ่งหลังทำแล้วไม่ต้องพักฟื้นเพราะไม่ใช่การผ่าตัด และผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12 – 24 เดือน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร แต่ทั้งนี้สามารถกลับมาฉีดเติมหน้าผากได้เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นเทคนิคที่มีความยืดหยุ่นในการรักษา เช่น หากฉีดมาแล้วยังไม่สวยก็สามารถใช้วิธีการฉีดสลายฟิลเลอร์และทำการฉีดแก้ไขใหม่ได้
- ผ่าตัดเสริมหน้าผาก เป็นการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหน้าผากซึ่งมีทั้งแบบแผ่นสำเร็จรูปที่ขึ้นรูปมาแล้ว และซิลิโคนที่ออกแบบใหม่เฉพาะรายบุคคล โดยเป็นเทคนิคที่ใช้เวลาผ่าตัด มีการเปิดแผล และต้องอาศัยเวลาในการพักฟื้น ทำแล้วให้ผลลัพธ์ถาวร แต่ทั้งนี้อาจมีข้อเสียตรงที่หากทำมาแล้วไม่สวยถูกใจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนออกเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ใครที่กำลังมีแพลนที่จะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สิ่งที่สำคัญที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจก่อนทำนั่นก็คือ การเตรียมตัวที่มีรายละเอียด ดังนี้
- หาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับหัตถการนี้อย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาเลือกทำกับแพทย์ที่มีทักษะและมีประสบการณ์ด้านการฉีดสารเติมเต็ม ทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน และเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่สามารถเช็กตรวจสอบได้ รวมถึงเลือกดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อประกอบการตัดสินใจ
- เข้ารับคำปรึกษา พูดคุย รับการตรวจประเมิน และการวางแผนการรักษากับแพทย์ด้วยตัวเอง
- หากมีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยา หรือกำลังรับประทานยารักษาโรคชนิดใดอยู่ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
- งดรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด รวมถึงที่อาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ง่ายหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เช่น แอสไพริน, ยาละลายลิ่มเลือด, ยาต้านการอักเสบในกลุ่ม NSAIDs (เช่น Ibuprofen, Diclofenac เป็นต้น), วิตามินอี, น้ำมันตับปลา, พริมโรสออยล์, โสม, แปะก๊วย เป็นต้น
- งดการทำเลเซอร์หรือทำหัตถการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริเวณหน้าผาก (หากต้องการทำเลเซอร์ แนะนำให้ทำก่อนการฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากประมาณ 3 วัน หรือปรึกษาแพทย์ก่อน)
- งดการทาสกินแคร์หรือการใช้ยาทาชนิดที่มีส่วนประกอบของสารผลัดเซลล์ผิวบริเวณหน้าผาก
- ในวันนัดเข้ารับบริการ แนะนำให้งดการแต่งหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- ก่อนเข้ารับบริการ 24 ชั่วโมง ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
การปฏิบัติตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากตามคำแนะนำจะช่วยให้อาการข้างเคียงต่าง ๆ หายได้ไว ฟิลเลอร์เข้าที่สวยเร็ว และยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
- ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้สารเติมเต็มสามารถอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งส่งผลดีต่อผลลัพธ์
- ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า การนอนตะแคง รวมถึงการใส่หมวก และไม่เอามือก่ายหน้าผาก เพราะอาจทำให้หน้าผากผิดรูปหรือเสียรูปทรงได้
- งดการจับ การนวด หรือการปั้นทรงเอง เนื่องจากสารเติมเต็มยังไม่เข้าที่และจะทำให้หน้าผากเสียรูป
- งดอยู่ใกล้ความร้อน การอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และงดทำกิจกรรมทุกชนิดที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การเข้าซาวน่า, การโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน, การนั่งหน้าเตาปิ้งย่าง หรือการออกกำลังกายหนัก
- งดการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการหลอดเลือดขยายตัว ซึ่งจะส่งผลให้อาการบวมหายช้า
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
อาการผิวแดง มีรอยเข็ม มีอาการบวม เป็นอาการที่มักจะพบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก ซึ่งไม่มีอันตรายแต่อย่างใด และจะค่อย ๆ บรรเทาลงรวมถึงหายได้เองใน 1 – 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ แนะนำให้ปฏิบัติดูแลตัวเองตามคำแนะนำด้านบนก็จะช่วยให้อาการหายได้เร็ว ฟิลเลอร์หน้าผากเข้าที่สวยไว นอกจากนี้ แนะนำให้รับประทานยาประเภทแก้ปวดและลดบวมตามที่แพทย์สั่ง
สรุป ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีมั้ย
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนับว่าเป็นเทคนิคการปรับรูปทรงหน้าผากให้นูนสวยด้วยวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยข้อดีหลายอย่างทั้งในเรื่องของขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เจ็บน้อยเพราะมีการแปะยาชาก่อนฉีด หลังทำแล้วไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ยิ่งคนที่ไม่มีเวลา ไม่อยากลางานหรือหยุดเรียน หรือแม้กระทั่งคนที่กลัวการผ่าตัดและอยากเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การฉีด ฟิลเลอร์หน้าผากถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับใครที่สนใจหรือวางแผนที่จะฉีดเติมหน้าผากอยู่ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อรับทราบข้อมูลและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเราอย่างละเอียด