ฟิลเลอร์ปากเลือกทรงฉีดปากสวยได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว 

ฟิลเลอร์ปาก

 

เคยคิดไหมว่ารูปปากตัวเองไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ อีกทั้งริมฝีปากยังแห้งกร้านไม่มีความชุ่มชื้น อยากจะแก้ไขแต่ก็ไม่กล้าทำศัลยกรรมเพราะกลัวเจ็บและไม่อยากพักฟื้นด้วย ทางเลือกที่ดีสำหรับการแก้รูปปากก็คงจะต้องเลือกการฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากเพิ่มความอวบอิ่มแล้ว ยังปรับรูปทรงฟิลเลอร์ปากให้สวยได้ตามต้องการหรืออยากได้ปากทรงเกาหลีก็ทำได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวเลย


ฟิลเลอร์ปากคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง

ฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติสามารถอุ้มน้ำได้ดีมีความนุ่มใกล้เคียงกับเนื้อของริมฝีปาก เป็นการฉีดฟิลเลอร์ปากหรือฉีดเข้าไปเพื่อปรับโครงสร้างของปากให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ เป็นการเพิ่มขนาดของริมฝีปากให้อวบอิ่มซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มคนทั่วไปที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากเกาหลี ฉีดปากสายฝอ หรือทรงปากแบบต่าง ๆ ที่ทำให้ได้รูปปากสวยขึ้น ทั้งยังเหมาะกับกลุ่มคนที่เริ่มมีอายุของผิวที่ขาดความชุ่มชื่นเป็นการช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง ปากลอกให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น มีน้ำมีนวลอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นรวมถึงคนที่กลัวการผ่าตัดไม่อยากทำศัลยกรรมนั่นเอง


ฉีดฟิลเลอร์ปาก vs. ผ่าตัดปาก แบบไหนดีกว่ากัน?

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

หากกำลังคิดจะปรับรูปปากและตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากดีไหม หรือจะผ่าตัดปากดี โดยทั้ง 2 วิธีนี้มีผลลัพธ์และขั้นตอนที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจ เนื่องด้วยวิธีการ filler ปาก หรือการผ่าตัดปากมีขั้นตอนที่ต่างกันมาก 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ไม่ถาวรอยู่ได้นานสูงสุดไม่เกิน 18 เดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
  • มีความปลอดภัยต่อร่างกาย สามารถสลายฟิลเลอร์ปากได้เองตามระยะเวลา
  • ปรับทรงของปากได้ เลือกทรงฉีดปาก ทั้งปากกระจับสายฝอ ฟิลเลอร์ยกมุมปาก และทรงอื่น ๆ
  • ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลผ่าตัด
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเห็นผลได้ทันที

ผ่าตัดทำศัลกรรมปาก

  • อยู่ได้อย่างถาวร ไม่เสื่อมสลายเหมือนฟิลเลอร์ปาก
  • มีความความเสี่ยงจากการผ่าตัด และมีรอยแผลบริเวณที่ผ่าตัด
  • กรณีไม่ได้รูปทรงปากตามต้องการ ทำการแก้ไขได้ยาก
  • ต้องใช้เวลาสำหรับการพักฟื้นค่อนข้างนาน
  • ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล หรือโดยประมาณประมาณ 3 เดือน

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

การตัดสินใจการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นมีข้อดีหลายอย่าง หากทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่เชี่ยวชาญอย่างครบถ้วนก็จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยได้รวบรวมข้อดีไว้ดังนี้ 

  • ข้อดีแรกที่ทุกคนเลือกวิธีฟิลเลอร์ปากก็คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเย็บและเห็นผลที่รวดเร็ว
  • ไม่ต้องอดอาหารหรือเตรียมร่างกายเหมือนเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ และไม่ต้องพักฟื้น
  • มีเพียงรอยเข็มจากการฉีด ซึ่งจะจางหายไปภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์
  • เปลี่ยนรูปทรงปากแบบต่าง ๆ ได้ตามต้องการ สามารถแก้ไขและทำซ้ำได้เพื่อปรับให้เข้ากับโครงหน้า
  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ทำให้ใบหน้ามีเสน่ห์สร้างความมั่นใจมากขึ้น 
  • ทาลิปสติกได้สวยขึ้น ไม่ตกร่อง ปากไม่แห้ง ฉ่ำวาว อวบอิ่มและมีสุขภาพดี
  • หากต้องการเปลี่ยนรูปทรงปากเพียงฉีดสาร ไฮยาโลรูนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์ปากเพื่อแก้ไขได้
  • ฟิลเลอร์ปากราคาค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเลือกผ่าตัดปาก

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

การเข้ารับบริการฟิลเลอร์ปากสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องรับบริการจากแพทย์ที่ชำนาญและคลินิกที่มีคุณภาพ ซึ่งจะได้ให้ได้รู้ถึงข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคน ที่ต้องแจ้งกับแพทย์ทั้งในเรื่องของปัญหาสุขภาพ ที่มีการทานยาประจำอยู่หรือไม่ และเป็นยาประเภทใด หากมีปัญหาผื่นคันติดเชื้ออักเสบก็ต้องรักษาให้หายก้อนจึงรับบริการได้ นอกจากนี้หากมีปัญหาเลือดออกไม่หยุดหรือมีอาการแพ้สารประเภทคอลลาเจนไหม ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินความเสี่ยงก่อน ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงมีข้อจำกัด และสำหรับบางคนอาจจะไม่สามารถรับบริการได้ 


วิธีการเตรียมตัวก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ปาก

 ฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

ก่อนเข้ารับบริการฟิลเลอร์ปากสิ่งที่ต้องทำอย่างแรกก็คือควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ปากก่อนทุกครั้ง เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ

  • หยุดทานวิตามินประเภท น้ำมันปลา โอเมก้า-3 วิตามินอี ใบแปะก๊วย หรือวิตามินที่ไม่จำเป็น เพื่อลดรอยช้ำหลังการ filler ปากประมาณ 3-5 วันก่อนฉีด 
  • หากมีการทานยาละลายลิ่มเลือด ควรจะต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำการนัดหมายเข้ารับบริการประมาณ 1 สัปดาห์
  • ก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากในช่วงระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ ควรงดการทำเลเซอร์ปากหรือการทำ treatment บริเวณริมฝีปาก 
  • เพื่อช่วยให้ลดอาการข้างเคียงการระคายเคือง ควรทาเจลบำรุงผิวบริเวณริมฝีปากก่อนที่จะเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากประมาณ 2-3 วัน
  • หากมีอาการผื่นแพ้ คันอย่างรุนแรง หรือเกิดการอักเสบบริเวณริมฝีปาก ควรงดหรือหลีกเลี่ยงการฟิลเลอร์ปาก และให้อาการเหล่านี้หายดีก่อน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้มีโอกาสเกิดการระคายเคืองก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1 สัปดาห์ เช่น ลิปสติก หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ริมฝีปากลอก

วิธีดูแลตนเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จแล้ว

หลังจากที่เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปาก ภายใน 2-3 วันแรกจะมีการบวมแดงและจะหายไปในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ โดยระหว่างนี้ควรจะต้องมีการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี โดยที่แพทย์ผู้ให้บริการฟิลเลอร์ปากมีการแนะนำให้สังเกตอาการและดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดให้อยู่ได้นานที่สุด

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปากต้องประคบน้ำแข็ง 15 นาทีเพื่อบรรเทาอาการบวมคัน และความเจ็บปวด
  • ไม่ควรกดหรือนวดบริเวณริมฝีปาก หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดได้
  • งดแต่งหน้าหรืองดทาลิปสติกหลังจากทำฟิลเลอร์ปากเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  • ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมงควรงดออกกำลังกายหนัก ๆ หลังเข้ารับบริการ 
  • ไม่ควรทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีความร้อน เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง 
  • เลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้อุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมแดง

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอกระเป๋า

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปากกับหมอกระเป๋า หรือไม่ใช่แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญไม่มีความรู้หรือชำนาญการฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำให้ได้รับสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน ปากไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการและสารเติมเต็มจะเข้าไปอุดตันเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนไม่เพียงพอและอาจจะทำให้ตาบอด นอกจากนี้ยังเป็นอัตรายมากขึ้นเมื่อเกิดอาการเนื้อตายจากผิวหนังขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้เป็นอัมพฤกษ์ ดังนั้นผู้ที่ต้องการรับบริการฟิลเลอร์ปากควรเข้ารับบริการจากกับคลินิกที่มีคุณภาพหรือเข้ารับคำแนะนำกับแพทย์เชี่ยวชาญการทำทรงฉีดปากจากสารเติมเต็มที่ได้การรับรองสามารถตรวจสอบได้ และยังได้ฟิลเลอร์ปากราคาที่เหมาะสมทั้งยังมีการติดตามผลลัพธ์และให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง


ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรจึงจะปลอดภัย?

เพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากควรเลือกรับบริการจากคลินิกที่มีคุณภาพและมีใบรับรองและการใช้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มที่ได้การรับรองจากอย. ซึ่งที่อินฟินิซ คลินิก เป็นคลินิกที่มีรางวัลการันตีคุณภาพ โดยคุณหมออู๋ณัฐพล ลาภเจริญกิจ อาจารย์สอนฉีดฟิลเลอร์ ระดับ Top ของประเทศ ได้เลือกใช้ฟิลเลอร์หลากหลายชนิดโดยตัวเจลที่เป็นที่นิยม คือ Restylane KYSSE, Juvederm Volift and Volbella และ OBT Filler ที่คัดสรรมาให้เหมาะสมกับรูปปากและเนื้อปากของผู้รับบริการแต่ละคน ซึ่งต้องมีการประเมินสภาพผิวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากทุกครั้ง


สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นการปรับรูปทรงปากให้เข้ารูปกับโครงหน้าเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้รูปหน้ามีเสน่ห์น่ามองและมีสุขภาพดีมากขึ้นซึ่งต้องใช้บริการกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญการทำ filler ปากและคลีนิกที่มีใบรับรองการให้บริการพร้อมทั้งมีการใช้สารเติมเต็มที่ผ่านการรับรองจากอย. เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่เป็นอันตราย


Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]