คนเราเมื่อมีอายุมากขึ้นย่อมหนีไม่พ้นปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย รวมถึงผิวพรรณหน้าตาก็เริ่มเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะใบหน้าซึ่งเป็นจุดแรกที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้าง แต่ด้วยใบหน้าที่ขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากความเสื่อมสภาพ ดังนั้นเราสามารถเลือกใช้หนึ่งในวิธีรักษาทางการแพทย์ที่ไม่ต้องผ่าตัดก็คือ “การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม”
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อเติมร่องแก้มนับเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ได้ผล 100% หลังฉีดฟิลเลอร์แก้ม ก็ไม่ต้องการการพักฟื้น ไม่มีรอยเขียวช้ำ ไม่มีอาการบวม และไม่ยุ่งยากในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มากนัก
เราจะศึกษาในรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของฟิลเลอร์ร่องแก้ม ดูว่าฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี มีข้อควรพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดี รวมถึงว่าก่อนและหลังฉีด filler ร่องแก้มควรปฏิบัติตนเช่นไรเพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มออกมาได้ดีที่สุด ตรงใจที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก็คือการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่เป็นสารเลียนแบบสารตามธรรมชาติที่มีอยู่ใต้ผิวหนัง ฟิลเลอร์ชนิดนี้สลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย สามารถเติมร่องแก้มลึกที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผิวหน้าอิ่มฟูแลดูชุ่มชื้นขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่เนื้อฟิลเลอร์ที่ยืดหยุ่น ไม่แข็งจนเกินไป ทำให้ขยับใบหน้าได้เป็นธรรมชาติ
การที่คนเราต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มก็เพราะต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า ส่วนสาเหตุร่องลึกที่ร่องแก้มบนใบหน้านั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีการแสดงอารมณ์ทางใบหน้าบ่อยเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงจนเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
- บำรุงรักษาไม่เพียงพอ ทำให้ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ มากระทบจนผิวเสื่อมสภาพ เกิดเป็นร่องแก้มลึกเร็วขึ้น
- น้ำหนักตัวที่ลดลง อาจมีผลให้แก้มหย่อนคล้อยจนร่องแก้มเห็นได้ชัดเจน
- การยุบตัวของกระดูกร่องแก้ม และ/หรือ กระดูกใต้ตาที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แก้มหย่อนคล้อยจนเห็นร่องแก้มได้ชัดเจน
- อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?
ปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่อันตรายเลย ถ้าได้ใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มของแท้ 100% ที่มีส่วนผสมของสาร HA ไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ปลอดภัยจะต้องผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ฟิลเลอร์ร่องแก้มแท้จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ?
คนที่น่าจะเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือคนที่มีปัญหา ดังนี้
- คนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น
- คนที่มีปัญหาแก้มตอบ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- คนที่มีรูปร่างผอม ทำให้เกิดริ้วรอยเด่นชัดที่ร่องแก้ม
- คนที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน จะมีริ้วรอยร่องแก้มมากกว่าคนผิวมันหรือผิวผสม
- คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และไม่มีเวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม มียี่ห้ออะไรบ้าง ?
เนื่องจากคนหันมาสนใจใช้วิธีการฉีดฟีลเลอร์แทนการทำศัลยกรรมเสริมความงามกันมากขึ้น เหตุผลว่าด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับเวลา ราคา ฉะนั้นเราจะมาหารายละเอียดเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องแก้มว่ามีอะไรบ้าง อย่างไรก็ดีฟิลเลอร์ร่องแก้มเหล่านี้ได้รับการรับรองจากอย. และ FDA แล้วว่ามีคุณภาพดี ปลอดภัยในการใช้
ฟิลเลอร์ร่องแก้มมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องคุณสมบัติทางกายภาพเพราะว่าได้ผ่านขั้นตอนและเทคโนโลยีในการผลิตที่ไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เหมาะกับตัวคนไข้มากที่สุด
ในเรื่องที่จะตัดสินใจว่าควรใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดีนั้น ก็ขึ้นกับสภาพผิวของคนไข้ที่ได้รับการวิเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น ยี่ห้อของฟิลเลอร์ร่องแก้มที่จะมาแนะนำมี
- ฟิลเลอร์ Juvederm จากอเมริกา คุณสมบัติเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง หลังฉีดผิวดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ผิวดูฉ่ำน้ำ
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- ฟิลเลอร์ Restylane จากสวีเดน เหมาะใช้ในการเติมเต็มร่องลึก และแก้ไขริ้วรอย ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิตและพัฒนา NASHA technology (เน้นผิวหน้าชุ่มชื้น) และ OBT technology (เน้นยืดหยุ่น บางเบา ไม่จับตัวเป็นก้อน และคงตัว)
- Restylane Lyft Lidocaine อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Lidocaine อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตภายใต้เทคโนโลยี CPM Technology มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและคงตัวสูง ให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติมาก ๆ
- Belotero Balance อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ Neuramis จากเกาหลี ที่ได้รับรองความปลอดภัยจาก KFDA, U.S.FDA และ อย.ไทย และมีราคาที่ไม่แพง
- Neuramis Deep อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- Neuramis Deep Lidocaine อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- Neuramis Volume Lidocaine อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์ Yvoire จากเกาหลี คุณภาพพรีเมียมเทียบเท่าแบรนด์ยุโรป พัฒนาโดย LG Chem ผลิตภายใต้ HICE Cross-link technology
- ฟิลเลอร์ Definisse จากอิตาลี ผลิตโดย XTR Technology คุณสมบัติ ยกพยุง กระชับปรับรูปหน้าได้เป็นธรรมชาติ
- Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้กี่ซีซี ?
หากมีปัญหาหย่อนคล้อยที่ร่องแก้มเพียงเล็กน้อย ก็ให้เติมฟิลเลอร์ร่องแก้มประมาณ 0.5 cc ก็พอ แต่โดยปกติแล้วปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเป็น 1-2 cc แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับปัญหาร่องแก้มของแต่ละคน โดยที่แพทย์จะเป็นคนที่ทำการวิเคราะห์และวางแผนการรักษาว่าควรฉีดร่องแก้มกี่ cc
ในกรณีที่คนไข้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปและต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปริมาณที่แพทย์จะพิจารณาใช้ฉีดฟิลเลอร์แก้มอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 4 cc เนื่องจากมีปัญหาร่องแก้มที่ลึกมากกว่าคนมีอายุน้อย ๆ
การปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การที่จะเข้ารับการรักษาปัญหาผิวที่ใบหน้าหย่อนคล้อยโดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม แพทย์ผู้ทำการรักษาจะให้ข้อแนะนำที่พึงปฏิบัติก่อนที่จะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มดังต่อไปนี้
- ควรหยุดกินอาหารเสริม เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา คอลลาเจน สารสกัดแปะก๊วย ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เลือดออกไม่หยุด
- ควรงดกินยาบางชนิดก่อนฉีด 1 สัปดาห์ เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด, ยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน และยาในกลุ่ม NSAIDs เพราะมีผลทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 1-3 วัน
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเลก่อนฉีดอย่างน้อย 1 วัน เพื่อป้องกันอาการอักเสบและระคายเคือง
- ควรล้างเครื่องสำอางก่อนพบแพทย์
- ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ถ้ามีโรคประจำตัว
- แพ้ยาบางชนิด หรืออาหารเสริม
- อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือ ช่วงให้นมบุตร
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังจากที่ได้ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้ว ต้องไม่ลืมปฏิบัติตามคำแนะนำที่แพทย์ได้แจ้งไว้ดังต่อไปนี้
- ควรดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มอิ่มฟูและอยู่ได้นานขึ้น
- ไม่ควรจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะมีผลต่อการกระจายตัวของฟิลเลอร์ได้
- ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการนอนตะแคง นอนคว่ำหน้า เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 2 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวและรอยเข็มหายช้า
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนตรง ๆ เช่น ซาวน่า, นวดหน้าด้วยความร้อน, แช่น้ำอุ่น
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ไหนดีนั้น ควรพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ในการเลือกคลินิกที่เหมาะสม
- เป็นคลินิกที่พร้อมให้คำแนะนำ คำปรึกษาแก่คนไข้ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ
- คลินิกที่ได้รับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มรีวิวที่ดีจากพวกคนไข้ที่เคยมาใช้บริการ
- เป็นคลินิกที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- มีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่มีความรู้ ประสบการณ์ เชี่ยวชาญการฉีดฟิลเลอร์
- เป็นคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย พร้อมมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
- เลือกใช้แต่ฟิลเลอร์แท้ 100% ที่สามารถตรวจสอบที่มาได้
- ตั้งอยู่บนสถานที่ที่มีการเดินทางสะดวก มีที่จอดรถพร้อม
- มีการนัดหมายเพื่อติดตามผลลัพธ์หลังเข้าใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มทุกครั้ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องแก้ม
1. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีโอกาสเป็นก้อนสูงไหม ?
การเลือกใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มแท้ 100% และทำการฉีดโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และเลือกใช้ filler ร่องแก้มที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ ก็จะไม่ประสบกับปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนอย่างแน่นอน
2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถเห็นผลภายในกี่วัน ?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น จะเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด เพียงแต่ว่าในบางคนอาจเจอผลข้างเคียง เช่น อาการบวมซึ่งจะค่อยๆ หายไปเอง แต่สำหรับผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเกิดหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์เพราะฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่แล้ว
3. หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถแต่งหน้าได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มภายใน 24 ชั่วโมง แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
สามารถกล่าวได้ว่า “ร่องแก้ม” เป็นตัวบ่งบอกอายุได้ชัดเจน และปกติคนทั่วไปเมื่อมีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวจะค่อยๆลดน้อยลง เห็นได้จากบริเวณร่องแก้มที่ลึก ทำให้ใบหน้าดูมีอายุเกินจริง ซึ่งเป็นตัวทำลายความมั่นใจในภาพลักษณ์ได้เลย
ดังนั้นการรักษาด้วยนวัตกรรมใหม่ของการเสริมความงามโดยไม่ต้องข้องเกี่ยวกับการศัลยกรรมผ่าตัด ก็จะมีการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเข้าไปเติมช่องว่างในเซลล์ผิวตรงร่องแก้มให้เต็ม ทำให้ตื้นขึ้น เรียบเนียนยิ่งขึ้น ช่วยปรับให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก : https://healtect.com/filler/