หากคุณกำลังตัดสินใจที่จะศัลยกรรมโดยเฉพาะในส่วนของจมูก แต่ก็ค้นเจอแต่คำว่า “เสริมจมูกโอเพ่น” “ทําจมูกแบบopen” แล้วสรุปว่า เสริมจมูกแบบโอเพ่น คืออะไร สามารถแก้ปัญหาจมูกแบบใดได้บ้าง เหมาะกับใคร จมูกแบบไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เราไปหาคำตอบกันเลย
เสริมจมูกแบบโอเพ่น
การเสริมจมูกแบบโอเพ่นหรือเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้ฐานจมูก และกรีดผ่าเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูกแยกผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก วิธีนี้จะทำให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน จึงสามารถปรับโครงสร้างภายในของจมูกได้ทั้งหมดเพื่อแก้ไขความผิดปกติต่าง ๆ ของโครงสร้างโดยตรง
สามารถแก้ไขได้ทุกปัญหา เช่น การตกแต่งกระดูกเดิมที่สันจมูกคดเบี้ยว, สันจมูกเป็น hump ขนาดใหญ่, จมูกงุ้ม, ปลายจมูกใหญ่, แก้ปลายจมูกบางจากการเสริมจมูกแบบปิด, ปลายจมูกสั้น และที่สำคัญ การเสริมจมูกวิธีนี้จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แต่จะมีความยากและซับซ้อน ดังนั้น คนไข้ควรเลือกศัลยแพทย์ที่ชำนาญ และมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยตรง ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เสริมจมูกแบบโอเพ่น
จมูกแบบไหน ที่ควรเสริมจมูกแบบโอเพ่น
ปัจจุบันการเสริมจมูกด้วยเทคนิคผ่าตัดเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้เป็นอย่างดี เช่น ผู้ที่ต้องการให้จมูกยาวขึ้น หรืออยากปรับให้แกนจมูกตรงสวยก็ทำได้ โดยใช้กระดูกอ่อนหรือ เนื้อเยื่อสังเคราะห์เป็นตัวช่วยหลัก ซึ่งศัลยแพทย์สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้โดยตรง มาดูกันเลยลักษณะของจมูกแบบไหนที่ควรเสริมจมูกแบบโอเพ่น ดังนี้
1. จมูกใหญ่ เนื้อเยอะ
ผู้ที่มีปัญหาปลายจมูกหนา ใหญ่ จมูกกว้าง จมูกชมพู่ ไม่ได้สัดส่วน ต้องทำการลดขนาดจมูก ตกแต่งปลายจมูกให้ดูเรียวขึ้น หรือการเย็บอินเตอร์โดม เป็นการเย็บกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกเข้าหากัน เพื่อให้ปลายดูเล็กลง จึงเหมาะกับการเสริมจมูกopen
ดังนั้น การผ่าตัดแบบเทคนิค Open เป็นการผ่าตัดที่ตอบโจทย์และช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากแพทย์จะปรับแก้ไขโครงสร้างจมูกข้างในโดยตรง เคลียร์ปัญหาให้จมูกเรียวเล็ก พุ่ง ยาว โด่งขึ้นได้เต็มที่จากการยืดผนังกั้นจมูกโดยการแก้จมูกแบบโอเพ่น นี้ จะใช้กระดูกอ่อน มาต่อส่วนจมูกจริงให้ยาวขึ้นโดยตรง ทำให้ได้ผลลัพธ์ คือ จมูกเรียวเล็กลง พุ่ง และยาวขึ้น
2. จมูกงุ้ม
ปลายจมูกดูงุ้ม หรือปลายจมูกดูแบน จะมีลักษณะปลายจมูกยาวและตก ซึ่งปัญหาจมูกลักษณะนี้ เกิดจากโครงสร้างกระดูก แนะนำว่าควรยกปลายให้ดูพุ่งเชิด เพื่อที่ว่าปลายจะได้ดูเรียวตั้งขึ้น โดยอาจใช้ซิลิโคนตัวที่ยกปลายให้ดูตั้งขึ้น หรือใช้กระดูกอ่อนหลังหู ต่อรองปลาย เพื่อให้ปลายดูพุ่งเชิด
ดังนั้น หากต้องการทำจมูก ต้องเสริมและแก้ไขด้วยเทคนิค Open “ ต่อ ยืด ยก ” หากทำการเสริมแบบเทคนิคปิด ไม่ได้แก้ไขที่โครงสร้างโดยตรง แล้วใส่ซิลิโคนไปบนฐานเดิมที่ไม่ถูกแก้ไข จะยิ่งทำให้จมูกตกและงุ้มลงกว่าเดิม ฉะนั้น การเสริมจมูกโอเพ่น จึงตอบโจทย์และแก้ไขได้ตรงจุดที่สุด
3. สันจมูกคด
จมูกคด คือ ภาวะที่สันจมูกหรือปลายจมูกไม่อยู่ตรงกลาง แต่คดไปข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้ดูไม่สวยงาม อาจเกิดจากโรคทางจมูก มีการอุดกั้นการหายใจเรื้อรัง และทำในกรณีที่ใบหน้าไม่สมดุลจากทรงจมูกคด หากต้องการเสริมจมูกแบบโอเพ่น จำเป็นต้องแก้จมูกคดก่อน มิฉะนั้นเสริมจมูกแล้วจะทำให้ดูคดยิ่งขึ้น
การแก้ไขจมูกคดจำเป็นในกรณี มีอาการปวดหัวจากอาการแน่นจมูกเรื้อรัง รูจมูกเบี้ยวไม่สวย กรณีที่ทำผ่าตัดเสริมจมูกมาแล้ว แต่ทรงจมูกยังคดไม่สวย จุดสำคัญของการผ่าตัดแก้ไขจมูกคด คือ
- วิธีแก้ไขจะแตกต่างกันตามระดับความคดมากน้อยของทรงจมูก
- กรณีจมูกคดไม่มาก การผ่าตัดจะเหลาซิลิโคนเสริม เพื่อชดเชยด้านที่คด และตัดส่วนกระดูกหรือกระดูกอ่อนที่โค้งนูนให้ตรงร่วมด้วย
- กรณีที่จมูกคดมาก จำเป็นต้องตัดกระดูกส่วนที่โค้งมากและเคลื่อนชิ้นกระดูก เพื่อปรับตำแหน่งใหม่ให้ตรง
- การแก้ไขผนังกั้นจมูกร่วมกัน
ผนังกั้นจมูกที่คด จะอุดกั้นทางเดินหายใจข้างหนึ่ง ทำให้เกิดอาการปวดหัวเรื้อรังได้ ถึงแม้กระดูกจมูกจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผนังกั้นจมูกด้านในยังคดอยู่ จะทำให้กลับมาเป็นจมูกคดซ้ำอีกได้ ที่ Grace ของเราจะแก้ทุกปัญหาที่เกี่ยวข้อง ด้วยการแก้ทั้งผนังกั้นด้านในไปพร้อมๆ กับการแก้ทรงกระดูกจมูก เพื่อไม่ให้กลับมาคดอีกและอาการจมูกตันจะดีขึ้นด้วย
- ส่วนกระดูกยื่นจากผนังจมูกจะได้รับการแก้ไขร่วมด้วย
ภายในจมูกของเราจะมีส่วนกระดูกที่ยื่นออกจากผนังส่วนบน ส่วนกลาง และส่วนล่าง โดยกระดูกยื่นจากผนังส่วนล่าง จะเป็นตัวต้านอากาศเมื่อหายใจเข้าออกในอัตราส่วนประมาณ 2/3 กรณีที่กระดูกยื่นส่วนนี้มีขนาดกว้างหรือใหญ่กว่าปกติ จะรบกวนการหายใจ ดังนั้น การผ่าตัดแก้ไขจมูกคด เราจะประเมินกระดูกยื่นเหล่านี้ และให้การแก้ไขร่วมกันเสมอ
ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดเสริมจมูกคดที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เลือดออก, แผลติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งอัตราการเกิดและความรุนแรงจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล โดยแต่ละคน จะได้รับคำแนะนำและข้อมูลถึงผลข้างเคียงเหล่านี้อย่างละเอียดก่อนเข้ารับการผ่าตัดเพื่อประกอบการตัดสินใจ
4. จมูกฮัมพ์สูง
จมูกฮัมพ์สูง มีลักษณะคือ กระดูกบริเวณสันจมูกนูนขึ้นคล้ายกับหลังอูฐสามารถพบเจอได้ทั่วไป ไม่ว่าจะคนอายุมากหรือคนอายุน้อยเกิดจากพันธุกรรม ฮัมพ์เป็นผลมาจากโครงสร้างบริเวณกระดูกแข็งยกตัวสูงขึ้น ส่วนใหญ่มักจะพบกับชาวต่างชาติ แต่คนไทยอาจจะมีให้เห็นบ้าง พอฮัมพ์สูง ยิ่งทำให้หน้าดูดุเกินไป ทำให้เหมือนผู้ชาย
ดังนั้น คนที่มีปัญหาฮัมพ์สูง ในลักษณะนี้จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น ซึ่งแพทย์จะตอกฐาน ปรับขนาดกระดูกให้เรียบลง หรือ ตะไบฮัมพ์ ทำให้สันจมูกเรียบสวยขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
5. ปลายจมูกสั้น
ปลายจมูกสั้น จมูกแหงน คือ บริเวณปลายจมูกนั้นสั้นกว่าตัวปีกจมูก เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น จมูกสั้นมาแต่กำเนิด หรือจมูกแก้บ่อย ๆ แล้วเกิดผังผิดหดรั้ง ทำให้จมูกสั้น แหงน การเสริมจมูกสำหรับคนที่จมูกสั้น เสริมแบบเทคนิคปิด ไม่พอ เพราะต้องทำให้จมูกยาวขึ้น และเป็นหยดน้ำขึ้น
ดังนั้น การแก้ไขจมูกสั้น แหงน เสริมจมูกแบบโอเพ่น เปิดเข้าไปแก้ไขโครงสร้างข้างในโดยตรง โดยมีการนำกระดูกอ่อนหลังใบหูหรือเนื้อเยื่อเทียม มายืดต่อส่วนจมูกจริงให้ปลายดูยาวเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ส่วนสำหรับคนที่แก้จากการหดรั้งของซิลิโคนเดิม ทำให้จมูกสั้น แหงน แพทย์จะต้องเลาะพังผืด ก่อนปรับโครงสร้าง
6. ปลายจมูกบาง
เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน มักเกิดจากการที่เสริมจมูกด้วยซิลิโคน (Silicone) ที่มีความตึงที่บริเวณปลายจมูกมากเกินไป อาจเสริมมาแล้วระยะเวลาเป็นหลักเดือนหรือหลักปี ความบางจะมากน้อยขึ้นอยู่กับความตึงและเนื้อจมูกเดิม ก็อาจจะแก้ด้วยการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
สำหรับการแก้ไขนั้น ต้องให้แพทย์ประเมินว่าปลายจมูกนั้น มีความบางมากน้อยเพียงใด ถ้าเนื้อจมูกบางไม่มาก สามารถแก้ไขโดยการลดขนาดหรือความยาวของซิลิโคนลง แต่ถ้าเนื้อจมูกมีความบางมาก ไม่ควรแก้ด้วยเทคนิคการเปลี่ยนซิลิโคนเพียงอย่างเดียว การแก้ไขที่ไม่ควรใช้ซิลิโคนเสริมที่จมูก ดังนั้นการแก้ไขจึงแบ่งได้ 2 วิธีหลัก ๆ คือ
- ถอดพักแล้วรองไขมันที่ปลายจมูก
- เสริมจมูกด้วยวิธีไม่ใช้ซิลิโคนปลายจมูกหรือเสริมจมูกด้วยเทคนิคโครงสร้าง (Nose Reconstruction)
เสริมจมูกแบบโอเพ่น กับ แบบปิด ต่างตรงไหน ?
จาก 2 เทคนิคที่ต่างกันอย่างชัดเจน คือ แบบเปิดและแบบปิด หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทั้ง 2 เทคนิคนี้ แบบใดดีกว่ากัน แล้วตนเองนั้น เหมาะกับเทคนิคแบบใด เราจะเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ดังนี้
เสริมจมูกแบบโอเพ่น VS เสริมจมูกแบบปิด
- เสริมจมูกแบบโอเพ่น จะผ่าตัดร่วมกับยานอนหลับ ใช้เวลาผ่าตัด ประมาณ 3 ชั่วโมง (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส) เทคนิคนี้แพทย์จะแก้ไขโครงสร้างก่อน ปรับฐาน ตอกฐาน ตั้งแกน ยืดผนังกั้น แก้ไขโครงสร้าง เปิดเข้าไปเคลียร์ปัญหาข้างในให้หมด แล้วค่อยคลุมด้วยซิลิโคนบนฐานโครงสร้างที่แข็งแรง
- เสริมจมูกแบบปิด ผ่าตัดร่วมกับยาชา เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัด 60-90 นาที แพทย์จะปรับเหลาที่ซิลิโคนร่วมกับตะไบฐาน แล้วคลุมไปบนฐานเดิม จะเหลาปรับทรง เคสบายเคส เพื่อให้ทรงสวยสโลปเน้นปลาย เพื่อให้ทรงเด่นขึ้น เพื่อให้จมูกเรียวสวย ได้รูปขึ้น หน้าตรงจะมีมิติขึ้น เป็นเทคนิคที่เสริม และแก้ไขไปตามกำลังผิว
วิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น
ก่อนทำการผ่าตัดเสริมจมูกopen คนไข้ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ว่า มีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือทานยาตัวใดอยู่บ้าง เพื่อให้ศัลยแพทย์ทราบประวัติและวางแผนการผ่าตัดอย่างปลอดภัย (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) นอกจากนี้ ควรดูแลสุขภาพของตนเองให้พร้อม ดังนี้
- งดใช้ยา ยาบำรุง สมุนไพรบางชนิดที่อาจมีผลกับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน และนำยาประจำตัวและยาสมุนไพรต่าง ๆ ที่รับประทานมาโรงพยาบาลเพื่อแจ้งแพทย์ในวันผ่าตัด เช่น ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน วิตามินดี วิตามินซี น้ำมันตับปลา และอื่น ๆ ที่มีผลต่อการไหลของเลือด (เลือดหยุดช้า) หลังผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดประมาณ 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยื่อตายได้ ถ้าสูบบุหรี่จัดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที และควรงดสูบบุหรี่หลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มแอลกอฮอล์หลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดรับประทานทานอาหารประเภทของหมักดอง และอาหารทะเลเพราะจะส่งผลต่อการอักเสบของแผล
- งดทานวิตามินทุกชนิดก่อนการผ่าตัดเสริมจมูก โดยเฉพาะวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันรำข้าว, โสม, เมล็ดองุ่น, ใบแปะก๊วย อย่างน้อย1 เดือนก่อนผ่าตัด
- ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และงดแต่งหน้า ในวันผ่าตัด
- งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
- ทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
- ควรงดอาหารและน้ำ 6-8 ชม.ก่อนการผ่าตัด แต่สำหรับการผ่าตัดแบบฉีดยาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป
- เนื่องจากการเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นการผ่าตัดร่วมกับยานอนหลับ คนไข้จะรู้สึกมึน ๆ หลังจากออกจากห้องผ่าตัด ดังนั้น ควรมีญาติหรือเพื่อนมาด้วย เพื่อพากลับบ้านอย่างปลอดภัย
นอกจากการเตรียมตัวทางด้านสุขภาพแล้ว ในเรื่องงบประมาณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยที่เราจะต้องศึกษาและสอบถามว่า การเสริมจมูกแบบโอเพ่นราคาเท่าใด เพื่อที่จะได้เตรียมงบประมาณให้เพียงพอ จะได้สวยใสไร้กังวล
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกแบบโอเพ่น
หลังจากที่คุณเสริมจมูกแบบโอเพ่นมาแล้ว เราก็ต้องดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกแบบโอเพ่นให้ดี โดยมีวิธีการ ดังต่อไปนี้
- หากเป็นการเสริมจมูกแบบโอเพ่น หลังผ่าตัดเสร็จ คนไข้มีนัดฉีดยาฆ่าเชื้อ อีก 2 วันหลังทำ
- ควรนอนหมอนสูงหรือใช้หมอนรองคอช่วยเวลานอน ให้นอนหงายศีรษะสูงประมาณ 30 องศา หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ และงดการนอนตะแคง 1 เดือน เพื่อลดอาการบวม เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ควรประคบผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการบวมช้ำ หลังจากวันที่ 7 เป็นต้นไปเมื่อแผลเริ่มสนิท เลือดหยุดไหล หากมีรอยช้ำสามารถใช้วิธีการประคบอุ่นต่อ จนกว่าอาการบวมช้ำจะดีขึ้น
- หลังการผ่าตัดคนไข้จะต้องสวมเฝือกอ่อนตลอดเวลา งดการจับ กด แกะบริเวณจมูก ลดการทำกิจกรรมที่เสี่ยงจมูกได้รับการกระทบกระเทือน เช่น การวิ่ง การกระโดด
- ช่วง 2 สัปดาห์แรก ห้ามแผลโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหมและแผลแห้งสนิท
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น ด้วยน้ำเกลือ หรือแอลกอฮอล์ เบตาดีน ใช้สำลีพันก้านที่ผ่านการฆ่าเชื้อจนกว่าจะตัดไหม
- ควรรับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็ง และเหนียว
- งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และงดออกกำลังกาย 1 เดือน
- ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก
- ไม่ควรสวมแว่นบนสันจมูก
- หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง เพื่อป้องกันการไอหรือจาม
- หากมีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวดได้
- ระมัดระวังเรื่องการทาน งดอาหารแสลง อาหารที่มีรสเผ็ดจัด เช่น ของหมักดอง ปลาร้า อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล อาหารกระป๋อง เป็นต้น ส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น สามารถแก้จมูกได้แทบทุกรูปแบบ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่โครงสร้างภายในจมูก โดยเฉพาะปัญหาที่ซับซ้อน ปัญหาพังผืด จมูกบิดเบี้ยว หรือรูปทรงไม่ได้ตามต้องการ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ เรามาดูข้อดีและข้อเสียกันเลยจ้า
การเสริมจมูกแบบโอเพ่นมีข้อดี
- สามารถแก้ไขปัญหารูปร่างจมูกได้ทุกรูปแบบ อย่างตรงจุด คนไข้แต่ละรายมักมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขแตกต่างกันไป แต่การผ่าตัดแบบเปิด แพทย์จะมองเข้าไปเห็นถึงโครงสร้างภายในจมูกได้อย่างชัดเจน สามารถตะไบหรือตอกฮัมพ์ (Humpectomy) ได้แม่นยำ ทำให้แก้ไขปัญหาได้ถูกจุดกว่า โดยเฉพาะปัญหาที่ซับซ้อน ปัญหาพังผืด จมูกบิดเบี้ยว รูปทรงไม่ได้ตามต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถทำได้หลายทรง โดยทำได้ทั้งทรงจมูกผู้ชายและทรงจมูกผู้หญิง เช่น ทรงหยดน้ำ, ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง, ทรงจมูกเกาหลี, ทรงบาร์บี้ไลน์ เป็นต้น
- สามารถปรับกระดูกคดและกระดูกโป่ง ที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือจากอุบัติเหตุ กระดูกจมูกหัก ( Twisted nose ,Crooked nose deformity, External deviated nose ) ได้เป็นอย่างดี โดยการตอกกระดูกช่วยป้องกันปัญหาจมูกทะลุในอนาคต รวมถึงลดโอกาสการเบี้ยวและเอียงได้
- สามารถตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนให้พุ่งขึ้น หรือยาวขึ้นได้มากกว่าเดิม โดยไม่เสี่ยงทะลุ
- ช่วยปรับทรงจมูกให้โด่งพุ่งได้ โดยเฉพาะในผู้ที่โครงสร้างจมูกไม่แข็งแรง สามารถปรับโครงสร้าง ด้วยการเสริมจมูกยืดผนังกั้นจมูก ซึ่งทำให้พื้นฐานจมูกแข็งแรงขึ้น และจมูกโด่งพุ่งสวยงามอย่างปลอดภัย ดูเป็นธรรมชาติ
- ช่วยแก้ปัญหาคนไข้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ มีอาการหายใจลำบาก คัดจมูก จากผนังกั้นจมูกคด และกระดูกคด หรือมีการตีบของวาล์วด้านในจมูก ( Internal Valve collapse-IVC ) ก็สามารถใช้การผ่าตัดแบบโอเพ่นปรับแต่งแก้ไขได้ มองไม่เห็นแผล
- ปลอดภัยในระยะยาว การปรับโครงสร้างจมูก ยืดผนังกั้นจมูก จะนำชิ้นส่วนกระดูกอ่อน (หรือวัสดุทดแทน) มาประกบที่กึ่งกลางระหว่างรูจมูก ทำให้โครงสร้างจมูกมีความแข็งแรงมากขึ้น แล้วจึงเสริมด้วยซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนเพิ่มเติม ทำให้การรองรับน้ำหนักดีขึ้น ส่งผลในเรื่องความปลอดภัยของจมูกระยะยาวดีขึ้น
- เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมระดับมาตรฐานสากล ทั้งในและต่างประเทศใช้การผ่าตัดแบบโอเพ่น หรือชื่อเรียกที่เราคุ้นเคยกันว่า การเสริมจมูกเทคนิคเกาหลี แท้จริงก็เป็นการผ่าตัดจมูกแบบเปิด ปรับโครงสร้างจมูกนั่นเอง
ส่วนเสริมจมูกแบบโอเพ่นข้อเสีย
- มีแผลผ่าตัดเพิ่มใต้จมูก และอาจมีแผลบริเวณที่เอากระดูกอ่อน เช่น ใบหู ราวนม เป็นต้น
- เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน อาจจะมีผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ทำให้แก้ไขได้ยาก
- เป็นการผ่าตัดร่วมกับยานอนหลับ ใช้เวลานาน ประมาณ 3 ชั่วโมง และต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- มีค่าใช้จ่ายที่สูง
ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
ก่อนเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อปรับรูปทรงให้โด่งขึ้น สวยขึ้น หรือเก็บปีกจมูกให้แคบลง ควรสังเกตตัวเองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้หรือไม่ ดังนี้
- ผู้ที่อายุไม่ถึง 18 ปี เพราะในช่วงนี้จมูกใบหน้ายังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
- สตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคหลอดเลือดผิดปกติต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- หากเป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนเสริมจมูก
- ผู้ที่มีแพลนจะจัดฟัน ควรจัดฟันให้เรียบร้อยเสร็จก่อน เพราะการจัดฟันมีส่วนทำให้จมูกดูโด่งขึ้นจากการที่แนวฟันถูกบีบให้เล็กลงได้
ทั้งนี้การจะเสริมจมูกได้หรือไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ในแต่ละเคสด้วย แต่ทางที่ดีก่อนทำ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินและขอคำแนะนำที่เหมาะสม โดยจะมีการประเมินและออกแบบการผ่าตัดเสริมจมูกให้เข้ากับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ
เทคนิคเลือกคลินิก เสริมจมูกแบบโอเพ่นที่ไหนดี
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบและปลอดภัย ราคาถูกหรือแพง ไม่ใช่ตัวตัดสินว่าจะดีหรือไม่ดีเสมอไป คนไข้จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของคลินิกเสริมจมูกให้ดีรวมถึงตัวศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด และพิจารณาว่าราคาที่ต้องจ่าย เหมาะสมกับคุณภาพและมีความคุ้มค่าหรือไม่ ก่อนตัดสินใจเสริมจมูกที่ไหนดี ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- คลินิกเปิดอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน มีใบรับรองและใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- แพทย์ที่จะทำการผ่าตัด เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องตามแพทยสภากำหนด มีความชำนาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์การผ่าตัดเสริมจมูก
- วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ไม่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อ เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังใบหู
- เทคนิคการเสริมจมูกที่เลือกใช้ ซึ่งมีทั้งการเสริมแบบปิด และ การเสริมแบบเปิด ควรปรึกษาแพทย์ และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยตัดสินใจในการเข้าใช้บริการ โดยไม่ควรดูแต่รีวิวทำจมูกที่มาจากคลินิกเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวในเว็บไซต์ที่คลินิกไม่สามารถลบ หรือแก้ไขได้ เช่น Facebook Review, pantip, Wongnai และไม่ควรดูรีวิวที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวเสริมจมูกที่เป็นคลิปประกอบกันด้วย เนื่องจากตกแต่งแก้ไขได้อยากกว่า
- ราคาควรเปรียบเทียบจากหลาย ๆ คลินิก หาราคาที่เหมาะสม ไม่ควรถูกจนเกินไป
- คลินิกมีการติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และควรมีช่องทางในการติดต่อที่สะดวก หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง
สรุป
เท่านี้ เราก็ทราบรายละเอียดของการเสริมจมูกแบบโอเพ่นกันแล้ว ว่า คืออะไร ควรจะเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกอย่างไร รวมถึงข้อควรระวังในการปฏิบัติตัวหลังจากที่ทำจมูกมาเสร็จเรียบร้อย ซึ่งการเสริมจมูกแบบโอเพ่นนี้ สามารถแก้ปัญหาได้ทุกแบบ โดยอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เราก็ได้มอบเทคนิคดี ๆ ในการเลือกคลินิกกันไปแล้ว