สิวผดคือปัญหาสภาพผิวทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมากโดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา มีลักษณะเป็นสิวอักเสบแดงบนใบหน้า ไหล่ และหน้าอก สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากอาการเหล่านี้ อาจทำให้หงุดหงิดและลำบากใจได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ามีตัวเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทาหรือยากิน การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต หรือทั้งสองอย่างร่วมกันสามารถควบคุมและกำจัดสิวผดที่หน้าผากได้ หากคุณหรือมีคนรู้จักกำลังเกิดสิวข้างต้น สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล แต่ถ้าอยากรักษาเองที่บ้านเราก็มี 12 วิธีรักษาสิวผดมานำเสนอ
สิวผด (Acne Aestivalis) คืออะไร
สิวผด (Acne Aestivalis) ซึ่งต่างประเทศจะเรียกสิวชนิดนี้ว่าสิวฤดูร้อน เป็นสิวประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะโดยเกิดขึ้นตามฤดูกาลหรือมักพบเจอได้เมื่อเวลาเราออกจากบ้านบ่อยๆ โดยทั่วไปมักปรากฏในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นปกติของประเทศไทยที่ก็ร้อนแทบทุกวันอยู่แล้ว เกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน เช่น ความชื้น เหงื่อ และการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งสามารถอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวได้ สิวชนิดนี้มักพบบนใบหน้า ไหล่ และหน้าอก โดยมีลักษณะเป็นสิวอักเสบและรอยแดง วิธีรักษาสิวผดหน้าผากสามารถทำได้ด้วยการใช้ยาทาและยากินร่วมกัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อลดการผลิตเหงื่อและน้ำมันบนผิวหน้า สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
สาเหตุการเกิดสิวผด
สาเหตุการเกิดสิวผดขึ้นหน้าผากมีอยู่ด้วยกันจากหลากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆที่เราได้มาจากต่างประเทศคือการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิและความชื่นในอากาศยิ่งรวมกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของแต่ละคนอยู่แล้วยิ่งทำให้มีโอกาสที่ทำให้สิวผดก็ขึ้นได้มาก โดยเราจะลิสสาเหตุของปัญหาได้ดังนี้
- ความชื้น ความชื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและการก่อตัวของสิวได้
- ความร้อนในอากาศ การผลิตเหงื่อและน้ำมันที่สามารถอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวชนิดต่างๆได้
- ฮอร์โมน ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว
- รังสี UV จากแสงอาทิตย์และหน้าจอ การได้รับรังสี UV อาจทำให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นและรูขุมขนอุดตันซึ่งนำไปสู่การเกิดสิวได้
- การทานยา การทานยาบางชนิดที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิวได้สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่ใช่ทุกคนอาจมีสาเหตุเดียวกัน บางคนอาจมีมากกว่าหนึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดสิวผดอุดตันได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆบนผิวหน้า
บริเวณที่เกิดสิวผด
สิวผดมักพบบนใบหน้า ไหล่ สิวผดที่คาง และหน้าอก โดยมีลักษณะเป็นสิวอักเสบและรอยแดง และอาจมีสาเหตุที่เกิดจากการเสียดสี แรงกด หรือการเสียดสีของผิวหนัง สิวประเภทนี้มักพบในบริเวณของร่างกายที่ถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด หรือสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น หมวกจักรยาน กระเป๋าเป้ และอุปกรณ์กีฬา นอกจากนี้ยังพบได้ทั่วไปที่ไหล่และหน้าอกเนื่องจากการเสียดสีจากเสื้อผ้าและกระเป๋า มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ แดง และอาจรู้สึกเจ็บเป็นบางครั้ง
12 วิธีรักษาและป้องกันสิวผด
หลังจากที่เรารู้ข้อมูลว่าสิวผดคืออะไรและสาเหตุเกิดจากอะไร ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำวิธีการรักษากันว่ามีอะไรบ้าง ถ้าทำได้ทั้ง 12 ข้อ เรายืนยันได้ว่าคุณจะหมดปัญหาบนผิวหน้าและห่างไกลจากปัญหาสิวต่างๆอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่ได้ทั้งหมดก็ไม่ต้องกังวลไปแค่ทำได้ 1 ถึง 6 ข้อแรกก็สามารถรักษาปัญหาสิวแล้ว เกริ่นมานานมากแล้ว ดังนั้นมาดูวิธีการรักษาสิวอุดตันสิวผดด้วยตัวเองไปพร้อมกันได้เลยครับ
1. ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน
สิวผดรักษาด้วยการทำความสะอาดของผิวด้วยการล้างหน้าเป็นประจำด้วยคลีนเซอร์อ่อนๆ จะช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และแบคทีเรียที่สามารถอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองซึ่งจะไม่ดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิวมากเกินไป
2. ใช้ครีมกันแดดทุกวัน
การใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแสงแดดสามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันและนำไปสู่การเกิดสิวได้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และทาทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้เวลานอกบ้านเป็นเวลานาน วิธีนี้สามารถแก้สิวผดได้แน่นอน
3. ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ
การขัดผิวสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเปิดรูขุมขนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เป็นการรักษาสิวผด สิ่งสำคัญคือต้องใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยน เช่น สครับหรือเปลือกเคมี และหลีกเลี่ยงการขัดผิวมากเกินไป ซึ่งอาจทำลายผิวของคุณได้
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสของเส้นผมกับใบหน้า
การป้องกันเส้นผมและเหงื่อออกจากใบหน้าสามารถช่วยลดปริมาณน้ำมันและแบคทีเรียที่สัมผัสกับผิวหนังอันเป็นสาเหตุของสิวผดได้ คุณสามารถทำได้โดยการมัดผมไปด้านหลังหรือสวมที่คาดผม และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
5. งดการใช้เครื่องสำอาง
การหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หน้าสามารถช่วยลดปริมาณน้ำมันและแบคทีเรียที่สัมผัสกับผิวของคุณได้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุของสิวผดสิวอุดตัน ซึ่งจะไม่อุดตันรูขุมขน
6. ดูแลให้ผิวหน้าชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
การรักษาผิวให้ชุ่มชื้นและหลีกเลี่ยงไม่ให้เหงื่อออกให้มากที่สุดสามารถช่วยลดปริมาณน้ำมันและแบคทีเรียที่สัมผัสกับผิวได้ คุณสามารถทำได้โดยสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
7. งดการสัมผัสใบหน้า
การหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าด้วยมือสามารถช่วยลดปริมาณแบคทีเรียและน้ำมันที่สัมผัสกับผิวหนังได้ สิ่งสำคัญคือต้องรักษามือให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการแคะหรือบีบสิว
8. งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำลายผิว
การเลิกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผดที่รุนแรงช่วยรักษาสิวผดสิวอุดตันได้ ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยลดการระคายเคืองและการอักเสบได้ หากผิวของคุณระคายเคือง สิ่งสำคัญคือต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์และปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
9. ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวโดยเฉพาะและใช้อย่างถูกวิธี
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) สามารถช่วยให้รูขุมขนอุดตันและลดการอักเสบได้อันเป็นสาเหตุของสิวผดผื่น ส่วนผสมเหล่านี้มักพบในผลิตภัณฑ์รักษาสิวและมีประสิทธิภาพมาก
10. ทานอาหารที่มีประโยชน์และมีปริมาณน้ำตาลต่ำ
การรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ น้ำตาลต่ำ ผักและผลไม้ อาหารเหล่านี้สามารถช่วยสนับสนุนสุขภาพผิวของคุณ การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบสูงสามารถช่วยลดสิวและส่งเสริมผิวให้กระจ่างใส
11. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
สิวผดกี่วันหายคำถามเหล่านี้สามารถไขได้เมื่อปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพราะปัญผิวหน้าของแต่ละคนจะแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล เป็นการรักษาสิวผดเร่งด่วนสามารถช่วยในการวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้ ซึ่งอาจรวมถึงยาทาและการรับประทานยาต่างๆแพทย์ผิวหนังยังสามารถช่วยระบุสาเหตุทางการแพทย์ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดสิวของคุณและให้ทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับคุณมากที่สุด
12. มีความสม่ำเสมอในการทำตามขั้นตอนต่างๆข้างต้น
ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวของคุณอย่างสม่ำเสมอ และอดทนเพราะอาจต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะเห็นผล นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นและเกิดการอักเสบเพิ่มเติมได้
สิ่งที่คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิวผด
มีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับภาวะปัญหาสิวผดที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดเป็นวงกว้างและทำให้การรักษาไม่ได้ผล บางคนอาจคิดว่าอาจเป็นเพราะการรักษาความสะอาดที่ไม่ดี และจะหายไปเอง หรือเป็นเพียงปัญหาของวัยรุ่นเท่านั้น
ความจริงแล้วคือสิวผดมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ที่ซับซ้อนและสามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจสาเหตุของสิวและปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิวผดเหล่านี้อาจนำไปสู่ความยุ่งยากและการรักษาไม่ได้ผล และนี้คือสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิวมีดังนี้
- สิวเกิดจากการไม่รักษาความสะอาด เป็นความเข้าใจผิดทั่วไปที่ว่าสิวเกิดจากสุขอนามัยที่ไม่ดี แต่ไม่ใช่ในกรณีเดียวเสมอไป สิวเกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน เช่น การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และแบคทีเรีย ซึ่งอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวได้
- สิวผดเกิดจากการกินอาหารมันๆการกินอาหารมันๆ ไม่ได้ทำให้เกิดสิวโดยตรง อย่างไรก็ตาม อาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูงสามารถทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งจะทำให้สิวแย่ลงได้
- สิวผดจะหายไปเองได้ ในขณะที่บางคนอาจมีอาการสิวดีขึ้นชั่วคราว ไม่น่าเป็นไปได้ที่สิวจะหายไปเองโดยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
- สิวผดเป็นเพียงปัญหาของวัยรุ่นเท่านั้น สิวสามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้น สิวในวัยผู้ใหญ่เป็นปัญหาทั่วไป และหลายคนอาจพบปัญหาสิวต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
- สิวผดไม่มีความร้ายแรง สิวสามารถมีผลกระทบต่อความมั่นใจของเรา สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสิวที่ไม่ได้รับการรักษาหรือมีความรุนแรงอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
ข้อสรุป
สิวผด หรือที่เรียกว่าสิวฤดูร้อนเป็นสภาพผิวทั่วไปที่มีลักษณะเฉพาะตามฤดูกาล ซึ่งมักจะปรากฏในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย เกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน เช่น ความชื้น เหงื่อ และการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิวได้ แม้ว่าจะมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับภาวะนี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ยาทาและยารับประทานร่วมกัน
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะทาง วิธีการรักษาสิวผดที่ดีสุดคือมีความอดทนและความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสิว และโปรดทราบว่าความเข้าใจผิดอาจนำไปสู่ความยุ่งยากและการรักษาที่ไม่ได้ผล ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง