ถึงแม้ว่าปัญหาสิวจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับผู้ที่เป็นสิวอยู่นั้นมันไม่ธรรมดาเลย เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว สิวบางชนิดยังอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดหรืออาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ให้เกิดความทรมานและรำคาญใจได้อีกด้วย
ปัญหาสิวเหล่านี้สามารถเกิดได้หลากหลายตำแหน่งทั่วใบหน้า หรือแม้แต่บริเวณลำตัวก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสิวที่หน้าผาก สิวที่คาง สิวที่จมูก สิวที่แก้ม รวมไปถึงสิวที่แผ่นหลัง แล้วยิ่งถ้าเกิดว่าสิวไปเกิดขึ้นในบริเวณที่จะต้องถูกเสียดสีอยู่ตลอดเวลา ก็จะยิ่งทรมานไปกันใหญ่
และหนึ่งในตำแหน่งสิวยอดฮิตในปัจจุบันก็คือสิวขึ้นคางนั่นเอง ซึ่งสาเหตุโดยส่วนใหญ่ก็อาจมาจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพราะอาจเกิดได้ทั้งจากการเสียดสีระหว่างหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า หรือแม้แต่การสะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ
ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาโฟกัสกันเฉพาะปัญหาสิวที่คาง ให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจและลองนำไปปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นคาง ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ประเภทของสิวที่คาง วิธีการรักษาและป้องกันสิวขึ้นคาง รวมไปถึงคำถามยอดฮิตต่าง ๆ
สิวขึ้นคาง เกิดจากอะไร
สาเหตุของสิวขึ้นคางเกิดจากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งนอกจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ก็อาจเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายนอก รวมไปถึงปัจจัยภายในร่างกายอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งกลไกการเกิดสิวโดยทั่วไปแล้วจะมาจากการอุดตันของสิ่งสกปรกหรือไขมัน
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าไขมันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มาอุดตันจนทำให้เกิดสิวเหล่านี้มันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง ในหัวข้อนี้เราจะมาบอกถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดสิวที่คางกัน
- อาการ PMS (Premenstrual Syndrome)
อาการ PMS หรือ Premenstrual Syndrome คืออาการที่จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาก่อนที่ประจำเดือนจะมาในแต่ละรอบเดือน ซึ่งระยะเวลาในช่วงนี้ร่างกายจะมีการกระตุ้นการทำงานของรังไข่ และทำให้เกิดความแปรปรวนของระดับฮอร์โมน จนส่งผลให้เกิดสิวที่คาง
- ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) สูงกว่าปกติ
ฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือ Androgen คือฮอร์โมนเพศชาย ที่ถ้าหากว่ามีฮอร์โมนชนิดนี้สูงเกินกว่าปกติจนทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุล ก็อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนทำให้เกิดการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปหรือทำให้มีรูขุมขนกว้างมากขึ้น และส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและเกิดสิวขึ้นคางได้ง่าย
- ชอบบีบสิวและสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
นอกจากสาเหตุภายในที่ได้กล่าวไปแล้ว สิวที่คางเกิดจากการสัมผัสใบหน้าบ่อยครั้งเกินไปก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้สิ่งสกปรกที่มือนั้นไปเกิดการสะสมบนใบหน้า จนทำให้เกิดการอุดตันได้ นอกจากนี้การบีบสิวก็อาจทำให้เกิดสิวที่คางได้เช่นกัน เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้
- มลพิษจากสภาวะแวดล้อม ฝุ่นและมลภาวะต่าง ๆ
ในปัจจุบันนี้ฝุ่นและมลภาวะต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่เรารู้จักกันดี นั่นก็คือฝุ่น PM2.5 ซึ่งฝุ่นหรือมลภาวะต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อมีการสัมผัสกับผิวหน้าก็อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวขึ้นคางได้
- เกิดอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
สิวใต้คางเกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า ยาสีฟัน หรือแม้แต่ครีมโกนหนวด และนอกจากอาการแพ้แล้ว ก็อาจเกิดจากการล้างทำความสะอาดออกไม่หมดได้เช่นกัน
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากเป็นสิวที่คาง
บางทีตุ่มเม็ดคล้ายสิวบริเวณคางที่เราเข้าใจว่าเป็นสิวที่คางก็อาจไม่ใช้สิวอย่างที่คิด แต่อาจเป็นโรคผิวหนังชนิดอื่นที่มีลักษณะหน้าตาของโรคคล้ายกับสิวขึ้นคางก็เป็นได้ ดังนั้นจึงควรสังเกตให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการรักษาสิว โดยโรคที่บางคนอาจเข้าใจว่าเป็นสิวขึ้นคางมีดังนี้
ขนคุด
ขนคุดจะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงเฉย ๆ หรือไม่ก็อาจเกิดการอักเสบจนมีหนองขึ้นมาก็ได้เช่นกัน ซึ่งขนคุดมักจะเกิดขึ้นในบริเวณกรามหรือคางของเพศชาย เนื่องจากอาจมีการโกนหนวดด้วยวิธีที่ผิดหรือมีการใช้อุปกรณ์โกนหนวดที่ไม่เหมาะสม เช่น ใบมีดโกนหลายใบมีด หรือใบมีดทื่อจนเกินไป
โรคผิวหนัง Rosacea
โรคผิวหนัง Rosacea เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดที่ผิวหนัง จนทำให้เกิดรอยแดง ตุ่มแดง หรือเกิดการอักเสบขึ้น จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นสิวขึ้นคาง
ประเภทสิวที่คาง
ปัญหาสิวที่คางสามารถเกิดสิวได้หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งสิวขึ้นคางแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีสาเหตุที่เกิดต่างกันไปอีกด้วย และในหัวข้อนี้เราจะมาทำความรู้จักสิวที่คางแต่ละประเภทกันว่ามีอะไรบ้าง
สิวอักเสบที่คาง
สิวอักเสบที่คางนั้นสามารถเกิดได้ทั้งสิวอักเสบที่คางแบบมีหัวและสิวอักเสบที่คางไม่มีหัว โดยสิวอักเสบที่คางแบบมีหัวจะมีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดสีแดง และมีหัวหนองสีขาวอยู่ด้านบน ส่วนสิวอักเสบที่คางไม่มีหัวจะมีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดสีแดงเพียงอย่างเดียว
สิวอุดตันที่คาง
สิวอุดตันที่คางนั้นจะมีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดแข็งที่สามารถพบได้ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยสิวที่คางประเภทนี้มีสาเหตุเกิดจากการที่สิ่งสกปรกหรือไขมันมีการอุดตันอยู่ในรูขุมขนบริเวณคาง สามารถอ่านบทความ สิวอุดตัน เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
สิวขึ้นคางไม่มีหัว
สิวขึ้นคางไม่มีหัวจะมีลักษณะเป็นตุ่มสิวขาว ๆ ที่ไม่มีหัวสิว โดยสาเหตุที่ทำให้เป็นสิวที่คางไม่มีหัวเกิดจากการอักเสบภายในชั้นผิวหนัง อีกทั้งสิวที่คางชนิดนี้ยังไม่สามารถที่จะกดหัวสิวออกมาได้
สิวผดที่คาง
สิวผดที่คางจะมีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นมาเป็นจำนวนเยอะ ๆ ตรงบริเวณคาง ซึ่งสิวขึ้นคางประเภทนี้ถึงแม้จะสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่ถ้าหากใช้มือสัมผัสดูก็จะรู้สึกได้ทันที นอกจากนี้ในบางรายก็อาจมีอาการคันร่วมกับการเกิดสิวที่คางประเภทนี้ด้วย
สิวฮอร์โมนคาง
สิวฮอร์โมนคางจะมีลักษณะเป็นสิวตุ่มแดง ๆ คล้ายกับสิวอักเสบ ซึ่งสิวขึ้นคางประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นในบริเวณหรือตำแหน่งเดิม ๆ โดยสิวที่คางประเภทนี้จะมีสาเหตุหลักมาจากการขาดความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย จนทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังถูกกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป และส่งผลให้เกิดสิวที่คางขึ้น
วิธีรักษาสิวที่คาง
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดสิวขึ้นคางเราจำเป็นต้องทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจด อย่าให้มีสิ่งสกปรกหรือไขมันเกิดการสะสมหรืออุดตันในรูขุมขน นอกจากนี้ยังต้องทำความสะอาดอย่างถูกวิธีคือไม่ขัดถู และทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน
- รับประทานยาคุมกำเนิดหรือยาปรับฮอร์โมน เพื่อช่วยควบคุมปริมาณของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และปรับระดับฮอร์โมนให้มีความสมดุล จะได้ไม่เกิดการกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังจนเป็นสาเหตุให้เกิดสิวที่คางขึ้น
- การใช้ยาทารักษาสิวที่คางเป็นวิธีที่จะช่วยลดเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบของสิวที่คาง ซึ่งการรักษาสิวขึ้นคางด้วยวิธีนี้มักใช้กลุ่มยา Benzoyl Peroxide , Retinoic acid หรือยาปฏิชีวนะแบบทา เป็นต้น
- การรับประทานยาปฏิชีวนะก็เป็นอีกวิธีในการช่วยลดเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบของสิวที่คางเช่นเดียวกัน
- การรับประทานยากลุ่ม Isotretinoin เป็นวิธีรักษาสิวที่คางสำหรับผู้ที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงหรือมีอาการดื้อยา โดยยาในกลุ่ม Isotretinoin เป็นอนุพันธ์ของวิตามินA ที่สามารถช่วยยับยั้งสาเหตุต่าง ๆ ในการเกิดสิวขึ้นคางได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว ยับยั้งการเกิดสิวอุดตัน รวมถึงกดการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
- รักษาสิวขึ้นคางด้วยการกดหรือฉีดสิวเป็นวิธีที่สามารถกำจัดสิวออกไปจากใบหน้าได้อย่างทันที ซึ่งการรักษาสิวที่คางวิธีนี้ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดรอยสิวตามมา
- ใช้เลเซอร์ในการรักษาสิวที่คางจะช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิวที่คาง และยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกด้วย โดยการรักษาสิวขึ้นคางด้วยวิธีการใช้เลเซอร์เป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มข้นสูงซึ่งจะมีความยาวหลายช่วงคลื่นมาฉายลงบนใบหน้า
วิธีป้องกันสิวที่คาง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีความเหมาะสมกับผิวหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หรือผู้ที่มีปัญหาหน้ามันก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและป้องกันการเกิดสิวโดยเฉพาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิวขึ้นคาง
- ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย หรือไขมันบนใบหน้า จนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และกลายเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่คาง
- หมั่นทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก และมาสัมผัสกับใบหน้า จนอาจทำให้เกิดสิวขึ้นคาง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น
- ควรใช้หน้ากากอนามัยที่สะอาด ไม่ควรนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ หรือใช้หน้ากากอนามัยที่ไม่สะอาด เพราะอาจมีสิ่งสกปรกหรือเชื้อแบคทีเรียอยู่ที่หน้ากากอนามัย จนทำให้เกิดสิวที่คางได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวที่คาง
สิวที่คางเยอะมาก เรื้อรัง ทำอย่างไรดี
สิวขึ้นคางเรื้อรังนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ทำการรักษาได้อย่างตรงจุด และถึงแม้ว่าการรักษาสิวที่คางเรื้อรังจะใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้แน่นอน
สรุป
สิวคือสิ่งที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในบริเวณใดก็ล้วนสร้างความรำคาญได้ไม่ต่างกัน แต่สิวที่คางนั้นนอกจากจะสร้างความรำคาญได้แล้ว ยังสร้างความลำบากในการสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกด้วย เพราะสิวขึ้นคางอาจเกิดการเสียดสีกับหน้ากากอนามัยจนทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานได้
ดังนั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวขึ้นคาง ก็ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดทั้งใบหน้า และสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับใบหน้า รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหรือบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด