ปัญหาเรื่องรูปร่างสัดส่วนที่ไม่กระชับ มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินที่มากเกินไป ขาดการออกกำลังกาย หรืออายุที่เริ่มมากขึ้นทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดภาวะอ้วนที่จะทำให้ขาดความมั่นใจในการพบปะผู้คน โดยทางออกหนึ่งที่หลายคนสนใจก็คือ
การดูดไขมันที่จะมาเป็นสิ่งที่ช่วยเข้ามาจำกัดไขมันส่วนเกินในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าอยากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน ต้องเลือกคลินิกที่ทำที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย สามารถไว้วางใจได้ว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายตามมา
การดูดไขมัน คืออะไร
ดูดไขมันดีไหม? ทำไมถึงต้องดูดไขมัน? liposuction คืออะไรอันตรายไหม? กระบวนการศัลยกรรมความงามอย่างหนึ่งที่จะต้องใช้เทคนิคในการดูดไขมันส่วนเกินในชั้นใต้ผิวหนังออกจากจุดต่าง ๆ ของร่างกาย โดยการใช้คลื่นวิทยุหรือการใช้อัลตราซาวด์หรือการฉีดสารละลายบางอย่างที่ไม่มีอันตรายเพื่อทำให้ไขมันหลอมเหลวเพื่อดูดออกจากร่างกาย
ประโยชน์ของการดูดไขมัน
การลดความอ้วนโดยการออกกำลังกายหรือทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ แต่การดูดไขมันเพื่อปรับสัดส่วนในร่างกายก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้เช่นกัน ซึ่งการดูดไขมันมีประโยชน์ ดังนี้
- ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนัง
- ช่วยทำให้สัดส่วนร่างกายเรียวเล็กลง
- ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ
- ช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย
ดูดไขมันส่วนใดได้บ้าง
การดูดไขมันสามารถทำได้เกือบทุกบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ที่ใต้ผิวหนัง ตั้งแต่การดูดหน้าท้องรวมไปจนถึงการดูดที่ข้อเท้าก็สามารถดูดออกมาเพื่อให้มีความเรียวเล็กได้เช่นกัน
ดูดไขมันมีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้าง
ขึ้นชื่อว่าดูดไขมันนั้น ก็ต้องมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป โดยในวันนี้เราขอนำเสนอการดูดไขมันมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
ข้อดีของการดูดไขมัน
- สัดส่วนเล็กลงในทันทีเมื่อเริ่มกระบวนการดูดไขมัน
- ลดไขมันสะสมเฉพาะจุดได้ดี
- ช่วยปรับสัดส่วนให้สมดุลมากขึ้น
- แผลขนาดเล็ก ไม่เป็นคีลอยด์
- ใช้เวลาพักน้อยเพื่อพักฟื้น
- สามารถใช้ไขมันส่วนเกินไปเพิ่มในส่วนอื่นของร่างกายได้
ข้อจำกัดของการดูดไขมัน
- ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น
- อาจรู้สึกเจ็บ ระหว่างทำได้
- มีอาการเจ็บ บวมช้ำ หลังดูดไขมัน
- ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น
- มีโอกาสที่เกิดผิวจะไม่เรียบได้
- อาจเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้
ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน
ผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมันมีดังนี้
- ผู้ที่ไม่ได้อ้วนทั้งตัว
- ผู้ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินปกติมาก
- ผู้ที่มีการสะสมของไขมันเฉพาะที่
- ผู้ที่มีไขมันสะสมและลดลงไม่ได้ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
- ผู้ที่ผิวหนังยืดหยุ่นดี หลังจากดูดไขมันผิวจะเรียบสวยหย่อนน้อย
ใครที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมัน
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันมีดังนี้
- คนที่เป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจที่ควบคุมไม่ได้
- คนที่เป็นโรคซึมเศร้า และกำลังรักษาตัวอยู่
- คนที่มีไขมันหน้าท้อง และผิวหนังหย่อนคล้อย
ตำแหน่งใดที่ดูดไขมันได้
ดูดไขมันทั้งตัว
ดูดไขมันทั้งตัวเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินออกทั้งตัวในครั้งเดียว เพื่อให้บริเวณต่าง ๆ อย่างต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา เล็กลงพร้อมกันในครั้งเดียว แต่มีข้อแม้ว่าไม่สามารถทำได้ทุกคน จึงต้องให้หมอประเมินร่างกายก่อนให้ดูดแบบทั้งตัว
ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียงเป็นการกำจัดเหนียงใต้คางออกไป โดยการดูดออกมาอย่างตรงจุดเพื่อทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กมากขึ้นและช่วยเพิ่มความมั่นใจได้
ดูดไขมันแผ่นหลัง
การดูดไขมันแผ่นหลังเป็นตำแหน่งที่ดูดยากมาก เพราะบริเวณแผ่นหลังของเราจะมีไขมันไม่ได้เยอะ แต่จะมีพังผืดเยอะมากกว่าเลยทำให้มีโอกาสเสียเลือดเยอะขึ้น และเป็นตำแหน่งที่ดูดแล้วเจ็บเป็นพิเศษ
ดูดไขมันนมน้อย
การดูดไขมันนมน้อยเป็นอีกจุดหนึ่งที่สาว ๆ จะกังวลพิเศษก่อนจะดูดนมน้อย เพราะต้องมีการประเมินมาก่อนว่านมน้อยที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากไขมันส่วนเกิน หรือ เกิดจากเต้านมส่วนเกิน สามารถทำให้วงแขนดูเรียวกระชับมากขึ้น
ดูดไขมันต้นแขน
การดูดไขมันต้นแขนเป็นบริเวณที่ดูเหมือนจะดูดง่าย เพราะดูมีไขมันไม่เยอะ แต่จริง ๆ แล้ว เป็นตำแหน่งดูดที่ยาก ต้องใช้เทคนิค และประสบการณ์ของแพทย์เยอะ สำหรับคนตัวเล็ก มักจะมีไขมันตรงหลังแขน และด้านล่างท้องแขน เยื้องไปด้านข้าง สำหรับคนตัวใหญ่มักจะมีไขมันรอบแขน จึงต้องดูดทั้งแขน
ดูดไขมันเอวเอส
การดูดไขมันเอวเอส เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ในบริเวณรอบ ๆ เอวออกมา โดยที่หมอจะใช้เครื่องดูดเข้ามาช่วยในการสลายเซลล์ไขมันและดูดออกมา
ดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมันหน้าท้องเป็นตำแหน่งยอดฮิตในการดูด เพราะทั้งผู้หญิงและผู้ชายส่วนใหญ่จะมีปัญหาไขมันสะสมหน้าท้อง แต่ในแต่ละเคสนั้นก็ต้องมาประเมินก่อนว่า มีไขมันสะสมหน้าท้อง ส่วนใหญ่เป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังหรือไขมันในช่องท้องมากกว่ากัน
ดูดไขมันน่อง
การดูดไขมันน่องเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณน่องขา เพื่อให้น่องใหญ่ มีขนาดเล็กลง ช่วยเสริมให้ขาของเราดูเรียวสวยขึ้น ซึ่งการดูดน่องขา จะช่วยให้น่องเล็กลงในทันที
ดูดไขมันต้นขา
การดูดไขมันต้นขาเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่อยู่รอบ ๆ ต้นขาออกไป เพื่อแก้ปัญหาต้นขาใหญ่ เนื้อขาปลิ้น หรือต้นขาไม่สมส่วนกับสัดส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ดูดไขมันข้อเท้า
การดูดไขมันข้อเท้าเป็นตำแหน่งที่ทำการดูดได้ยาก เพราะมีชั้นไขมันที่บางและต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการดูด
ดูดไขมัน น้ำหนักลดไหม
การดูดไขมันไม่เท่ากับการลดน้ำหนักเนื่องจากน้ำหนักของไขมันและกล้ามเนื้อแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะดูดออกทั้งร่างกายก็จะไม่ส่งผลต่อน้ำหนักมากขนาดนั้น เพราะไขมันมีน้ำหนักเบามากจึงไม่ส่งผลต่อมวลน้ำหนักในร่างกาย
เครื่องดูดไขมัน มีแบบใดบ้าง
Water Jet Assisted Liposuction
เป็นเครื่องที่มีหลักการโดยการใช้พลังงานน้ำฉีดพ่นเข้าไปในรูปแบบใบพัดเพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกัน ซึ่งเครื่องนี้จะใช้เวลาพักฟื้นเร็วมาก แต่มีข้อแม้ว่าจะเห็นผลช้ากว่าเครื่องดูดอื่น ๆ
Ultrasonic Assisted Liposuction
เป็นเครื่องที่มีหลักการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์มาช่วยในการทำลายเซลล์ไขมัน โดยทำการปล่อยพลังคลื่นเสียงออกมา แต่ข้อจำกัดของเครื่องนี้จะรู้สึกเจ็บมากระหว่างทำ และเห็นผลทันทีหลังจากทำ
J Plasma
เป็นเครื่องยกกระชับผิวและสัดส่วน เหมาะที่จะใช้ควบคู่ไปกับการดูดไขมันที่สามารถเห็นผลได้ทันที แต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
RF Assisted Liposuction
เป็นเครื่องที่มีหลักการดูดไขมันด้วยพลังคลื่นความถี่วิทยุด้วยท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศ โดยจะเห็นผลทันทีหลังจากทำ แต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างที่จะสูงมากในการทำ
Manual Liposuction
เป็นการดูดไขมันแบบดั้งเดิมที่จะใช้เพียงแค่แรงมือแพทย์กระทุ้งไซริงค์เข้าไปที่ชั้นไขมัน โดยวิธีนี้มีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับเส้นเลือดและเส้นประสาท และต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน การดูดโดยวิธีนี้จะเหมาะกับเคสดูดน้อย ๆ
ก่อนดูดไขมันต้องเตรียมตัวอย่างไร
วิธีการเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันมี 2 รูปแบบ คือ ดูดแบบมียาชาและดูดแบบมียาสลบ โดยมีวิธีการเตรียมตัวที่แตกต่างกันดังนี้
ดูดไขมันยาชา
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดเครื่องดื่มทุกชนิด
- ไม่ควรขับรถกลับเอง อาจจะพาคนรู้จักมาด้วย
- สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
ดูดไขมันยาสลบ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดเครื่องดื่มทุกชนิด
- ล้างสีเล็บและงดแต่งหน้าเพื่อสังเกตอาการสภาวะขาดออกซิเจน
- งดสวมเครื่องประดับ
- งดใส่ฟันปลอม
ดูดไขมันมีกระบวนการอย่างไร
- การใส่ Tumescent เพื่อขยายช่องว่างในชั้นไขมันเพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ จากการโดนเข็มดูดไขมัน
- แยกเซลล์ไขมันเพื่อสลายเซลล์ไขมันส่วนเกิน
- ดูดไขมันและใส่เก็บในถังไขมัน
ผลลัพธ์ของการดูดไขมัน
ผลลัพธ์ของการดูดไขมัน เช่น ใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเห็นผลนั้น จะเห็นผลในช่วง 1-3 เดือนแรก โดยการดูดสัดส่วนจะลดลงทันที แต่จะบวมได้ในเวลาต่อมา แต่ในกรณีถ้าเป็นเคสแก้ คือเคยดูดมาแล้ว และมาดูดซ้ำจะนานกว่านั้น 2-3 เดือน หรืออาจจะใช้เวลานานถึง 6 เดือน ดังนั้นการดูแลตัวเองหลังการดูดจึงสำคัญมาก
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
วิธีดูแลตัวเองหลังจากดูดไขมันหลังจากทำ 1 เดือนแรกนั้น ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษตามที่เจ้าหน้าที่และแพทย์แนะนำ เพื่อให้สัดส่วนที่ดูดออกไปเข้าที่ได้เร็วมากขึ้น
- รับประทานยาที่คลินิกให้ไปตามคำแนะนำของแพทย์
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน จนกว่าจะตัดไหม
- ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ ในช่วง 7 วันแรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- งดอาหารที่ไม่สะอาด, อาหารไม่สุก, อาหารทะเล, ของหมักดอง เพราะอาจติดเชื้อได้
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้แผลหายช้า
- งดยาและอาหารเสริมต่าง ๆ ตามที่แพทย์สั่ง
- ใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน อย่างน้อยวันละ 22-24 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายเบา ๆ หลังทำ 2 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมัน
ดูดไขมันอันตรายไหม?
การดูดไขมันอันตรายไหม? ในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยถ้าหากทำในสถานที่ที่ถูกกฎหมายและทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ดูดไขมันเจ็บไหม?
ดูดไขมันเจ็บไหม? ขึ้นชื่อว่าดูดไม่ว่าจะเป็นการดูดในตำแหน่งใดก็ตามของร่างกายจะมีอาการเจ็บอย่างแน่นอน แต่จะเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเลือกวิธีใดสำหรับการดูดและเลือกดูดในส่วนไหน
สรุปเรื่องดูดไขมัน
ดูดไขมันดีไหม ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ช่วยกำจัดไขมันออกไปได้อย่างรวดเร็วอีกหนึ่งวิธี ซึ่งถ้าอยากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน ต้องเลือกคลินิกที่ทำที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย สามารถไว้วางใจได้ว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายตามมา