สิวสเตียรอยด์ เป็นปัญหากวนใจสำหรับหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียนแล้ว ยังเป็นปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนขาดความมั่นใจลง ดังนั้นจึงพยายามรักษาสิวให้หายเพื่อสร้างความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง แต่แล้วบางคนก็กลับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แก้สิวตามที่มีพรีเซนเตอร์หรือผู้รีวิวมารักษาสิวด้วยตนเอง อันที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางชนิดก็มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์หรือสารเคมีอันตรายอื่น ๆ ซึ่งส่งผลทำให้ผิวหน้าแพ้สารสเตียรอยด์ หรือ เกิดสิวแพ้สารได้ แต่หน้าติดสาร แพ้สารสเตียรอยด์มีลักษณะอาการยังไง มีวิธีรักษาหรือป้องกันอย่างไรบ้าง มาอ่านไปพร้อม ๆ กันค่ะ
สิวสเตียรอยด์ คืออะไร
แม้ว่าหลาย ๆ คนจะเรียกอาการผื่นคล้ายสิวนี่ว่า สิวสเตรียรอยด์ แต่อันที่จริงแล้ว สิวสเตรียรอยด์ ไม่ใช่สิวแต่กลับเป็นปัญหาผิวที่มีผื่นลักษณะคล้ายสิว ซึ่งมีกระบวนการเกิดที่แตกต่างจาก สิว ทั่วไปโดยเกิดจากเซลล์รูขุมขนอักเสบและขับของเสียออกมาไปรวมกับน้ำมันจากต่อมไขมันจนเกิดการอุดตันขึ้นจนกลายเป็นสิวสเตียรอยด์
สิวสเตียรอยด์ มีอาการเป็นอย่างไร
สำหรับผู้ที่มีหน้าแพ้สเตียรอยด์ จะมีสิวสเตียรอยด์แผ่เป็นผื่นปื้นกระจุกไปทั่วใบหน้าคล้าย สิวอักเสบ โดยจะมีลักษณะอาการที่พบใกล้เคียงกัน เช่น จุดที่อักเสบก็จะอักเสบในระดับเดียวกัน หรือจุดที่อาการอุดตันก็จะมีลักษณะการอุดตันที่ใกล้เคียงกัน เป็นต้น นอกจากนี้สิวสเตียรอยด์ยังมีคุณสมบัติที่คอยกดภูมิคุ้มกัน ดังนั้นจึงทำให้ผิวสามารถติดเชื้อโรค เชื้อราง่ายกว่าคนทั่วไป ถ้าหากเกิดการติดเชื้อในรูขุมขน ก็จะทำให้เกิดอาการขึ้นตุ่มแดงอักเสบรุนแรงมากขึ้น รู้สึกคัน และมีโอกาสเป็นหนองได้
แต่สำหรับผู้ที่สงสัย แล้วสิวติดสารเป็นยังไง มีอาการอย่างไรบ้าง? โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการเหล่านี้มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน โดยมีลักษณะอาการผิวลอก หน้าแดงแสบ สิวเห่อมากขึ้น เมื่อหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ แต่เมื่อกลับมาใช้ผิวจะกลับคงสภาพปกติ โดยสิวติดสารนั้นจะขึ้นเฉพาะบริเวณที่ใช้งานเท่านั้น เช่น เมื่อทาบริเวณหน้าผาก และหยุดใช้ ก็จะขึ้นบริเวณหน้าผากเพียงเท่านั้นไม่ลามไปส่วนอื่น
สิวสเตียรอยด์ เกิดจากอะไร
สิวสเตียรอยด์เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน หรือเกิดอาการแพ้สาร จึงทำให้เกิดอาการขึ้น แต่แล้วสารสเตียรอยด์คืออะไร ทำไมใช้นานแล้วถึงเกิดอาการติดสาร หรือใช้แล้วเกิดอาการแพ้ได้ เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับ สารสเตียรอยด์(Steroids) กันค่ะ
สารสเตียรอยด์ ถูกจัดเป็นหนึ่งในกลุ่มยา corticosteroid ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยกดภูมิคุ้มกันที่ทำงานอย่างผิดปกติ ดังนั้นในอดีตมีการนำสารนี้มาใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง และโรคประเภทอื่น ๆ มากมาย แต่หลังจากนั้นกลับพบว่า หากมีการใช้สารสเตียรอยด์เป็นปริมาณมากติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้ผิวเกิดอาการติดสาร ซึ่งจำเป็นต้องกลับมาใช้สารสเตียรอยด์ถึงจะกลับมาเป็นปกติ
นอกจากอาการติดสารแล้ว ในคนบางกลุ่มก็จะมีอาการแพ้สารสเตียรอยด์ กล่าวคือสารสเตียรอยด์จะไปกระตุ้นทำให้สิวเห่อหรือเกิดอาการอักเสบมากกว่าเดิม เพราะสารสเตียรอยด์ทำให้เซลล์รูขุมขนไวต่อการกระตุ้นทำให้เกิดไขมันในรูขุมขนมากขึ้น และเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ก็จะเพิ่มมากขึ้นตาม จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสิวสเตียรอยด์ได้ เมื่อพบอันตรายดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากการใช้สารสเตียรอยด์จึงทำให้สารดังกล่าวถูกจัดเป็นสารอันตราย ห้ามนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ยังมีการใช้ในทางการแพทย์โดยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีกลุ่มผู้ผลิตบางส่วนที่เล็งเห็นผลการรักษาผิวเพียงระยะสั้น จึงทำให้มีการนำสารสเตียรอยด์มาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ รวมถึงครีมบำรุงผิวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการติดสาร หรือแพ้สารสเตียรอยด์จึงควรอ่านฉลากให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนการใช้งาน
สิวสเตียรอยด์มีวิธีรักษาอย่างไร
หน้าติดสเตียรอยด์รักษายังไง แพ้สารสเตียรอยด์รักษายังไง? ตามหลักการรักษาเบื้องต้น เมื่อทราบว่ากำลังประสบปัญหาสิวสเตียรอยด์ หรือเกิดการติดสาร สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก คือ การหยุดใช้งานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ แม้ว่านั่นจะทำให้อาการแพ้นั่นรุนแรงขึ้นระยะเวลาหนึ่งก็ตาม และอาจจะหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าทุกชนิดเพื่อพักผิว แต่บางคนต้องการให้ผิวกลับมามีสภาพปกติดังเดิม จึงไปยุ่งกับผิว ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้อาการกลับแย่ลง ดังนั้น เพื่อรักษาผิวให้หายขาด จึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมกับอาการ โดยวิธีรักษาหน้าติดสาร วิธีรักษาผิวแพ้สาร ส่วนใหญ่จะมีดังนี้
การทานยาปฏิชีวนะ
เมื่ออาการของสิวสเตียรอยด์มาจากกรณีที่สารไปกดภูมิคุ้มกัน อาจจะมีการใช้ยา Fluconazole หรือ Ketoconazole เนื่องจากยาดังกล่าวมีฤทธิ์ช่วยกำจัดเชื้อสิวบนหน้าได้ และอาจจะมีการใช้ยา Tetracycline (เช่น Doxycycline) หรือ Erythromycin ในการรักษาอาการสิวสเตียรอยด์ที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน
Tretinoin (ยาเตรทติโนอิน)
Tretinoin เป็นยาทากลุ่มกรดวิตามิน A ที่จะช่วยลดความรุนแรงของอาการสิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าบริเวณรูขุมขนออกไป รวมถึงช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมไขมันซึ่งจะช่วยลดอาการของสิวสเตียรอยด์ได้
การรักษาด้วยเสริมโดยแพทย์
นอกจากจะรับประทานยาหรือทายาเพื่อช่วยรักษาสิวสเตียรอยด์แล้ว ยังสามารถใช้ทางเลือกอื่น เช่น กดสิว เลเซอร์ รวมถึงการทำทรีตเม้นท์ฟื้นฟูสภาพผิว เพื่อลดและบรรเทาอาการของสิวสเตียรอยด์ให้น้อยลง และยังช่วยฟื้นฟูผิวที่บอบบางให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง
ผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงหน้า
สำหรับผู้ที่รักษาสิวสเตียรอยด์แล้วอยากให้ผิวกลับมาแข็งแรง ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก การใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ก็มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ โดยในการเลือกใช้ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติของสกินแคร์ เช่น ปราศจากสารพิษ สารก่อระคายเคือง สารกันบูด ไร้น้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพราะสารเหล่านี้จะไปกระตุ้นทำให้ผิวหน้าเกิดการแพ้ง่ายมากขึ้น แต่ควรเลือกสกินแคร์ที่ใช้สูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง เช่น ใช้ครีมที่มีค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว มีวิตามิน A ที่จะช่วยบำรุงรักษาผิวหนัง รวมถึงใช้ AHA BHA ที่จะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้แล้วยังควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าอยู่เสมอ และยังควรใช้ครีมกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและป้องกันไม่ให้ผิวถูกกระตุ้นให้มีการอักเสบมากขึ้น
การป้องกันไม่ให้เกิดสิวสเตียรอยด์
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิวสเตียรอยด์ที่ยากต่อการรักษา สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกเลย คือ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถเลี่ยงได้โดยการเช็คที่ฉลากของผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์หรือไม่ หรือในกรณีที่ไม่สามารถเช็คได้ก็ควรที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีอย.รองรับ
สรุป
สิวสเตียรอยด์ และการติดสาร แม้ว่าจะเป็นอาการที่ไม่รุนแรงจนถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่กลับสร้างความรำคาญใจและยังทำให้หลาย ๆ คนเกิดสูญเสียความมั่นใจไป เพื่อไม่ให้ใบหน้าติดสาร หรือมีสิวสเตียรอยด์ จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ และไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ได้รับอย. แม้ว่าจะมีการกล่าวอ้างคุณสมบัติที่จะช่วยทำให้ใบหน้าเรียบเนียน เพราะในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อาจจะมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ และสารอันตรายอื่น ๆ อยู่
สำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์แล้วเกิดอาการติดสาร หรือเกิดอาการแพ้ขึ้น จำเป็นที่จะต้องงดใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เพื่อไม่ให้อาการติดสารหรืออาการแพ้รุนแรงมากขึ้น และควรเข้าพบแพทย์และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาสิวสเตียรอยด์ให้หายขาด