หลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าโบท็อก หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด A (Botulinum toxin type A) ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม และเห็นผลลัพธ์ดีในการช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าเรียว เมื่อฉีดโบท็อกเข้าสู่ผิวจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว นอกจากนั้นโบท็อกยังสามารถฉีดเฉพาะจุด ลดเหงื่อรักแร้ ลดต้นแขน ลดน่องได้ มาดูว่าฉีดโบท็อกเฉพาะจุด เช่น รักแร้ ต้นแขน และน่อง ช่วยอะไรได้บ้าง? เหมาะกับใคร? กี่วันเห็นผล? ได้ในบทความนี้
โบท็อกเฉพาะจุด คืออะไร ?
โบท็อกเฉพาะจุดในที่นี้ คือ การฉีดโบท็อกรักแร้ลดเหงื่อ โบท็อกลดต้นแขน และโบท็อกลดน่อง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าโบท็อกสามารถฉีดในจุดเหล่านี้ได้ เพราะหลัก ๆ โบท็อกจะนำใช้บนใบหน้า นิยมฉีดลดริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยหว่างคิ้ว รอยตีนกา ริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า และลดกรามปรับรูปหน้าเรียว
1. โบท็อกรักแร้
โบท็อกรักแร้ หรือจักแร้ เป็นบริแวณที่มีต่อมเหงื่อ Apocrine จึงทำให้มีเหงื่อออกมากบริเวณรักแร้และทำให้เกิดกลิ่นตัว เป็นปัญหาของใครหลายคน เพราะเหงื่อจะซึมเปื้อนเสื้อผ้าทำให้เกิดความเปียกชื้น หรือเห็นเป็นวงชัดเจนใต้วงแขน สร้างความไม่มั่นใจ การฉีดโบท็อกรักแร้ สามารถแก้ไขปัญหาลดเหงื่อ รวมถึงลดกลิ่นตัวได้
โบท็อกรักแร้ ช่วยอะไรได้บ้าง ?
โบท็อกรักแร้ จะช่วยยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขน ให้ทำงานได้น้อยลง สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80% และยังช่วยลดการหมักหมมของแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว กลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยคุณหมอจะทำการฉีดโบท็อกรักแร้ ข้างละ 50-100 ยูนิต เข้าไปบริเวณรักแร้ 20-30 จุด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้น
ฉีดโบท็อกรักแร้ลดเหงื่อ
โบท็อกรักแร้ เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีเหงื่อออกเยอะมากเกินไป มีกลิ่นตัว จนกลายเป็นปัญหา
- คนที่ไม่อยากให้รักแร้เปียกชุ่มจนเห็นเป็นวงบริเวณใต้แขนเสื้อ
- คนที่ต้องออกงานสังคมบ่อย ๆ ต้องการความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า
- คนที่แพ้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว เช่น โรลออน สเปรย์ สติ๊ก และครีม
- คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว
- คนที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัดต่อมเหงื่อที่รักแร้
- คนที่ไม่อยากมีรอยแผลเป็นที่รักแร้
โบท็อกรักแร้ กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบท็อกรักแร้ ประมาณ 3-7 วัน เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง ในบางคนที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนก็อาจจะทำให้การผลิตเหงื่อออกมาเร็วกว่าปกติได้ สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องก็สามารถมาฉีดรักแร้ซ้ำได้
2. โบท็อกต้นแขน
ผู้หญิงที่มีต้นแขนใหญ่ อาจรู้สึกขาดความมั่นใจ เวลาที่ต้องสวมใส่เสื้อกล้าม เสื้อแขนกุด หรือเวลาที่ต้องออกงานใส่ชุดราตรีเปิดไหล่ ปัญหาของการมีต้นแขนใหญ่นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ หลัก ๆ จะมาจากไขมันสะสม ฮอร์โมน ระบบเผาผลาญ การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การยกของหนัก ก็ทำให้ต้นแขนใหญ่ขึ้นได้ ถ้าเป็นต้นแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ จับดูแล้วเนื้อจะเป็นก้อน ๆ แต่ถ้าต้นแขนใหญ่จากไขมัน จับดูแล้วจะเป็นเนื้อเหลว ๆ ผิวไม่กระชับและเริ่มหย่อนคล้อย
โบท็อกต้นแขน ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การฉีดโบท็อกต้นแขน ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว และเกิดการคลายตัว จึงช่วยให้ต้นแขนใหญ่มีขนาดเล็กลง และดูเรียวขึ้น ซึ่งจะเหมือนกับการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ปรับรูปหน้าเรียว โบท็อกต้นแขนใช้ประมาณ 200 ยูนิต ซึ่งจะมากกว่าจุดอื่น ๆ เนื่องจากต้นแขน เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก และกล้ามเนื้อเหล่านี้กลับมาทำงานได้เร็ว ปริมาณโบท็อกที่ใช้จึงมากกว่า
โบท็อกต้นแขน เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีกล้ามแขนขนาดใหญ่ อยากมีต้นเขนเรียวเล็ก
- คนที่อยากใส่เสื้อแขนกุด เสื้อกล้าม เกาะอก แต่ไม่มั่นใจเพราะต้นแขนใหญ่
- คนที่ออกกำลังกายแต่ไม่อยากให้กล้ามแขนใหญ่เกินไป
ไม่ใช่ทุกคนที่ต้นแขนใหญ่ จะสามารถใช้วิธีลดต้นแขนด้วยการฉีดโบท็อกได้ เพราะโบท็อกจะออกฤทธิ์ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้าต้นแขนใหญ่จากไขมัน และผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย แนะนำหัตถการที่เหมาะสมและเห็นผลดี เช่น Coolsculpting ฉีดเมโสแฟต และ Hifu ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ได้ผลและตรงจุดกว่า
ฉีดโบท็อกลดต้นแขนใหญ่ หลังฉีดโบท็อกต้นแขนครั้งแรก กล้ามเนื้อจะเล็กลงประมาณ 10-20% และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 เดือน คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด หากมีการใช้กล้ามเนื้อแขนมาก ๆ เหมือนเดิม ต้นแขนก็จะกลับมาใหญ่ กล้ามแขนโตขึ้นได้อีก โดยสามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้ เพื่อคงขนาดกล้ามเนื้อแขน ให้แขนเล็กเรียวสวยมากขึ้นได้ ตามคำแนะนำของแพทย์
ต้นแขนเรียวเล็กลง
3. โบท็อกน่อง
ปัญหาน่องใหญ่ เกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะคนที่ต้องใส่ส้นสูงตลอดเวลาเช่น ในบางอาชีพที่ต้องเดินหรือยืนนาน ๆ จะใส่กางเกงขาสั้นหรือกางเกงรัดรูปเพื่ออวดเรียวขาก็ทำไม่ได้ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนใครที่น่องใหญ่จากปัญหาไขมัน สามารถทำให้น่องกลับมาเรียวกระชับได้ด้วยการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา ควบคู่กับการควบคุมอาหาร แต่ถ้าน่องใหญ่จากกล้ามเนื้อ ต้องการลดน่อง ฉีดโบท็อกช่วยได้
โบท็อกน่อง ช่วยอะไรได้บ้าง ?
โบท็อกจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อน่องที่ใหญ่มีขนาดเล็กลง โดยคุณหมอจะฉีดโบท็อกน่องเข้าไปยังกล้ามเนื้อ Gastrocnemius ที่บริเวณขาส่วนที่เป็นน่อง
ฉีดโบท็อกกล้ามเนื้อ Gastrocnemius ถ้าต้องการให้น่องเล็กลงมาก ๆ อาจจะต้องใช้ยูนิตเยอะมากถึง 500-600 ยูนิตต่อขา 1 ข้าง แต่เนื่องจากร่างกายของคนเราไม่สามารถรับโบท็อกปริมาณมากเกิน 300 ยูนิตได้ในระยะ 3 เดือน ถ้าฉีดครั้งเดียวในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลต่อการยืนและเดินได้ จึงต้องทยอยฉีด โดยจะฉีดครั้งละ 200 ยูนิต ฉีดเฉพาะกล้ามเนื้อน่องบางส่วนในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อการยืนหรือเดินเพราะยังมีกล้ามเนื้ออื่น ๆ พยุงอยู่
โบท็อกน่อง เหมาะกับใคร ?
- คนที่ใส่ส้นสูงตลอด ทำให้น่องโต น่องใหญ่
- คนชอบการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อบริเวณน่องทำงานหนัก มีขนาดใหญ่ขึ้น
- คนที่ต้องการให้ขาเรียวแบบเร่งด่วน
ก่อนฉีดโบท็อกน่อง คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินดูก่อนว่าน่องที่มีขนาดใหญ่นั้นเกิดจากกล้ามเนื้อหรือไขมัน เพื่อวางแผนปรับรูปทรงน่องให้เกิดความสมดุล ขาเรียวสวยรับกับสรีระร่างกาย ในคนที่น่องโตเพราะกล้ามเนื้อสามารถใช้โบท็อกรักษาได้ แต่ในคนไข้บางเคสน่องใหญ่เพราะไขมัน แนะนำให้ทำร่วมกับฉีดเมโสแฟต จะให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
โบท็อกต้นแขน กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบท็อกน่อง จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 เดือน ในการฉีด 1 ครั้ง จะลดลงได้ประมาณ 10-20% เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณน่องเป็นมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานกล้ามเนื้อน่องด้วย ถ้ายังต้องเดินบ่อย ๆ หรือใส่ส้นสูงตลอดเวลา กล้ามเนื้อจะกลับมาคืนสู่สภาพเดิมได้ไวขึ้น สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ สำหรับใครที่มีปัญหามีเหงื่อบริเวณรักแร้เยอะ ต้องการลดต้นแขน ลดน่องให้เรียวสวย การฉีดโบท็อกสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ายังไม่แน่ใจ คลินิกเสริมความงามชั้นนำมีบริการปรึกษาฟรี ทั้งนี้ ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้โบท็อกแท้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย