ฟิลเลอร์อันตรายไหม?
สำหรับใครที่คิดจะฉีดฟิลเลอร์ ต้องศึกษาให้ดีก่อนครับ เพราะสมัยนี้ยังมีคนที่นิยมไปฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือคลินิกเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากเห็นว่ามีฟิลเลอร์มีราคาถูก ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะอาจเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมาได้ครับ
แล้วแบบนี้จะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? อายุเท่าไหร่ฉีดฟิลเลอร์ได้ หากฉีดไม่ถูกวิธีหรือมีผลข้างเคียงจะแก้ไขอย่างไร? และถ้าอยากให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปแล้วคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ ทำอย่างไร? หมอได้อธิบายทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ (filler) ไว้ในบทความนี้ครับ
ทำความรู้จักฟิลเลอร์อันตรายไหม?
ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่หมายถึงสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA เป็นประเภทฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย และได้รับความนิยมมากที่สุดครับ เพราะสามารถย่อยสลายได้เอง ฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ และนิยมใช้แพร่หลายในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ
เมื่อมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่นำมาฉีด เป็นฟิลเลอร์ HA แท้ ต่อมาที่ต้องระวังคือเทคนิคการฉีดของแพทย์ครับ ต้องเลือกฉีดกับแพทย์มีประสบการณ์ 5-10 ปี รู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เทคนิคการใช้เข็มที่ถูกวิธี ระวังไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด จนเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายครับ
ฟิลเลอร์ ทำหน้าที่อะไร?
ฟิลเลอร์ที่แพทย์ฉีดจะมีหน้าที่หลักคือ เข้าไปช่วยเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง เติมเต็มชั้นผิวในบริเวณที่พร่องไป เนื่องจากคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายลดลง ไขมันใต้ชั้นผิวหายไป (Volume loss) เกิดเป็นริ้วรอย ร่องลึก ซึ่งจะค่อย ๆ เห็นเด่นชัด เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น ผิวเต่งตึง ผิวเนียนเรียบ และริ้วรอยลดลงครับ
ฉีดฟิลเลอร์ บริเวณไหนได้บ้าง?
โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะนิยมฉีดบริเวณใบหน้าที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือบริเวณที่มีการยุบตัวของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้นครับ
- ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์คาง
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ฟิลเลอร์ปาก
- ฟิลเลอร์ยกมุมปาก
- ฟิลเลอร์ขมับ
- ฟิลเลอร์หน้าผาก
- ฟิลเลอร์จมูก
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผิวหนังจะดูเต็มและตื้นขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูอวบอิ่ม สดใส หน้าเด็กลง อย่างเป็นธรรมชาติครับ
นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว คนที่อยากปรับโหงวเฮ้ง เช่น บริเวณหน้าผาก ขมับ การฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ แต่ไม่ว่าจะต้องการฉีดเพื่อความสวยงามหรือเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง ควรให้แพทย์ช่วยประเมินโครงหน้า และเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเหมาะสม เข้ากับใบหน้าครับ
อายุเท่าไหร่ฉีดฟิลเลอร์ได้?
ในทางการแพทย์แล้ว ไม่ได้มีข้อกำหนดครับว่าควรเริ่มทำตอนอายุเท่าไหร่ แต่ว่าโดยปกติหากจะทำหัตถการใด ๆ ก็ตาม ควรมีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไป ถ้าอายุน้อยกว่านั้น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนครับ
แต่โดยทั่วไปเมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างผิว โครงหน้าก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ริ้วรอยเริ่มถามหา ซึ่งมักพบตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งจุดแรกที่จะสังเกตเห็นได้ก่อน คือ ร่องใต้ตา และร่องแก้มที่เริ่มยุบตัวลงครับ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าก่อนได้ครับ
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้กับทุกคนหรือไม่?
อยากดูดีขึ้น สวยหล่อขึ้น สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ปรับรูปหน้าให้สมส่วน สดใส หน้าเด็กลงได้ครับ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ มาดูกันครับว่าใครบ้างที่ห้ามฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือแพ้สารไฮยาลูรอนิค แอซิด
- สตรีมีครรภ์ ผู้ที่ให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (ASA), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), วิตามินอี (Vitamin E), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko biloba)
- ผู้ที่เป็นเริม หรืองูสวัด
ฟิลเลอร์อันตรายไหม จึงอันตรายสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาข้อมูล และดูก่อนว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้หรือไม่ครับ
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ยังมีข้อควรระวัง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง หรืออาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ ดังนี้ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดรอยแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีด สามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดรอยนูน หรือผิวไม่เรียบ (beading) เนื่องจากใช้เทคนิคการฉีดที่ตื้นเกินไปหรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลไม่เหมาะสม อาจทำให้เห็นฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือเป็นรอยนูนได้
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ฉีด มักเกิดเมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์ใกล้ ๆ กับกล้ามเนื้อที่มีการขยับบ่อย ๆ การเลือกฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลเหมาะสม และเทคนิคการฉีดที่ถูกวิธีจะช่วยลดผลข้างเคียงและคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ได้นานขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เกิดเป็นก้อน นูน แดงอักเสบ พบได้บางครั้ง ภายหลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วหลายเดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับอายุใช้งานของฟิลเลอร์ชนิดนั้น ๆ และภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เกิดผื่น ลมพิษแบบรุนแรง (angioedema) ซึ่งพบได้น้อยมาก หากพบต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดการติดเชื้อ มีอาการตั้งแต่ ปวดบวม แดง ร้อน มีตุ่ม หรือก้อนหนองบริเวณที่ฉีด เนื่องจากเทคนิควิธีการฉีดที่ไม่สะอาด คลินิกไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋า หมอเถื่อน
- ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง โดยฉีดเข้าไปโดนบริเวณหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดแดง อาจทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดได้ นำไปสู่อาการเนื้อตาย (necrosis) บริเวณที่เส้นเลือดนั้นมาเลี้ยง
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด อันตรายที่สุด เกิดจากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอุดตัน บีบ หรือกดหลอดเลือดแดง (supratrochlear and supraorbital artery) ซึ่งมีแขนงต่อไปที่หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา (ophthalmic artery) มีผลทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ข้อห้ามและการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มาก 8-10 แก้ว โดยเฉพาะ 4 วันแรก เพราะจะช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มเก็บกักน้ำได้ค่อนข้างดีครับ นอกจากนั้นยังมีข้อห้ามและการปฏิบัติตัว ดังนี้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?
ราคาฟิลเลอร์สามารถบอกได้ครับว่าฟิลเลอร์อันตรายไหม เพราะถ้ามีราคาถูกเกินไป แบบที่ขายตามอินเทอร์เน็ต ให้สันนิษฐานก่อนเลยครับว่าอันตราย ไม่คุ้มครับ เพราะอาจเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงตามมาภายหลังได้
ปัจจุบันราคาฟิลเลอร์จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคลินิก ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ครับ
- ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 cc ราคาเริ่มต้น 11,000 บาท
- ฟิลเลอร์คาง 1 cc ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 cc ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท
- ฟิลเลอร์ปาก 1 cc ราคาเริ่มต้น 13,000 บาท
- ฟิลเลอร์ขมับ 1 cc ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท
- ฟิลเลอร์หน้าผาก 1 cc ราคาเริ่มต้น 13,000 บาท
- ฟิลเลอร์จมูก 1 cc ราคาเริ่มต้น 13,000 บาท
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจเกิดการบวมในจุดที่ฉีดได้ครับ ประมาณ 4-5 วัน อาการบวมจะยุบลง และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่หัตถการที่อยู่ได้ถาวรครับ เมื่อเวลาผ่านไป สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) จะย่อยสลายได้เองตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วหากฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานครั้งหนึ่ง จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี?
แม้ปัจจุบันจะมีคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการฉีดฟิลเลอร์จำนวนมาก แต่ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ต้องพิจารณาดี ๆ ครับ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอแนะนำให้พิจารณาตามนี้ครับ
- เลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าและฉีดฟิลเลอร์ 5-10 ปี
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถตรวจสอบได้ และราคาสมเหตุสมผล
- ดูรีวิวของลูกค้าที่เคยมาใช้บริการ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้
- คลินิกต้องมีการติดตามผลหลังฉีดทุกครั้ง
- สถานที่ การเดินทาง ที่จอดรถ มีความสะดวก
- สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้
ดูรีวิวการฉีดฟิลเลอร์
เข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์กันมากขึ้น แต่หมออยากจะเน้นย้ำอีกครั้งครับว่า การฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และคนที่ฉีดฟิลเลอร์จะต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านเคสมาหลากหลาย รู้เทคนิควิธีการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดที่ถูกต้อง และมีความเข้าใจในการแก้ปัญหาและปรับรูปหน้าที่เป็นธรรมชาติครับ