ข้อควรรู้ เสริมจมูกแบบปิด คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับ เทคนิค Open

ถ้าพูดถึงการเสริมจมูก ปัจจุบันมีเทคนิคการเสริมจมูกหลากหลายรูปแบบให้เลือกทำ และหนึ่งในนั้นคือ การเสริมจมูกแบบปิด เรียกว่าเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับแบบโอเพ่นเลย แต่การที่จะเสริมจมูกแบบปิดให้ออกมาดูสวยกับใบหน้าของเรานั้นจะต้องมีเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์เข้ามาช่วย ดังนั้น หากใครคิดหรือสนใจที่จะเสริมจมูกแบบนี้แล้วล่ะก็ ปักหมุดไว้ เราจะพาไปดูกัน

การเสริมจมูกแบบปิด จะเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อปรับรูปทรงของจมูกให้เหมาะสมกับเค้าโครงหน้าของผู้ทำ
การเสริมจมูกแบบปิดคืออะไร

การเสริมจมูกแบบปิด คืออะไร

      การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) หรือทรงแบบเอเชีย ที่พูดเช่นนี้เนื่องจากการเสริมจมูกด้วยเทคนี้ได้รับความนิยมมากในแถบเอเชียนั่นเอง เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ได้ เช่น การยกปลายจมูก การเสริมปลายจมูก ซึ่งหลักการง่าย ๆ ที่ใช้ในการผ่าตัดเพื่อเสริมจมูกด้วยวิธีนี้จะเป็นการไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อปรับรูปทรงของจมูกให้เหมาะสมกับเค้าโครงหน้าของผู้ทำ ด้วยความที่เสริมชนิดนี้จะใช้การพักฟื้นที่ไม่นาน ไม่ต้องลางานกันหลายวัน ก็ทำได้ ยิ่งทำให้เป็นที่นิยมกันมากนั่นเอง โดยทั่วไป แพทย์จะทำการแก้ไขโครงสร้างโดยใช้ซิลิโคนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสันจมูกหรือการเติมปลายจมูก ที่ดีไปกว่านั้นคือ แผลจะอยู่ด้านในของจมูก ซึ่งจะซ่อนอยู่ในหนึ่งหรือสองด้านก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์แต่ละคนด้วย

ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแบบเปิด จะนิยมซิลิโคนของประเทศเกาหลี ซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งรูปทรงตัว I เนื้อซิลิโคนจะมีความนิ่มมาก
ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแบบเปิดเป็นแบบไหน

ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแบบเปิดเป็นแบบไหน

      หลายคนอาจจะกำลังสงสัย ว่าเจ้าซิลิโคนที่จะใช้ในการเสริมจมูกแบบปิดนั้นมันเหมือนกับซิลิโคนทั่ว ๆ ไปหรือไม่อย่างไร แล้วมันดีกับเทคนิคนี้อย่างไร เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับซิลิโคนมาไว้ให้แล้ว

         ซิลิโคน เป็นวัสดุทางการแพทย์ ใช้เพื่อเป็นการปรับแต่งรูปทรงขึ้นมาในการเสริมจมูก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายและได้ผลดีที่มาก เนื่องจากเจ้าแท่งซิลโคนสามารถอยู่ในร่างกายของมนุษย์โดยไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาอันตรายกับร่างกายแต่อย่างใด นั่นเป็นผลมาจากร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มแท่งซิลิโคนนี้เพื่อยึดเอาไว้ได้เองตามธรรมชาติ ข้อดีของการใช้ซิลิโคน คือ หากต้องการเปลี่ยนหรือเอาออกก็สามารถเอาออกได้ทั้งแท่ง โดยไม่เหลือตกค้างไว้ สิ่งสำคัญในการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้นอยู่ที่ขนาดและความยาวของซิลิโคนที่จะนำไปใส่ในจมูก แพทย์จะต้องมีความรู้เรื่องปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อน้อย (implant-tissue reaction) เพื่อที่จะได้ใช้ซิลิโคนที่มีขนาดเหมาะสมกับโครงสร้างจมูกนั่นเอง

         ซิลิโคนที่ใช้สำหรับเสริมจมูก เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

  1. ซิลิโคนประเภทสำเร็จรูป ขึ้นชื่อว่าสำเร็จรูป แปลว่ามาในรูปแบบที่เป็นแท่งแล้ว พร้อมที่จะใช้งาน มีขนาดความกว้าง ความยาวที่หลากหลายเพื่อรองรับในคนแต่ละคนที่พื้นที่โครงสร้างหน้าและเนื้อจมูกที่แตกต่างกัน โดยก่อนการเสริมจมูก แพทย์อาจจะต้องปรับรูปทรงของซิลิโคนเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกของแต่ละคน ข้อดีของซิลิโคนประเภทนี้คือ ได้รูปทรงที่แน่นอน โอกาสที่จะเบี้ยวหรือเอียงมีน้อยมาก อีกทั้ง เรายังสามารถเลือกเนื้อของซิลิโคนได้ว่าต้องการความนิ่มหรือแข็งมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็มีให้ใช้ด้วยกันหลายเกรด
  1. ซิลิโคนประเภทแบบเหลาเอง จะมีลักษณะเป็นซิลิโคนแผ่นใหญ่ แล้วจึงนำมาเหลาเองเพื่อให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับจมูกของแต่ละคน ไม่ว่าเราจะต้องการความโด่งมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถควบคุมรูปทรงได้ด้วยการปรับเหลาเอาเอง อย่างทรงจมูกแบบหยดน้ำที่นิยมกันมากนั้น ก็ใช้ซิลิโคนประเภทนี้ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผู้ทำด้วย

         ในส่วนของซิลิโคนที่ใช้ในเทคนิคการเสริมจมูกแบบปิดนั้น จะนิยมซิลิโคนของประเทศเกาหลี ซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งรูปทรงตัว I เนื้อซิลิโคนจะมีความนิ่มมาก ซึ่งจะเป็นข้อเสียในการเหลาปรับแต่งทรงให้เหมาะสมกับโครงสร้าง ซึ่งว่าเป็นส่วนที่สำคัญในการเสริมจมูกแบบปิด ส่วนซิลิโคนอีกแบบที่จะใช้กันในเทคนิคนี้คือ ซิลิโคนรูปตัว L นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเป็นการต่อยอดที่เพิ่มมาจากซิลิโคนรูปตัว I ที่ส่วนปลายและขาของซิลิโคน เพื่อยกปลายจมูกให้มีความโด่ง สวยในองศาที่ถูกต้อง แต่ทั้งนี้ก็ควรจะใช้อย่างเหมาะสม เนื่องจากส่วนปลายที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจจะทำให้รูปทรงดูสวยขึ้นก็จริง แต่ยังก็ก่อให้เกิดผลกับปลายจมูกที่จะมีความบางมากขึ้นเช่นกัน และโอกาสที่ปลายจะทะลุก็มีมากขึ้น หากแพทย์เหลารูปทรงซิลิโคนไม่เหมาะสม ซึ่งความนิ่มของซิลิโคนที่เลือกใช้ควรอยู่ในระดับที่ไม่นิ่มจนเกินไป เนื่องจากแพทย์จะทำการเหลารูปทรงในการปรับโครงสร้างได้ยาก และผลที่ได้จะทำให้จมูกที่ทำออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบปิด จะเริ่มจากการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ที่จะเป็นคนผ่าให้ เพื่อประเมินโครงสร้างของจมูกว่าจะเหมาะสมกับการเสริมจมูกแบบนี้หรือไม่
ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบปิด

ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบปิด

  1. จะเริ่มจากการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ที่จะเป็นคนผ่าให้ เพื่อประเมินโครงสร้างของจมูกว่าจะเหมาะสมกับการเสริมจมูกแบบนี้หรือไม่
  2. หลังการประเมินแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะเหลาซิลิโคนให้มีขนาดที่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกของผู้เข้ารับทำ
  3. จากนั้นจะทำการฉีดยาชาในบริเวณที่จะต้องนำซิลิโคนเข้าไปใส่เพื่อระงับความรู้สึก โดยมากจะไม่นิยมใช้ยาสลบ
  4. แพทย์จะเริ่มเปิดแผลในรูจมูก หนึ่งหรือสองข้าง แล้วสร้างช่องว่างเพื่อใส่ซิลิโคน โดยซิลิโคนนี้จะอยู่เหนือกระดูกอ่อนและใต้เยื่อหุ้มกระดูกในส่วนบริเวณกระดูกแข็ง
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการเสริมจมูกแบบอื่น ๆ
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด

  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการเสริมจมูกแบบอื่น ๆ
  • ไม่เห็นแผลผ่าตัดจากด้านนอก เนื่องจากใช้เทคนิคซ่อนแผลจากด้านใน
  • แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดที่ทำโดยไม่ต้องใช้ยาสลบ
  • ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน และสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
  • มีความบวมช้ำน้อยกว่า ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ช้ำเลย สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้
  • ผลข้างเคียงน้อยกว่า โอกาสจะเกิดแผลก็มีน้อยกว่า
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด มีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุได้มาก ถ้าหากเสริมซิลิโคนที่มีความโด่งมากเกินไป
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด

ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด

  • มีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุได้มาก ถ้าหากเสริมซิลิโคนที่มีความโด่งมากเกินไป
  • ไม่เหมาะกับจมูกทุกรูปทรง โดยเฉพาะจมูกทรงชมพู่จะไม่สามารถใช้เทคนิคนี้ทำได้
  • ไม่สามารถทำให้โด่งหรือปลายมีความเชิดได้เท่ากับการเสริมจมูกแบบโอเพ่น

      เราได้ทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเสริมจมูกแบบปิดกันแล้ว หากใครสนใจควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและประเมินโครงสร้างจมูกก่อนที่จะทำ เพื่อประโยชน์สูงสุด

Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]